fbpx

พาณิชย์ส่งเอกสารชี้แจงสหรัฐฯ เรื่องการขาดดุลการทางค้า

กรุงเทพฯ 11 พ.ค. – พาณิชย์ส่งคำชี้แจงสหรัฐฯ กรณีการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ กับไทย ยืนยันไม่ได้เกิดจากการเลือกปฏิบัติหรือใช้นโยบายที่ไม่เป็นธรรม


นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 ที่ผ่านมา ที่ประชุม ครม. มีมติรับทราบคำชี้แจงต่อเอกสาร Federal Register ว่าด้วย Executive Order 13786 ของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐอเมริกา ที่เปิดรับฟังข้อคิดเห็นเพื่อรวบรวมข้อมูลประกอบการจัดทำรายงานศึกษาวิเคราะห์การขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ กับ 13 ประเทศ ได้แก่ แคนาดา จีน สหภาพยุโรป อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซีย เม็กซิโก สวิตเซอร์แลนด์ ไต้หวัน ไทย และเวียดนาม โดยมีกำหนดเวลาให้ผู้สนใจยื่นข้อคิดเห็นเป็นลายลักษณ์อักษร ภายในวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 และจะจัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ(Public Hearing) ในวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 โดยหลังการประชุม ครม. ผู้แทนของกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการต่างประเทศได้หารือปรับถ้อยคำบางส่วนให้สอดคล้องกับการหารือใน ครม. และกระทรวงพาณิชย์ได้นำส่งเอกสารให้ทางฝ่ายสหรัฐฯ เรียบร้อยแล้วภายในเวลาที่กำหนด

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้รับมอบหมายจากรองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) ให้เป็นหน่วยงานหลักในการประสานและรวบรวมข้อมูลด้านเศรษฐกิจการค้าระหว่างไทย-สหรัฐอเมริกาจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อจัดทำคำชี้แจงฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทย-สหรัฐฯ ที่ครอบคลุมหลายมิติ ทั้งทางด้านสังคม การเมือง และความมั่นคง 


โดยเนื้อหาสาระในคำชี้แจงฯเน้นย้าถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกาที่ยาวนานถึง 184 ปี มีสนธิสัญญาไมตรีไทย-สหรัฐฯ เป็นหลักสำคัญของความสัมพันธ์ รวมทั้งมีเวทีหารือภายใต้ความตกลงด้านการค้าและการลงทุนระหว่างไทย-สหรัฐฯ (TIFA) และข้อผูกพันขององค์การการค้าโลก (WTO) เป็นพื้นฐานด้านภาษีและแก้ไขปัญหาและอุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน

สำหรับประเด็นเรื่องการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ กับไทยนั้น กระทรวงพาณิชย์ได้ชี้แจงว่า มูลค่าการขาดดุลไม่ได้มีมูลค่าสูงอย่างมีนัยสาคัญ เนื่องจากมีสัดส่วนเพียงร้อยละ 1.5 ของมูลค่าการขาดดุลการค้ารวมของสหรัฐ ฯ นอกจากนี้ การส่งออกของสหรัฐฯ มาไทย ที่ผ่านมาขยายตัวไม่สูงนัก เนื่องจากสหรัฐฯ ไม่มีข้อตกลงการค้าเสรีกับไทย และการลงทุนโดยตรงของสหรัฐฯ ในไทยชะลอตัว นอกจากนี้ สินค้าไทยที่สหรัฐฯ นำเข้ามีส่วนช่วยในพัฒนาการเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน อาทิ สินค้าขั้นกลางที่นำไปเพิ่มมูลค่าด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงในสหรัฐฯ และสินค้าที่ใช้วัตถุดิบสินค้าเกษตรจากไทย รวมทั้งไทยยังได้เข้าไปลงทุนในสหรัฐฯ มากขึ้น ทำให้มีการจ้างงานคนในสหรัฐฯ จำนวนมากเป็นหมื่น ๆ คน ในฝ่ายสหรัฐฯ มีการลงทุนและการประกอบธุรกิจบริการในไทยจำนวนมากและหลากหลาย โดยประเทศไทยเป็นฐานการส่งออกของบริษัทสหรัฐฯ หลายแห่งไปในภูมิภาคและเชื่อมโยง value-chain ของทุนสหรัฐฯในเอเชียแปซิฟิกอีกด้วย ดังนั้น การส่งออกของไทยไปยังสหรัฐฯ จึงเป็นไปตามความแตกต่างและเกื้อกูลกันเชิงโครงสร้างระหว่างเศรษฐกิจไทยและสหรัฐฯ และไม่ได้เกิดจากการเลือกปฏิบัติหรือใช้นโยบายที่ไม่เป็นธรรม

