9 ม.ค. – ตำรวจ ศอ.ปส.ตร. นำกำลังเจ้าหน้าที่ซ้อนแผนรวบ “แฟ้ม เมืองทอง” ลูกจ้างสุดแสบขโมยพระพุทธรูปเก่าของนายจ้างมาโพสต์ขายในโซเชียล อีกทั้งได้นำพระพุทธรูปของปลอมมาวางไว้แทนที่เพื่อตบตาผู้เสียหาย สารภาพทำไปเนื่องจากติดการพนัน
พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. และ ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศอ.ปส.ตร.) ส่งทีมแกะรอยจับกุม แฟ้มเมืองทอง มือขโมยพระพุทธรูปปรางนาคปรกเก่า ก่อนนำไปขายในโลกโซเชียล หลังได้รับเบาะแสจากประชาชนว่ามีคนร้ายนำพระพุทธรูปสมบัติเก่า และทรัพย์สินอีกหลายรายการมาขาย จึงมอบหมายให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น /หัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 5 ศอ.ปส.ตร. จัดชุดลาดตระเวนในโลกออนไลน์สืบสวนจับกุมคนร้าย
วานนี้ (8 ม.ค.) เจ้าหน้าที่นำกำลังสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายสันติชัย หรือแฟ้ม อายุ 25 ปี โดยกล่าวหาว่า “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง” ตรวจยึดของกลางกว่า 5 รายการ ดังนี้ 1.พระพุทธรูปปรางนาคปรก สีดำ 2.พระพุทธรูปปรางลีลา สีทอง 3.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ ไอโฟน 8 พลัส สีทอง 1 เครื่อง 4.พระเครื่องจำนวน 7 องค์ 5.สมุดบัญชีธนาคาร โดยจับกุมตัวได้ที่ ลานจอดรถใน ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
โดยพฤติการณ์คือ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. ได้จัดชุดลาดตระเวนในโลกออนไลน์ เพื่อสืบสวนหากลุ่มเครือข่ายยาเสพติดที่มีการฟอกเงินจากการซื้อขายบูชาพระเครื่อง ซึ่งได้พบเบาะแสจากบุคคลรายหนึ่งเรื่องการขายพระพุทธรูปปรางนาคปรก ซึ่งพระพุทธรูปดังกล่าวเป็นสมบัติเก่า ซึ่งเมื่อตรวจสอบพบว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาอย่างผิดกฏหมาย จึงได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการที่ 5 นำกำลังแกะรอยจนพบพยานหลักฐานยืนยันว่า พระพุทธรูปดังกล่าวเป็นทรัพย์ที่ถูกขโมยมาจากผู้เสียหายรายหนึ่ง จึงนำกำลังชุดสืบสวนซ้อนแผนติดต่อล่อซื้อ ได้พบ นายสันติชัย หรือ แฟ้ม อายุ 25 ปี นำของกลางพระเครื่องที่ได้มาจากการขโมยมาขายให้เจ้าหน้าที่ล่อซื้อหลายรายการ จึงทำการควบคุมตัวไว้ทันที โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ และขยายผลการจับกุมจนพบพระพุทธรูปปรางนาคปรก และพระพุทธรูปปรางลีลา สีทอง โดยชุดสืบสวนนครบาลได้ตรวจสอบและติดต่อไปยังผู้เสียหายผู้เป็นเจ้าของพระพุทธรูปนี้ทำให้ทราบว่า นายสันติชัย ได้เคยทำงานรับจ้างภายในบ้านของผู้เสียหาย โดยที่ผู้เสียหายเพิ่งทราบเหตุเนื่องจาก นายสันติชัย ได้นำพระพุทธรูปของปลอมมาวางไว้แทนที่เพื่อตบตาผู้เสียหาย ซึ่งเมื่อขยายผลต่อไปได้พบว่า นายสันติชัย ยังได้นำทรัพย์สินภายในบ้านผู้เสียหายไปอีกหลายรายการ อาทิเช่น พระเครื่อง, พระพุทธรูป และกระเป๋าแบรนด์เนม รวมของกลางที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดทั้งหมด 5 รายการ
ในชั้นจับกุม นายสันติชัย ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองได้ลงมือก่อเหตุในช่วงปลายเดือน ธ.ค.65 ก่อนที่จะหยุดยาวปีใหม่ โดยตอนนั้นตนเองตัดสินใจลาออก แต่ด้วยติดการพนันออนไลน์ มีหนี้สินค่างวดรถ จึงทำให้ตัดสินใจลงมือก่อเหตุ โดยทรัพย์สินที่ขโมยมานั้นตนเองนำไปโพสต์ขายในโลกออนไลน์ และที่นำพระพุทธรูปของปลอมมาวางไว้แทนที่ของจริงเพราะต้องการตบตาไม่ให้รู้ว่าถูกขโมย” เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ธรรมศาลา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. -สำนักข่าวไทย