รวบสาว 19 ปี หลอกขายอาหารเสริมออนไลน์

กรุงเทพฯ 8 ธ.ค. – ชุดลาดตระเวนออนไลน์ นครบาล รวบสาวอายุ 19 ปี หลอกขายอาหารเสริมสุขภาพออนไลน์ รายได้เฉลี่ยต่อเดือนกว่า 200,000 บาท มูลค่าความเสียหาย 5 ล้านบาท


ชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ได้รับแจ้งเรื่องความเดือนร้อนของประชาชนทางเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมตัวนางสาวปุยนุ่น เปิดบัญชีเฟซบุ๊กหลอกขายอาหารเสริมประเภทคอลลาเจนเม็ดยี่ห้อ JOJU, โลชันทาผิวยี่ห้อออราไวท์, เซรัมสตอเบอรี่ลดริ้วรอยยี่ห้อ Yerpall, สบู่ใบบัวบกยี่ห้อ Chariya, เซรัมทาบำรุงผิดยี่ห้อโดสแดง นาโนไวท์โดส โดยใช้เฟซบุ๊กชื่อบัญชี “ปุย นุ่น (อาฟิวส์) ”, ชื่อบัญชี “สุมินตรา สุนาชัย” , ชื่อบัญชี “นุ่น นนนนนน”, ชื่อบัญชี “มณีรัตน์ ทองคำ”, ชื่อบัญชี “ศิรินันท์ ภูมิใจ” ในการโพสต์หลอกขาย จนมีชื่อติดในติดแบล็กลิสต์ บัญชีคนโกง สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก มูลค่าความเสียหายกว่า 5 ล้านบาท

ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวนางสาวมณีรัตน์ หรือ นุ่นศรี หรือ ปุย นุ่น อายุ 19 ปี บริเวณหน้าที่พักคนงานริมถนนเทศบาล 7 หมู่ 4 ตำบลระแหง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐานฉ้อโกง และมาตรา 14 วรรคสอง (1) ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550


นอกจากนี้ ยังพบหมายจับ 2 หมาย ประกอบด้วย หมายจับศาลแขวงเชียงใหม่ ที่ จ 486/2565 ลงวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ.2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง และมาตรา 14 วรรคสอง (1) ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550” ท้องที่ สภ.ช้างเผือก ภ.จว.เชียงใหม่ และหมายจับศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง (สาขามีนบุรี) ในความผิดฐาน “ไม่มาศาลตามกำหนดนัด” ในคดีที่ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ” ตามหมายจับระหว่างพิจารณา ที่ 21/2565

ในชั้นจับกุมผู้ต้องหารับสารภาพว่าเกิดที่จังหวัดพิษณุโลก เรียนจบชั้น ป.6 ย้ายมาอาศัยในพื้นที่ตำบลระแหง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี ตั้งแต่อายุ 12 ปี ก่อนที่จะมาเริ่มก่อเหตุเคยทำอาชีพขายครีมบำรุงผิวผ่านทางออนไลน์ เมื่อประสบปัญหาหมุนเงินไม่ทัน จึงรับออเดอร์ลูกค้ามาแล้วนำเงินไปหมุนใช้จ่ายอย่างอื่นแทนก่อน เมื่อถึงกำหนดส่งสินค้าตามออเดอร์ลูกค้าสั่งไม่สามารถหาสินค้ามาส่งให้ลูกค้าได้ จึงไปซื้อสินค้าชนิดอื่น เช่น แชมพูราคาถูก, น้ำดื่มในร้านสะดวกซื้อ หรืออื่น ๆ ที่สามารถหาได้ส่งให้ลูกค้าแทนสินค้าที่ต้องการ เมื่อเห็นว่าได้กำไรดี จึงหลงผิดทำต่อเนื่องเรื่อยมา

ที่ผ่านผู้ต้องหาก่อเหตุลักษณะเช่นนี้มาตั้งแต่ปี 2563 มีผู้เสียหายหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อต่อเดือนเฉลี่ยประมาณ 10–15 ราย ความเสียหายแต่ละรายประมาณ 10,000-12,000 บาท มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนกว่า 200,000 บาท มูลค่าความเสียหายตั้งแต่ปี 2563 ที่เริ่มก่อเหตุถึงปลายปี 2564 กว่า 5 ล้านบาท จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. สืบสวนจับกุมตัวได้นำส่ง สภ.ช้างเผือก จังหวัดเชียงใหม่ ดำเนินคดีต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

มือฆ่า 3 ศพ ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่น

มือฆ่า 3 ศพ เปิดปากครั้งแรก ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป รู้ว่าไม่สมควร ยืนยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่นเพราะแม่เด็กยื้อแย่งปืน

จับแล้วหนุ่มใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่เสียชีวิต

ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รวบตัว “นายก๊อง” ได้แล้ว หลังก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่จนเสียชีวิต เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน