นครราชสีมา 22 ม.ค. – ตำรวจเร่งหาสาเหตุอุบัติเหตุรถตู้ผู้โดยสารพุ่งชนราวเหล็กกั้นทาง บนถนนมิตรภาพ ขาเข้า กทม. ช่วง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ทำให้ไฟคลอกผู้โดยสาร-คนขับเสียชีวิตรวม 11 ศพ และมีผู้รอดชีวิต 1 คน พร้อมส่งศพทั้งหมดไปพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลที่สถานบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ
ความคืบหน้าอุบัติเหตุสุดสลด รถตู้โดยสาร กรุงเทพฯ-อำนาจเจริญ เสียหลักพุ่งชนราวเหล็กกั้นทาง บริเวณเกาะกลางถนนมิตรภาพ ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ช่วงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 100-99 บ้านมอจะบก อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เมื่อเวลาประมาณ 22.23 น. คืนที่ผ่านมา (21 ม.ค.) ทำให้เกิดไฟลุกไหม้ท่วมรถตู้คลอกผู้โดยสารและคนขับเสียชีวิตรวม 11 ศพ และมีผู้รอดชีวิตหวุดหวิดคลานหนีออกมาจากรถได้ 1 คน
เหตุดังกล่าวมีภาพจากกล้องวงจรปิดจุดบริการประชาชน หน่วยกู้ภัยฮุก 31 จุดสีคิ้ว บันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ ขณะรถตู้วิ่งมาด้วยความเร็วสูง มุ่งหน้ากรุงเทพฯ ก่อนเสียหลักชนราวเหล็กกั้นทางที่กั้นร่องกลางถนน ก่อนเกิดไฟลุกไหม้อย่างรุนแรงและรวดเร็ว
หลังเกิดเหตุผู้สื่อข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ สภาพราวเหล็กกั้นทางถูกชนพังเสียหายยาวกว่า 10 เมตร ใกล้จุดกลับรถเป็นเนินลาดชัน ป้ายบอกทางพังราบ มีร่องรอยไฟไหม้ เสื้อผ้าข้าวของยังกองอยู่ในร่องเกาะกลางถนน และมีเจ้าหน้าที่เข้าทำความสะอาด เก็บกวาดถนน
ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับหัวหน้ากู้ภัยฮุก 31 จุดสีคิ้ว ซึ่งอยู่ประจำจุดบริการประชาชน ถนนมิตรภาพ ตั้งอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุพอดี ให้ข้อมูลว่า ถนนมิตรภาพจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง สัปดาห์นี้มีรถเสียหลักชนราวเหล็กกั้นทางพลิกคว่ำ 3 ครั้ง คาดสาเหตุมาจากสภาพผิวถนน มีจุดกลับรถอยู่บนเนินลาดชัน มีช่องจราจรเพิ่มอีก 1 เลนกว้างขึ้น จากทางเบี่ยงถนนมิตรภาพ เชื่อมกับถนน 24 (สีคิ้ว-เดชอุดม) เมื่อรถมาทางตรงผ่านจุดกลับรถ มักจะเบี่ยงเข้าเลนขวาและเสียหลักพุ่งชนราวเหล็กกั้นทาง เกิดอุบัติเหตุในที่สุด ที่ผ่านมาได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยติดตั้งสัญญาณไฟกะพริบ เพื่อแจ้งเตือนผู้ใช้เส้นทางเพิ่มความระมัดระวัง หลังก่อนหน้านี้ถูกรถบรรทุกชนเสียหาย แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการติดตั้งแต่อย่างใด
ส่วนรถตู้คันเกิดเหตุมีการเคลื่อนย้ายมาเก็บไว้ที่ สภ.สีคิ้ว เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่จากสภาพรถพบเสียหายทั้งคัน ภายในห้องโดยสารใต้เบาะนั่งมีถัง ก๊าซเอ็นจีวี 3 ถัง เชื่อว่าเป็นสาเหตุทำให้เกิดไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว
เจ้าหน้าที่ คปภ. เผยรถตู้มีประกันอุบัติเหตุ
เจ้าหน้าที่สำนักงานประกันภัย จ.นครราชสีมา (คปภ.) ตรวจสอบรายละเอียดการทำประกันภัยของรถตู้คันเกิดเหตุ พบว่าเจ้าของรถเป็นของห้างหุ้นส่วนจำกัดแห่งหนึ่งใน จ.อำนาจเจริญ ส่วนคนขับทราบชื่อคือ นายวันชัย และพบหลักฐานการทำประกันภัยภาคสมัครใจ ประเภท 5 รวมทั้งมีประกันอุบัติเหตุ และประกัน พ.ร.บ.ภาคบังคับ ในการดูแลของบริษัทมิตรแท้ประกันภัย
เมื่อดูรายละเอียดการคุ้มครองความเสียหายจากอุบัติเหตุครั้งนี้ พบว่าคุ้มครองผู้โดยสารที่เสียชีวิต 10 ราย ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ. 500,000 บาท จากประกันภาคสมัครใจ 500,000 บาท และประกันอุบัติเหตุ 100,000 บาท รวมค่าชดเชยรายละ 1,100,000 บาท ส่วนกรณีคนขับรถได้ความคุ้มครองแค่ค่าปลงศพจาก พ.ร.บ. 35,000 บาท และประกันอุบัติเหตุอีก 100,000 บาท รวม 135,000 บาท อยู่ระหว่างประสานงานกับบริษัทประกันภัย เพื่อดูแลค่าชดเชยเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น
