นราธิวาส 2 พ.ค.- 2 ชายก่อการอุกอาจ บุกห้องฉุกเฉินโรงพยาบาล ชักมีดกระหน่ำแทงคู่อริเสียชีวิตคาเตียงต่อหน้าพยาบาลและญาติคนไข้รายอื่น แล้วหลบหนี
ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวกรณีที่มีการแชร์ภาพวงจรปิดในเฟซบุ๊ก และกลุ่มไลฟ์ผ่านโลกโซเชียล จนมีการกล่าววิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนาๆ โดยเหตุเกิดขึ้นภายในห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ที่ชาย 2 คน บุกใช้ของมีดคมบุกแทงคู่อริ เสียชีวิตคาห้องฉุกเฉิน จนพยาบาลเวร และผู้ป่วยที่เห็นเหตุการณ์ต่างวิ่งหลบหนีกันอลหม่าน ก่อนกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ที่ประตูทางเข้าของโรงพยาบาล สามารถบันทึกพฤติกรรมของ 2 คนร้าย เอาไว้ได้ ขณะวิ่งหลบหนีออกจากห้องฉุกเฉิน ก่อนที่จะพากันซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์หลบหนีไป
พ.ต.อ.เจริญ ธรรมขันธ์ ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวนี้ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับ 1 ใน 2 คนร้ายแล้ว โดยเหตุเกิดขึ้นหลังจากที่ผู้เสียชีวิต และคนร้ายที่บุกแทงผู้เสียชีวิตได้เกิดเหตุทะเลาะวิวาทกันภายในงานกาชาด เมื่อคืนวันที่ 27 เม.ย. 60 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุม 2 ฝ่าย ไปเปรียบเทียบปรับ ต่อมาวันที่ 28 เม.ย. 60 ผู้เสียชีวิตได้ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนป้ายบอกทางบริเวณหน้าเรือนจำนราธิวาส หลังใหม่ และได้เข้ารักษาตัวทำบาดแผลที่ห้องฉุกเฉิน หลังจากทำบาดแผลแล้วเสร็จผู้เสียชีวิตได้นั่งรอญาติมารับเพื่อกลับบ้าน แต่ในระหว่างนั้นคนร้าย 2 คน ซึ่งเป็นคู่อริ ทราบว่าผู้เสียชีวิตประสบอุบัติเหตุเข้ารักษาตัวที่ห้องฉุกเฉิน จึงได้บุกเข้าไปในห้องฉุกเฉินโดยพลการ และใช้ของมีดคมรุมแทงคู่อริจนเสียชีวิต แล้วพากันวิ่งหลบหนีออกมาขี่รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ที่หน้าโรงพยาบาลหลบหนีไป
ล่าสุดเมื่อเวลา 16.20 น. วันที่ 2 พ.ค. 60 ทางญาติของ 1 ใน 2 ผู้ต้องหาที่กล้องวงจรปิดบันทึกภาพเอาไว้ได้ ซึ่งสวมเสื้อยืดสีแดง ได้นำตัวชายอายุ 18 ปี มามอบตัว กับ พ.ต.อ.เจริญ ธรรมขันธ์ ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส โดยได้นำของกลางเป็นมีดพกปลายแหลม อาวุธปืนปากกา และโทรศัพท์มือถือ มาด้วย โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นผู้ร่วมก่อเหตุบุกแทงชายอายุ 30 ปี เสียชีวิต ภายในห้องฉุกเฉินจริง เนื่องจากโกรธแค้นที่ผู้เสียชีวิตได้ทำร้ายเพื่อน หลังจากที่ขี่ และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์กลับจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส ได้เปรียบเทียบปรับทั้งคู่ หลังจากก่อเหตุทะเลาะวิวาทภายในงานกาชาด
โดยขากลับ เพื่อนของตนได้ขี่รถจักรยานยนต์พา ผู้เสียชีวิต ซ้อนท้ายเข้าพื้นที่ อ.เมืองนราธิวาส แต่ผู้เสียชีวิต ยังมีความแค้นฝังใจอยู่ได้จึงโทรศัพท์บอกเพื่อนอีกกลุ่มให้มาดักทำร้ายเพื่อนของตน บาดเจ็บจนรถเสียหลักล้มคว่ำชนป้ายบอกทาง จนมีพลเมืองดีได้ส่งผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 คน ส่งรักษาโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เนื่องจากคาดว่าเป็นอุบัติเหตุ เมื่อ 1 ใน 2 คนร้าย ทราบว่าเพื่อนประสบอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บ จึงได้ชวนเยาวชน ซึ่งเป็นอีก 1 ผู้ต้องหา ตามกล้องวงจรปิดที่บันทึกได้ ที่ร่วมก่อเหตุบุกแทงคู่อริเสียชีวิตไปดูอาการของเพื่อนที่นอนรักษาตัวอยู่ห้อง ไอ.ซี.ยู. และได้เล่าพฤติกรรมของผู้เสียชีวิตให้รับทราบว่าเป็นคนโทรศัพท์ดักให้เพื่อนมาทำร้ายตน จึงเกิดความแค้น และระหว่างที่เดินผ่านห้องฉุกเฉิน เห็นผู้เสียชีวิต นั่งอยู่ในระหว่างรอญาติมารับกลับบ้าน ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน จึงได้เดินไปใช้มีดพกปลายแหลมแทงผู้เสียชีวิตที่ลำคอ ก่อนที่จะพากันวิ่งหลบหนีซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์
ด้าน พ.ต.อ.เจริญ ธรรมขันธ์ ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส กล่าวว่า หลังจากเกิดกรณีทำร้ายร่างกายนี้แล้ว ตนจะประสาน ผอ.โรงพยาบาลธิวาสราชนครินทร์ เพื่อหามาตรการป้องกัน ส่วนคนร้ายที่หลบหนีอีก 1 คน เป็นเยาวชนอายุ 17 ปี อีกประมาณ 2-3 วัน จะรวบรวมหลักฐานเพื่ออกหมายจับต่อไป
ด้านนายแพทย์สมหมาย บุญเกลี้ยง นายแพทย์สาธารณสุข จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นในห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ตนมีมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยขึ้นอีก โดยจะซื้อเครื่องสแกนมือติดตั้งไว้ที่บริเวณประตูทางเข้าของโรงพยาบาล และประตูด้านหน้าของอาคารห้องฉุกเฉินจุดเกิดเหตุ โดยจะใช้เจ้าหน้าที่เป็นผู้ควบคุมการเปิดปิดของประตู หากมีญาติ และบุคคลที่เกี่ยวข้องมีความประสงค์จะเข้าไปดูแลอาการของผู้ป่วย รวมทั้งจะสั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่เวรยามในแต่และห้วงเวลา มีความเข้มงวดในการตรวจตราบุคคลที่มีความประสงค์จะเข้าไปภายในโรงพยาบาลทุกกรณี ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ในทำนองนี้ เพราะถือว่าโรงพยาบาลเป็นพื้นที่ปลอดอาวุธ.-สำนักข่าวไทย