กทม. 6 พ.ย.-หนุ่มใหญ่พนักงานบริษัท ถูกสาวในแอปหาคู่ หลอกให้มาหาที่ห้อง ก่อนมีกลุ่มมิจฉาชีพเข้ามาเล่นการพนันในห้อง แล้วใช้อุบายให้ถือไพ่ให้ ตาเดียวเสียไป 2 แสน
นายแมน นามสมมติ หนุ่มใหญ่พนักงานบริษัท อายุ 57 ปี ถูกสาวในแอปพลิเคชันหาคู่หลอกให้มาหาที่ห้อง จากนั้นมีกลุ่มมิจฉาชีพเข้ามาเล่นการพนันในห้องแล้วใช้อุบายให้ถือไพ่ให้ ตาเดียวเสียไป 2 แสน นำเรื่องมาร้องนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ให้ช่วยเหลือ นายแมน เล่าว่าเมื่อวันที่ 31 ต.ค. ได้ไปกดถูกใจผู้หญิงคนหนึ่งใช้ชื่อ “แอน” อายุราว 40 ปีในแอปหาคู่ ต่อมาผู้หญิงคนนี้ก็ติดต่อกลับมาหาและแลกไลน์กัน แล้วก็ส่งข้อความมาชวนไปกินข้าวที่ห้องแต่ไม่ว่างเลยไม่ไป วันที่ 1 พ.ย.ก็ส่งข้อความมาชวนไปกินข้าวอีก จึงไปหาที่ห้อง ปรากฏว่าเป็นห้องเช่าแบบรายวัน เข้าไปก็เจอแอนกับเพื่อนผู้หญิงนั่งกินเบียร์กันอยู่ในห้อง 2 คน แล้วก็ชวนตนเอองกินเบียร์ด้วย แต่ตนเองไม่ดื่มเหล้าเบียร์จึงตอบปฏิเสธไป
จากนั้นมีผู้หญิงสูงอายุเข้ามาอีก 1 คน ทำทีชวนคุยถามประวัติทำงานอะไรเงินเดือนเท่าไหร่มีรถกี่คัน สักพักก็มีชายสูงวัยใส่ทองเต็มตัวเข้ามาในห้องอีกคน คนนี้มาถึงก็เอาผ้ามาปูเล่นเลย ถามว่าเล่นอะไรเป็นบ้างก็บอกว่าเล่นไม่เป็น แอนกับคนที่มาหาในห้อง จึงเล่นไพ่ เก้าเกกันเองและเล่นกันแพงมาก เล่นตาละประมาณ 3- 4 หมื่นบาท
ต่อมาแอนขอให้ช่วยดูไพ่เพราะเล่น 2 มือ ซึ่งไพ่ที่ช่วยดูมีแต่ไพ่ตอง ชนะทุกคนในวงหมด แอนจึงออกอุบายให้ตนเองเอาเงินมาลงสู้ ก็บอกว่าไม่มีเงิน แอนก็ถามว่าขับรถอะไรมา บอกว่าขับรถยนต์ จากนั้นก็ให้เอารถจำนำกับนายทุนไว้ก่อน แล้วโทรหานายทุนรับจำนำรถ ไม่ถึง 10 นาทีก็มาถึงห้อง (เหมือนนัดกันไว้นานแล้ว) และก็เอาให้ตนเองเล่น 150,000 บาท และเอาเงินให้คุณแอนอีก 50,000 บาทแล้วคุณแอนก็นำเงิน 2 แสนลงไปประกบในวง ปรากฏว่าตานั้น ตนได้ไพ่ตองแหม่ม แต่ผู้หญิงสูงอายุได้ตองคิง ทำให้เสียเงินทั้งหมด แล้วพวกมิจฉาชีพก็เลิก แล้วออกจากห้องไปทันที เท่ากับว่าเล่นตาเดียว ตนเสียเงินไป 2 แสนบาท ต่อมาคุณแอนส่งตนเองขึ้นรถแท็กซี่กลับ และบอกว่าให้หาเงิน 2 แสนมาไถ่รถออก ภายในวันที่ 8 พ.ย.นี้ ตนจึงมาขอความช่วยเหลือให้เพจสายไหมต้องรอด
นายเอกภพ กล่าวว่าเรื่องนี้ผู้เสียหายถูกแก๊งมิจฉาชีพโกงแน่นอน วิธีการโกงแบบนี้มีบ่อยมากเมื่อในอดีต แต่ก็เงียบหายไป จนมาเกิดขึ้นกับผู้เสียหายรายนี้อีก จะพาผู้เสียหายไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี.-สำนักข่าวไทย