ผู้รอดชีวิตเล่านาทีเกิดเหตุ ถีบกระจำข้างรถคลานออกมา
นายธนชิต อายุ 20 ปี ผู้โดยสารหนึ่งเดียวที่รอดชีวิต แพทย์อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล และเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.สีคิ้ว และไปชี้ให้ดูจุดที่ตัวเองนั่งโดยสารมาในรถตู้ บริเวณเบาะนั่งชั้นในแถวที่ 3 ซึ่งมีผู้โดยสารคนอื่นๆ นั่งมาเต็มทุกเบาะนั่ง มีเด็กชายอายุ 5-6 ขวบ และเด็กผู้หญิงอายุ 6-7 ขวบ นั่งมากับผู้ปกครอง รวมผู้โดยสารมีทั้งหมด 11 คน และคนขับ 1 คน รวมเป็น 12 คน โดยตนนั่งรถตู้มาจาก จ.อำนาจเจริญ มุ่งหน้าปลายทางกรุงเทพมหานคร เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุตนนั่งหลับ รถเกิดเสียหลักไถลครูดไปกับราวเหล็กกั้นจึงรู้สึกตัว ก่อนได้ยินเสียงผู้โดยสารร้องกรี๊ดลั่นห้องโดยสาร เมื่อรถตกร่องเกาะกลางถนน ไม่ทันหยุดนิ่งก็เกิดประกายไฟลุกไหม้ทันที ตนใช้เท้าถีบกระจกข้างรถคลานกระเสือกกระสุนออกมาได้ทัน ก่อนวิ่งหนีออกจากตัวรถที่มีไฟลุกไหม้ท่วมทั้งคัน ไม่ทันจะได้ช่วยเหลือใคร เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก รู้สึกตกใจ สลดเสียใจเมื่อทราบข่าวว่าผู้โดยสารคนอื่นๆ รวมทั้งคนขับ เสียชีวิตยกคัน รอดเพียงตนคนเดียว
ผู้รอดชีวิตเชื่อบารมี “ท้าวเวสสุวรรณ” ที่ห้อยคอทำให้รอดตาย
หลังเกิดเหตุนายธนชิตตั้งใจจะบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้เสียชีวิตทั้งหมด เพื่อลบภาพติดตากับเหตุสลด นายธนชิตบอกว่าเครื่องรางที่ห้อยคอติดไว้ตลอดเวลาคือ พระเครื่องท้าวเวสสุวรรณ วัดจุฬามณี จ.สมุทรสงคราม และเชื่อว่าบารมีของท่านช่วยคุ้มครองให้ตนรอดชีวิต อย่างปาฏิหาริย์
ขณะที่นายสุรเดช อายุ 45 ปี ผู้สูญเสียลูกสาววัยแค่ 7 ขวบ พร้อมภรรยาที่นั่งในรถตู้มรณะ ร้องไห้จุกอก น้ำตาคลอเบ้า บอกว่าภรรยาพาลูกสาว 7 ขวบ เดินทางมาหาพ่อที่กรุงเทพฯ คุยกันครั้งสุดท้ายตอน 1 ทุ่ม บอกว่าขึ้นรถตู้แล้ว กระทั่งตนมารอรับเมื่อเวลา ตี 1ยังมาไม่ถึงเสียที ก่อนรู้ข่าวรถตู้ประสบอุบัติเหตุ ทั้งภรรยาและลูกสาวถูกไฟคลอกเสียชีวิต ทำใจไม่ได้ แม้จะมีเงินประกันคุ้มครอง 1 ล้านบาท ก็ไม่สามารถทดแทนความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต
ตร.เร่งหาสาเหตุอุบัติเหตุรถตู้ชนราวเหล็กกั้นทาง
ด้านผู้กำกับการ สภ.สีคิ้ว เปิดเผยว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะเกิดจากการขับรถเร็ว ความประมาท หรือคนขับอาจหลับใน ทั้งนี้ ต้องรอการตรวจสอบพยานหลักฐานจากปากคำพยาน และกล้องวงจรปิดใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง จึงจะสามารถสรุปสาเหตุที่แน่ชัดได้
นอกจากนี้ได้ประสานญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 11 ศพ ให้นำเอกสารระบุตัวตนมาติดต่อพนักงานสอบสวน เพื่อยืนยันตัวบุคคล ขณะนี้ยังไม่สามารถรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลได้ เนื่องจากต้องส่งทั้ง 11 ศพไปพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพฯ เพื่อความชัดเจน เพราะสภาพศพทุกรายถูกไฟไหม้เกรียมทั้งหมด
สลด! ครอบครัวคนขับเสียชีวิตรวม 3 คน
ทีมข่าวได้เดินทางไปยังบ้านโคกสวาท ต.นาผือ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ ซึ่งเป็นบ้านของภรรยานายวันชัย คนขับรถตู้ ได้พบกับนายวินัย อายุ 54 ปี พี่ชาย ให้ข้อมูลว่าน้องสาวของตนซึ่งเป็นภรรยาของคนขับรถตู้ ได้เดินทางไปกับนายวันชัย ซึ่งเป็นคนขับรถตู้โดยสารไม่ประจำทางของห้างหุ้นส่วนจำกัดมนตรีทรัพย์เจริญ ปกตินายวันชัยจะขับรถไปส่งผู้โดยสารที่ กทม. เป็นประจำ ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ เพราะจะมีการตรวจสภาพรถ ความพร้อมก่อนเดินทางเสมอ และในวันที่เกิดเหตุนั้นตรงกับวันเสาร์ จึงพาภรรยาและหลานชายนั่งรถไป กทม. ด้วย.-สำนักข่าวไทย
