รัฐบาลเดินหน้าเพิ่มประสิทธิภาพผลผลิตเกษตร

กรุงเทพฯ 12 พ.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย รัฐบาลเดินหน้าขับเคลื่อนศูนย์เรียนรู้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร 882 แห่งทั่วประเทศ ส่งเสริมเกษตรกรดั้งเดิมเป็นสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ใช้แอพพลิเคชันช่วยคำนวณต้นทุนการผลิต


พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการดูแลผู้มีรายได้น้อย โดยเฉพาะเกษตรกร เพื่อให้สามารถพัฒนาอาชีพและยกระดับรายได้ของตนเองอย่างมั่นคง โดยได้จัดตั้งศูนย์เรียนรู้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรขึ้น อำเภอละ 1 แห่ง รวม 882 แห่ง ตั้งแต่ปี 2557 บูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วนนำงานวิจัย นวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ไปถ่ายทอดให้แก่เกษตรกร ทั้งเทคโนโลยีการผลิต การแปรรูป การตลาด เพื่อลดต้นทุน และเพิ่มมูลค่าแก่ผลผลิต

“นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า การทำให้เกษตรกรซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศมีรายได้เพิ่มขึ้นและเศรษฐกิจฐานรากมีความเข้มแข็ง เพื่อให้ไทยก้าวพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง ต้องส่งเสริมให้ทุกคนมีความรู้และนำเทคโนโลยีไปพัฒนาการผลิต เปลี่ยนจากเกษตรกรแบบดั้งเดิมให้เป็นสมาร์ทฟาร์มเมอร์” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว


พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่จัดตั้งศูนย์เรียนรู้ฯ ได้คัดเลือกจากพื้นที่ที่ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นที่ คน สินค้า และศักยภาพการผลิต (Zoning) และกำหนดประเด็นที่จะส่งเสริมให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ โดยมีองค์ประกอบ คือ 1) เกษตรกรต้นแบบ 2) แปลงเรียนรู้ 3) หลักสูตร 4) ฐานการเรียนรู้ ซึ่งที่ผ่านมาแต่ละศูนย์ฯ จะบริหารจัดการโดยเกษตรกรต้นแบบที่ประสบความสำเร็จเป็นสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ร่วมกับหน่วยงานของรัฐ สถาบันการศึกษา และชุมชน จัดทำหลักสูตรและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ โดยให้เกษตรกรได้เรียนรู้จากการปฏิบัติจริงในแปลงเรียนรู้ เช่น การปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้ สร้างรายได้ 900,000 บาทต่อปี ที่ จ.มหาสารคาม การผลิตกาแฟขี้ชะมด จ.กระบี่ สร้างรายได้ กก.ละ 20,000 บาท เป็นต้น

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เกษตรกรยังสามารถใช้ประโยชน์จากแอพลิเคชัน OAE RCMO หรือ “กระดานเศรษฐี เกษตรกรมีโอกาส” เพื่อคำนวณต้นทุนการผลิตพืช ปศุสัตว์ ประมง และยังสามารถทราบได้ว่า พื้นที่ของตัวเองเป็นพื้นที่เหมาะสมสำหรับปลูกพืชชนิดนั้นหรือไม่ หากไม่เหมาะจะปลูกพืชชนิดใดแทน รวมถึงทราบแหล่งรับซื้อและราคาที่รับซื้อผลผลิตด้วย ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกำชับว่า ทุกหน่วยงานจะต้องเข้าไปสนับสนุนการทำงานของศูนย์การเรียนรู้ฯ เพื่อให้เกษตรกรสามารถประยุกต์ใช้นวัตกรรมได้จริง และขยายเครือข่ายถ่ายทอดความรู้และปฏิบัติให้เกิดผล โดยต้องยกระดับการเรียนรู้จากเรื่องเกษตรพื้นฐาน เช่น การตัดแต่งกิ่ง การทำปุ๋ย นำไปสู่การร่วมกันคิดว่าจะนำงานวิจัยและเทคโนโลยีไปต่อยอดเพื่อเปลี่ยนแปลงภาคการเกษตรอย่างไรบ้าง.-สำนักข่าวไทย      


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ระเบิดรถครู ตชด.

ทราบกลุ่มคนร้ายก่อเหตุระเบิดรถครู ตชด.สองพ่อลูก

ทราบคนร้ายก่อเหตุระเบิดรถครู ตชด.สองพ่อลูก จ.นราธิวาส แล้ว วันก่อเหตุมีแนวร่วมปฏิบัติการประมาณ 6 คน กลุ่มเป้าหมายคือเจ้าหน้าที่รัฐ

หมายจับผู้มีพระคุณ

ออกหมายจับผู้มีพระคุณจ้าง “เอ็ม กองเรือ” สังหารอดีต สส.กัมพูชา

ตำรวจเร่งล่า “สมหวัง” ผู้มีพระคุณของ “เอ็ม กองเรือ” หลังศาลออกหมายจับใช้จ้างวานสังหาร “ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา

เศร้า ฝังศพ “พ่อ-ลูก” ครู ตชด. เหยื่อวางระเบิด

ประชาชน-ตำรวจตระเวนชายแดน นับพันคน ร่วมพิธีฝังศพ 2 พ่อลูก ครู ตชด. เหยื่อผู้ก่อความไม่สงบลอบวางระเบิดในพื้นที่ จ.นราธิวาส

ข่าวแนะนำ

นายกฯไปนราธิวาส

นายกฯ นำคณะถึงนราธิวาส สวมเสื้อสูท “ลายนรารวมใจ”

“นายกฯ อิ๊งค์” ถึงนราธิวาสสวมเสื้อสูท “ลายนรารวมใจ” สีชมพูบานเย็น หวานฉ่ำ ถ่ายทอดความเป็นหนึ่งเดียวของผู้คนชาวนราธิวาส ที่มีความรัก สามัคคี ประสานความสัมพันธ์บนวิถีชีวิต และวัฒนธรรมอันงดงามของจังหวัดนราธิวาส

สารวันครูปี68

นายกฯ มอบสารวันครู จุดประกายฝัน ดันเด็กไทยกล้าคิด สร้างโอกาส

“นายกฯ” มอบสารวันครู ประจำปี 2568 “ครูจุดประกายความฝัน ผลักดันให้กล้าคิด สร้างโอกาสในชีวิตให้เด็กไทย” ระลึกบุญคุณครู ปลูกฝังศิษย์คิด-ทำในสิ่งที่ดีและถูกต้อง เชื่อ ครู ต้องพัฒนาพร้อมรับมือโลกยุคใหม่

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศหนาว-ลมแรง กทม.อุณหภูมิลด 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิลดลง 1-3 องศาฯ เซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น ส่วน กทม.-ปริมณฑล อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