นางสาวพิมพ์ชนก กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการนำเสนอตัวเลขข้อเท็จจริงในด้านการค้าการลงทุนของทั้งสองฝ่ายแล้ว ในด้านนโยบายการค้า ไทยชี้แจงว่า ยึดมั่นในหลักเศรษฐกิจระบบตลาด สอดคล้องกับหลักการภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) ทั้งด้านมาตรการภาษีและไม่ใช่ภาษี และสองประเทศมีการหารือประเด็นทางการค้าการลงทุนระหว่างกันเป็นประจำภายใต้เวที TIFA ซึ่งหัวข้อหนึ่งที่สหรัฐฯ ให้ความสาคัญมาตลอด คือ การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งไทยให้ข้อมูล update มาตรการที่รัฐบาลเร่งรัดการปฏิบัติตามกฎหมายด้านการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาต่าง ๆ เช่น ลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้า การพยายามแก้ปัญหา backlog ของสิทธิบัตร เป็นต้น และยังมีความร่วมมือกับสำนักงานผู้แทนการค้าของสหรัฐอเมริกาเพื่อจัดทำแผนดำเนินการด้านทรัพย์สินทางปัญญา (IP Work Plan) ที่เน้นด้านการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาและการบังคับใช้กฎหมายอีกด้วย นอกจากเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว ไทยได้เสนอความคืบหน้าการดำเนินการในเรื่องการคุ้มครองแรงงาน และสิทธิแรงงานด้วย


อีกประเด็นที่สาคัญ คือ ไทยเน้นว่า ไม่มีการใช้นโยบายที่แทรกแซงอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อสร้างความสามารถในการส่งออกโดยไม่เป็นธรรม โดยธนาคารแห่งประเทศไทยดูแลโดยเน้นการสร้างเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนเป็นหลัก สำหรับการปฏิรูปภายใน ได้ชี้แจงว่า ปัจจุบันไทยกำลังปรับปรุงกฎหมายหลายฉบับ เช่น การแข่งขัน การจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ เป็นต้น ซึ่งจะยิ่งเพิ่มความโปร่งใส การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และเพิ่มการอานวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ สาหรับนโยบาย Thailand 4.0 และระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ก็จะเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะช่วยขยายความสัมพันธ์ทางการค้าการลงทุนกับสหรัฐฯ ด้วย ทั้งการส่งออกสินค้าจากสหรัฐฯ มาไทยเพิ่ม และด้านการลงทุนในอุตสาหกรรมที่สหรัฐฯ มีเทคโนโลยีสูง

โฆษกกระทรวงพาณิชย์สรุปว่า การยื่นเอกสารข้อมูลและคำชี้แจงครั้งนี้ เป็นโอกาสอันดีที่จะได้เน้นถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ที่มีมายาวนาน หลากหลายมิติ และเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ในโอกาสที่นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้หารือกันทางโทรศัพท์ และคาดว่าจะมีการพบปะระหว่างผู้นำทั้งสองฝ่ายในอนาคต ก็จะยิ่งย้ำถึงศักยภาพที่จะพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ในด้านต่าง ๆ ที่เป็นความสนใจร่วมกันได้อีกมากในอนาคต – สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ผลสอบ “ครูเบญ” เบื้องต้นไม่ผ่านเกณฑ์ ส่ง พฐ.ร่วมตรวจพิสูจน์

สพฐ. เผยผลสอบ “ครูเบญ” เบื้องต้นคะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60 ทั้งภาค ก. ภาค ข. และไม่ติด 1 ใน 10 ส่งข้อสอบให้ พฐ. ตรวจพิสูจน์เพื่อความโปร่งใส

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553