รวบอดีตทนาย สร้างโปรไฟล์หรูแอปหาคู่ หลอกให้รักเอาเงิน

กทม. 4 ก.พ.-ผบ.ตร.ส่งทีม PCT 5 แกะรอยรวบอดีตทนาย ใช้ภาพปลอมสร้างโปรไฟล์สุดหรูในแอปหาคู่ ล่อลวงให้รักหลอกเอาเงินจนหมดตัว เหยื่อบางรายหวิดคิดสั้นฆ่าตัวตาย

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ส่งทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมชุด PCT5 ร่วมกับชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบนครบาลแกะรอยติดตามอ้างเป็นนายแพทย์ทอมในโลกโซเชียล หลังรับแจ้งจากผู้เสียหายหญิงรายหนึ่งซึ่งป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ถูกคนร้ายหลอกลวงผ่านแอปพลิเคชันหาคู่ App Bumble แผนประทุษกรรมสุดแสบโดยใช้โปรไฟล์เป็นหนุ่มรูปงาม และเป็นคนสายบุญ หลอกให้เหยื่อหลงรัก จากนั้นคนร้ายลวงให้ผู้เสียหายลงทุน Money Exchange มูลค่าความเสียหายเกือบ 2 ล้านบาทจนหมดตัว แล้วออกอุบายบังคับให้มีเพศสัมพันธ์กับพ่อของคนร้ายเพื่อพิสูจน์รักแท้ แต่สุดท้ายพบว่าเป็นตัวคนร้ายเอง สืบพบว่ามีประวัติโชกโชน ตระเวนก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 49 จนถึงปัจจุบันกว่า 6 คดี และมีหมายจับ 2 หมายโดยได้ตัดกำไร EM หลบหนีประกัน จึงให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ในฐานะหัวหน้า PCT 5 เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะเป็นภัยสังคมอย่างยิ่ง เกรงว่าจะมีเหยื่อหญิงสาวถูกล่อลวงเพิ่มขึ้น


เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. (PCT) , พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หน.PCT ชุดปฏิบัติการที่ 5 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. ร.ต.อ.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ รอง สว.กลุ่มงานการข่าวฯ ร.ต.อ.กิติศักดิ์ ออกรัมย์ รอง สว.กก.1 บก.สอท.3 ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพ รอง สว.กก.2 บก.สส.ภ.2 , ร่วมกันกับทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เจ้าหน้าที่ ตำรวจ PCT ชุดที่ 5 และ บก.สส.บช.น.ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายพงศกร หรือชาย ศุภกรมงคลชัย อายุ 43 ปี ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาตามหมายจับ 3 หมายจับ ดังนี้
1.หมายจับศาลแขวงเชียงใหม่ที่ จ.407/2561 ลงวันที่ 16 ต.ค. 61 ข้อหา “ยักยอกทรัพย์”
2.หมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่ จ.90/2563 ข้อหา “ฉ้อโกง”
3.หมายจับศาลอาญาที่ 35/2566 ลงวันที่ 2 ก.พ. 66 ข้อหา “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น” โดยกล่าวหาว่า “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น” และตรวจค้นห้องพักคอนโด สุขุมวิท 13 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ยึดของกลาง จำนวนหนึ่ง

พฤติการณ์คนร้ายคือ สืบเนื่องจากมีหญิงสาวผู้เสียหายรายหนึ่งได้ขอความช่วยเหลือไปถึง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. โดยแจ้งว่าได้ใช้แอปพลิเคชันหาคู่ App Bumble และได้พบกับคนร้ายซึ่งอ้างว่าตนเองชื่อ นายเธนศ (ไม่ทราบนามสกุล) ชื่อเล่น “ทอม” โดยคนร้ายสร้างภาพโปรไฟล์เป็นหนุ่มรูปหล่อ ได้แชทสนทนาจีบกันกับหญิงผู้เสียหายโดยคนร้ายหว่านล้อมแสดงตนว่าเป็นผู้ชายสายบุญ กระทั่งหญิงผู้เสียหายรายนี้เริ่มหลงรัก เมื่อคนร้ายได้แชทสนทนากับหญิงผู้เสียหายได้มาระยะหนึ่ง คนร้ายสามารถรับรู้ได้ว่าหญิงผู้เสียหายมีอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้า คนร้ายได้ใช้เทคนิคการสนทนาในลักษณะรู้จุดอ่อนของเหยื่อแต่งเรื่อง “วิปริต” หลอกลวงหญิงผู้เสียหายต่อไปว่า หากต้องการจะคบเป็นแฟน หญิงผู้เสียหายจะต้องไปหลับนอนกับ “พ่อ”ของตนก่อนมิ เช่นนั้นจะต้องเลิกรากัน ซึ่งหญิงผู้เสียหายกลัวที่จะต้องเลิกรายอมเดินทางไปพบกับ พ่อของหนุ่มหล่อที่แชทสนทนากัน ซึ่งแท้จริงพ่อคนดังกล่าวนั้นคือ ผู้ต้องหานั่นเอง โดยคนร้ายหลอกลวงเช่นนี้เพราะทราบดีว่าตนเองหน้าตาไม่เหมือนกับใบหน้าในโปรไฟล์ที่แชทสนทนา จึงออกอุบายว่าตนเองเป็นพ่อของหนุ่มรูปหล่อที่แชทสนทนากับหญิงผู้เสียหาย โดยเมื่อคนร้ายได้นัดเจอกับหญิงผู้เสียหายที่โรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งใน ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เป็นจำนวน 4 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค. 66 ถึงวันที่ 19 ม.ค. 66 จากนั้นคนร้ายจึงเริ่มล่อลวงให้หญิงผู้เสียหายเริ่มลงทุน Money Exchange โดยเริ่มโอนเงินให้กับคนร้ายหลายครั้ง และยังถูกหลอกให้นำรถยนต์ของเหยื่อไปขายเพื่อนำเงินมาโอนให้กับคนร้ายอีก ซึ่งรวมความเสียหายทั้งหมด 1,511,911 บาท


