ทำเนียบฯ 31 ม.ค.- ครม. ขยายเวลาส่งเสริมปลูกข้าวอินทรีย์ ถึง ก.ย.2566 เกษตรกรเข้าร่วม 94,888 คน พื้นที่ปลูก 847,373 ไร่ จ่ายเงินอุดหนุนไร่ละ 2-4 พันบาท ไม่เกินรายละ 15 ไร่ ต่อเนื่อง 3 ปี
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบขยายเวลา โครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ ถึงสิ้นสุดปีงบประมาณ 2566 จากเดิมสิ้นสุดปีงบประมาณ 2565 โดยกลุ่มเกษตรกรสมาชิก 5 คนขึ้นไป พื้นที่รวมกันไม่ต่ำกว่า 100 ไร่ ต้องมีทะเบียนเกษตรกร มีเอกสารสิทธิ์ในพื้นที่ โดยกระทรวงเกษตรฯ อุดหนุนให้เกษตรกร ที่ผ่านการประเมิน ไม่เกินรายละ 15 ไร่ แบ่งการจ่ายเงิน 3 ระยะ ต่อเนื่อง 3 ปี
รัฐบาลพร้อมสนับสนุนเงินอุดหนุนระยะแรก(T1) ไร่ละ 2,000 บาท ระยะปรับเปลี่ยน (T2) สนับสนุนเงินอุดหนุน ไร่ละ 3,000 บาท และระยะการรับรองมาตรฐานการผลิตข้าวอินทรีย์ (Organic Thailand) (T3) สนับสนุนเงินอุดหนุนไร่ละ 4,000 บาท (เกษตรกรจะร่วมโครงการฯ ที่ระยะ T1 และเมื่อผ่านการประเมินจะเลื่อนเป็นระยะ T2 และ T3 ในปีถัดไป ตามลำดับ) กำหนดระยะเวลาโครงการฯ 5 ปี (ปี 2560 – 2564) รับเกษตรกรเฉพาะปี 2560 – 2562 เพื่อให้สอดคล้องกับการประเมิน 3 ระยะ (T1, T2 และ T3) ที่ต่อเนื่อง 3 ปี วงเงิน 9,696 ล้านบาท (ตามมติ ครม. เมื่อวันที่11 เม.ย. 60) ประโยชน์ที่คาดจะได้รับ สามารถผลิตข้าวเปลือกอินทรีย์ได้ 400,000 ตัน สร้างกลุ่มชาวนาที่มีความเข้มแข็ง รักษาระบบนิเวศและสภาพแวดล้อมให้มีความสมดุล
สำหรับปี 2564 นั้น กรมการข้าวยังไม่สามารถจ่ายเงินอุดหนุนได้ เนื่องจากผลผลิตข้าวอินทรีย์ส่วนใหญ่จะเก็บเกี่ยวในช่วง พ.ย. – ธ.ค. ของทุกปี ในการประชุม นบข. เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2565 มีมติเห็นชอบให้ขยายเวลาดำเนินโครงการ ฯ สอดคล้องกับฤดูเก็บเกี่ยวข้าวอินทรีย์ รวมทั้งเพื่อให้ กรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีเวลาพอเพียงในการตรวจสอบสิทธิเกษตรกร เพื่อจ่ายเงินอุดหนุนแก่เกษตรกรให้เสร็จสิ้นภายในปีงบฯ 2566
โครงการ ฯ ดำเนินการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2560 ตามแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร ปี 2560/2561 โดยมีกรอบวงเงิน 9,696 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ ให้ได้พื้นที่ 1 ล้านไร่ และให้เกษตรกรได้รับการรับรองการผลิตข้าวตามมาตรฐาน ข้าวอินทรีย์ (Organic Thailand) จำนวน 66,700 คน ภายในปี 2564 ซึ่งผลการดำเนินการระหว่างปี 2560-2564 มีกลุ่มเกษตรกรกลุ่ม T1, T2 และ T3 ที่เข้าร่วมโครงการ ฯ จำนวน 94,888 คน(จำนวน 4,636 กลุ่ม) และมีพื้นที่ปลูกข้าวอินทรีย์ที่ร่วมโครงการ ฯ
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวในที่ประชุม ครม.ว่า โครงการ ฯ สอดคล้องกับโครงการข้าวรักษ์โลก และแนวทาง BCG ของรัฐบาล จึงเห็นสมควรให้กระทรวงเกษตรฯ ร่วมกับกระทรวงพาณิชน์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มขีดความสามารถในการส่งออกสินค้าไทย พัฒนาช่องทางการขายข้าวอินทรีย์ เช่น การค้าออนไลน์ เพื่อให้สินค้าสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรง ตลอดจนพัฒนา การตลาดและการแปรรูปผลิตภัณฑ์ข้าวอินทรีย์เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคทุกช่วงวัย ทั้งในและต่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย