ยอดคุมประพฤติเมาแล้วขับสะสม 4 วัน พุ่ง 4,300 คดี

กรุงเทพฯ 2 ม.ค. – เปิดศักราชใหม่ 2566 ยอดคุมประพฤติเมาแล้วขับสะสม 4 วัน พุ่งขึ้นเป็น 4,300 คดี จังหวัดที่มีสถิติคดีขับรถขณะเมาสุราสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ ร้อยเอ็ด นนทบุรี และ เลย


วันนี้ (2 มกราคม 2566) นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า สถิติคดีขับรถขณะเมาสุราที่ศาลสั่งคุมความประพฤติ ต้อนรับวันปีใหม่ 1 มกราคม 2566 มีจำนวน 2,666 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา 2,613 คดี คิดเป็นร้อยละ 98.01 คดีขับเสพ 53 คดี คิดเป็นร้อยละ 1.99 ซึ่งสถิติยอดรวมสะสม 4 วัน ที่มีการควบคุมเข้มงวด ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2565 – 1 มกราคม 2566 มีจำนวน 4,508 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา 4,300 คดี คดีขับรถประมาท 11 คดี และคดีขับเสพ 197 คดี จังหวัดที่มีสถิติคดีขับรถขณะเมาสุรายอดสะสมสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ ร้อยเอ็ด 255 คดี นนทบุรี 252 และ เลย 245 คดี ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบสถิติคดีเข้าสู่คุมประพฤติในวันที่สี่ของช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2565 และ พ.ศ. 2566 พบว่า คดีขับรถขณะเมาสุรา ปี พ.ศ. 2565 จำนวน 52 คดี และ ปี พ.ศ. 2566 มีจำนวน 2,613 คดี เพิ่มขึ้น 2,561 คดี

สำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศ ยังคงสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ณ จุดบริการประชาชนและด่านชุมชน จำนวน 85 จุด โดยร่วมกับอาสาสมัครคุมประพฤติ ภาคีเครือข่าย และผู้ถูกคุมความประพฤติ จำนวน 852 คน แจกน้ำดื่ม ผ้าเย็น แผ่นพับประชาสัมพันธ์ และอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับประชาชน


อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการที่มีคดีขับรถขณะเมาสุราเพิ่มสูงขึ้น จึงต้องมีการเน้นย้ำมาตรการคุมเข้มสำหรับผู้กระทำผิดที่จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการคุมความประพฤติ อาทิ รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ การเข้าร่วมกิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายจราจร การลด ละ เลิกแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ การคุมประพฤติยังมีการจำแนกความเสี่ยง หากพบว่ามีความเสี่ยงสูงในการติดสุรา จะส่งบำบัดรักษา ณ สถานพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข และหากพบว่ามีแนวโน้มกระทำผิดซ้ำสูงจะถูกส่งไปแก้ไขฟื้นฟูแบบเข้มข้นรูปแบบค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ระยะเวลา 3 วัน โดยใช้กระบวนการกลุ่มร่วมกับการทำงานบริการสังคม เช่น เข้าศึกษาการปฏิบัติงานในห้องดับจิต การช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนที่ตึกอุบัติเหตุ เพื่อให้ผู้กระทำผิดได้รู้ซึ้งถึงการทุกข์ทรมาน การสูญเสียสมรรถภาพจากการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนน ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้เกิดจิตสำนึกในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ให้มีความปลอดภัยทางถนนมากขึ้น .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กู้ภัยตึก สตง.ถล่ม

นายกรัฐมนตรี เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กู้ภัย ค้นหาผู้สูญหายเหตุตึก สตง.ถล่ม พร้อมสอบถามถึงอุปสรรคในการทำงานและความต้องการเพิ่มเติม

ปรับวิธีรายงานยอดผู้เสียชีวิต ให้นิติเวชยืนยันก่อน

รองผู้ว่าฯ กทม. เผยยอดผู้เสียชีวิตเหตุตึกถล่ม ที่ผ่านการพิสูจน์อัตลักษณ์แล้ว อยู่ที่ 16 ราย และอยู่ระหว่างการค้นหาอีก 78 ราย พร้อมแจงปรับวิธีรายงานยอดผู้เสียชีวิต ให้นิติเวชยืนยันก่อน