กรุงเทพฯ 28 ธ.ค. – รมว.คมนาคม มั่นใจกรณีการเปิดประเทศของจีน จะทำให้มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางออกมาท่องเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นอีก 7-10 ล้านคน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมการเตรียมการรองรับผู้โดยสารช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 และเตรียมความพร้อมกรณีสาธารณรัฐประชาชนจีนเปิดประเทศ และติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการขนถ่ายกระเป๋าสัมภาระล่าช้า ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยนายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2565 – 4 มกราคม 2566 คาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางผ่านทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานของ ทอท. ประมาณกว่า 2 ล้านคน หรือเฉลี่ยวันละ 3 แสนคน เพิ่มขึ้น 170% เมื่อเทียบกับช่วงปีใหม่ 2565 และเพิ่มขึ้น 108% เมื่อเทียบกับสงกรานต์ปีที่ผ่านมา ส่วนเที่ยวบินรวมมีกว่า 12,000 เที่ยวบิน เฉลี่ยวันละกว่า 1,700 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 87% เมื่อเทียบกับช่วงปีใหม่ 2565 และเพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับสงกรานต์
ขณะที่ส่วนกรณีที่สาธารณรัฐประชาชนจีนจะยกเลิกข้อกำหนดการกักกันสำหรับผู้โดยสารทุกคนที่เดินทางมาจากนอกพรมแดนของประเทศ เตรียมเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 นั้น บมจ. ท่าอากาศยานไทย หรือ AOT คาดว่าตั้งแต่ช่วงก่อนปีใหม่จะเริ่มมีสายการบิน 16 แห่ง ทยอยแจ้งขอกลับมาทำการบินอีกครั้ง โดยเป็นการแจ้งล่วงหน้าก่อนวันหยุดปีใหม่เพื่อเตรียมเที่ยวบินให้พร้อมช่วงต้นเดือนมกราคม 2566 ที่จะเปิดประเทศ ซึ่งเบื้องต้นจะเป็นการกลับมาทำการบินที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่และภูเก็ตก่อน รวมทั้งเที่ยวบินเช่าเหมาลำที่จะเข้ามาในช่วงเทศกาลตรุษจีนในช่วงกลางเดือน – ปลายเดือนมกราคม 2566 เช่นกัน
โดยคาดการณ์ในช่วงเดือนปีใหม่ต่อเนื่องตลอดมกราคม 2566 ตลอดทั้งเดือนมกราคม 2566 ผู้โดยสารจะเดินทางเฉลี่ยวันละประมาณ 310,000 – 340,000 คน จากปัจจุบันเดือนธันวาคม 2565 มีผู้เดินทางเฉลี่ยวันละ 275,000 คน และเป็นผู้โดยสารของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฉลี่ยวันละประมาณ 140,000 – 170,000 คน จากปัจจุบัน ธันวาคม 2565 มีผู้เดินทางเฉลี่ยวันละ 133,000 คน ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าตลอดปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางผ่านท่าอากาศยานของ AOT ประมาณ 7 – 10 ล้านคน จากเดิมที่ก่อนการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 มีจำนวน 20.5 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม การที่เที่ยวบินจากสาธารณรัฐประชาชนจีนกลับเข้ามาทำการบินที่ประเทศไทยอย่างรวดเร็วกระทรวงคมนาคม ได้กำชับให้ท่าอากาศยานต้องเตรียมการเรื่องการให้บริการของผู้ประกอบการภาคพื้น (ground handling) ให้พร้อม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาความล่าช้าหรือความไม่พร้อมในการให้บริการ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวจีนในทุกด้าน
สำหรับมาตรการในการรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนนั้น กระทรวงคมนาคมเตรียมหารือกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในวันที่ 5 มกราคมที่จะถึงนี้ เพื่อกำหนดมาตรการทางสาธารณสุขในการรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนต่อไป
ส่วนการแก้ไขปัญหาความแออัดภายในท่าอากาศยาน รวมทั้งความล่าช้าของขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและการขนถ่ายกระเป๋าสัมภาระอย่างเร่งด่วน ซึ่งจากการดำเนินการพบว่าขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองเป็นไปด้วยความรวดเร็วยิ่งขึ้น ท่าอากาศยานมีความพร้อมในการรองรับผู้โดยสารที่จะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งได้เพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวกบริเวณพื้นที่ตรวจหนังสือเดินทางทั้งขาเข้าและขาออก เฉลี่ยอยู่ที่คนละ 4 นาที นับตั้งแต่ผู้โดยสารเดินเข้าสู่พื้นที่รอคอยจนถึงการลงตรา สำหรับช่วงเวลาคับคั่งที่มีผู้โดยสารจำนวนมาก ผู้โดยสารจะใช้เวลารอคิวเพื่อตรวจหนังสือเดินทางเฉลี่ยคนละ 15 นาที รวมทั้งจัดระเบียบคิวผู้โดยสารที่รอรับบริการ
ส่วนของการให้บริการกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสารได้ตรวจสอบระบบลำเลียงกระเป๋าสัมภาระให้มีความพร้อมในการรองรับปริมาณสัมภาระ พร้อมทั้งกำชับผู้ให้บริการภาคพื้นที่ให้บริการขนถ่ายสัมภาระผู้โดยสารทั้ง 2 ราย คือ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท บริการภาคพื้นการบินกรุงเทพเวิลด์ไวด์ไฟล์ทเซอร์วิส จำกัด ในการดำเนินการขนถ่ายสัมภาระให้ตรงตามเวลาที่กำหนด ปัจจุบันค่าเฉลี่ยเวลาในการลำเลียงกระเป๋าสัมภาระจากเครื่องบินจนถึงผู้โดยสาร First bag ใช้เวลาเฉลี่ย 27 นาที และ Last bag ใช้เวลาเฉลี่ย 44 นาที
สำหรับปัญหาการรอคิวใช้บริการรถแท็กซี่สาธารณะนานที่ผ่านมา ปัจจุบัน ทสภ. ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเพิ่มเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกและเปิดช่องทางแท็กซี่เพิ่มเพื่อให้รถแท็กซี่สามารถเข้ามารับผู้ใช้บริการได้เร็วขึ้น รวมทั้งขยายขยายพื้นที่รอคอยกดตั๋วแท็กซี่ และกำหนดจุดยืนรอคิวรับบริการแท็กซี่ เพื่อความเป็นระเบียบและลดความแออัดของผู้มาใช้บริการ ซึ่งทำให้ผู้โดยสารสามารถลดระยะเวลาการรอคิว เหลือเพียงประมาณ 10 นาทีต่อคน .-สำนักข่าวไทย