ผบ.ตร.สั่งเฝ้าระวังเหตุงานเคาท์ดาวน์ หวั่นซ้ำรอยเหตุอิแทวอน

สตช. 28 ธ.ค. – ผบ.ตร.ตั้งเป้าลดอุบัติเหตุ 7 วันอันตรายช่วงปีใหม่-เฝ้าระวังเหตุวุ่นวายงานเคาท์ดาวน์ ซ้ำรอยเหตุอิแทวอน


พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่ออำนวยการจราจรและแก้ไขสถานการณ์อุบัติเหตุในช่วง 7 วันควบคุมเข้มข้น ระหว่างวันที่ 29 ธ.ค.65-4 ม.ค.66 โดยเปิดเผยว่า ได้สั่งเตรียมกำลังตำรวจกว่า 50,000 นาย อำนวยความสะดวกด้านการจราจร ดูแลประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา และกวดขันกฎหมายจราจร เน้น 4 ข้อหาหลัก คือ เมาไม่ขับ ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ไม่สวมหมวกนิรภัย และไม่คาดเข็มขัดนิรภัย โดยระหว่างวันที่ 22-27 ธันวาคมที่ผ่านมา มีสถิติการจับกุม 4 ข้อหาแล้ว 9,364 ราย และกองบังคับการตำรวจทางหลวงออกใบสั่งกล้องตรวจจับความเร็วทั่วประเทศ 115,906 ราย นอกจากนี้ในช่วง 7 วันควบคุมเข้มข้นก็จะมีการตั้งจุดตรวจทั่วประเทศ 3,771 จุด ซึ่งกรณีที่มีอุบัติเหตุ และมีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ก็จะต้องตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ทุกราย หากผู้ขับขี่ปฏิเสธไม่ยอมตรวจ ก็ให้สันนิษฐานว่าเมาแล้วขับ ทั้งนี้ หากประชาชนให้ความร่วมมือ เคารพกฎจราจร เตรียมความพร้อมทางร่างกาย เมาไม่ขับ ก็จะลดอุบัติเหตุและความสูญเสียต่างๆ ได้

ส่วนการจราจรคาดว่าปีนี้จะมีรถเดินทางเข้า-ออก กรุงเทพฯ มากถึง 7.3 ล้านคัน โดยวันที่ปริมาณรถขาออกมากที่สุดคือวันที่ 29-30 ธันวาคม 2565 ส่วนขาเข้าจะมากที่สุดในวันที่ 2-3 มกราคม 2566 จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอคืนพื้นผิวการจราจร จุดซ่อมสร้างต่างๆ ที่จะทำให้การจราจรชะลอตัว ให้จัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็วและอุปกรณ์ รถยก รถสไลด์ให้พร้อม รวมถึงมีการเปิดช่องทางพิเศษ 9 เส้นทาง 10 จังหวัด รวมระยะทาง 450 กิโลเมตร และห้ามรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป เดินรถในถนน 7 เส้นทาง ส่วนรถขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง อาหารสด ของอุปโภคบริโภคที่จำเป็น จะต้องยื่นขออนุญาตผ่านระบบออนไลน์ของกองบังคับการตำรวจทางหลวง


ด้านการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม และดูแลงานเคาท์ดาวน์ต่างๆ ปีนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็กำชับเรื่องการเฝ้าระวังไม่ให้มีเหตุทะเลาะวิวาท หรือเกิดความวุ่นวาย เพราะอาจนำไปสู่ปัญหาประชาชนจำนวนมากแตกตื่นและเหยียบกัน ดังเช่นเหตุการณ์ที่ย่านอิแทวอน ในประเทศเกาหลีใต้ได้ ปีนี้จึงกำชับให้ดูแลเรื่องนี้ให้มากขึ้น. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น