ซึ่งหลังรับแจ้ง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ได้วิเคราะห์เห็นความผิดปกติของคดี ซึ่งเชื่อว่ามีข้อเท็จจริงที่ซ่อนเร้นมากกว่าการหลอกลวงทั่วไป ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ในฐานะหัวหน้าชุด PCT5 ดำเนินการสืบสวนร่วมกับทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมในทันที ซึ่งเมื่อลงสืบสวนก็ได้พบกับวิธีการสุดเลวยิ่งกว่าการถูกหลอกลวงทั่วไป โดยสืบสวนพบว่า ลักษณะของหญิงผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อนั้น มีอาการคิดฆ่าตัวตาย ซึ่งวิเคราะห์ได้ว่ามีสิ่งที่เกิดขึ้นมากกว่าการถูกหลอกลวงทั่วไป ว่าเหยื่ออาจถูกคนร้าย “แบล็คเมล์” โดยเชื่อว่าการที่หญิงผู้เสียหายยอมมีเพศสัมพันธ์กับคนร้ายซึ่งเป็นชายแปลกหน้าถึง 4 ครั้งนั้น ต้องเกิดจากที่คนร้ายใช้วิธีการเชิงบังคับอย่างแน่นอน ซึ่งต่อมาทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ได้สืบสวนจนทราบว่าคนร้ายคือ นายพงศกร อายุ 43 ปี ตรวจพบว่าเป็นเป็นอดีตทนายความในพื้นที่ จ.ชลบุรี แต่ได้ถูกถอนใบอนุญาตไปเนื่องจากเข้าไปพัวพันเรื่องผิดกฏหมายกับกลุ่มชาวต่างชาติ และจากการตรวจสอบพบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับกว่า 2 หมายจับ และมีประวัติก่อเหตุมาแล้วหลายคดีดังนี้
1.วันที่ 15 พ.ย. 49 ถูกดำเนินคดีในข้อหา “พ.ร.บ.เช็ค” พื้นที่ สภ.เมืองนครปฐม
2.วันที่ 21 มิ.ย. 50 ถูกดำเนินคดีในข้อหา “ลักทรัพย์” พื้นที่ สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ
3.วันที่ 15 พ.ค. 61 ถูกดำเนินคดีในข้อหา “ยักยอกทรัพย์” พื้นที่ สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่
4.วันที่ 1 พ.ค. 63 ถูกดำเนินคดีในข้อหา “ฉ้อโกง” พื้นที่ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์
5.วันที่ 30 ม.ค. 65 ถูกดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” พื้นที่ สน.ตลิ่งชัน
6.วันที่ 29 พ.ค. 65 ถูกดำเนินคดีในข้อหา “ฉ้อโกงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” พื้นที่ สน.สมเด็จเจ้าพระยา

ทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ และตำรวจชุด PCT5 จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและได้ออกหมายจับเพิ่มอีกในคดีนี้ ในข้อหา “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น” ตามหมายจับศาลอาญาที่ 35/2566 ลงวันที่ 2 ก.พ.66 และได้เร่งสืบสวนติดตามตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว ซึ่งต่อมาวันที่ 3 ก.พ. 66 พล.ต.ต.ธีรเดช นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด PCT5 ได้นำกำลังเข้าจับกุม นายพงศกร ตามหมายจับ โดยจับกุมได้ที่บริเวณหน้าร้านกิมฮุง ร้านทอง ถ.สุขุมวิท ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ โดยขณะจับกุม นายพงศกร ออกอุบายตบตาเจ้าหน้าที่โดยแสร้งว่าตนเองมิใช่บุคคลตามหมายจับ และเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วยืนยันว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริงและจะทำการจับกุมตัว นายพงศกร ยังมีพฤติกรรมต่อสู้ขัดขืนการจับกุมของเจ้าหน้าที่ จึงได้ใช้กำลังตามสมควรในการจับกุม ซึ่งหลังการจับกุม พล.ต.ต.ธีรเดช นำกำลังเจ้าหน้าที่ขยายผลการจับกุม โดยเข้าตรวจค้น ห้องพักคอนโด สุขุมวิท 13 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ตามหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ 46/2566 ลงวันที่ 3 ก.พ. 66 พบของกลางหลายรายการ โดยตรวจพบหลักฐาน “สมุดบันทึก” ซึ่งมีการบันทึกลักษณะจิตใจ พฤติกรรม ของเหยื่อผู้เสียหาย และยังตรวจพบข้อมูลภาพถ่ายของผู้เสียหาย ที่นายพงศกรฯใช้แบล็คเมลล์ในโทรศัพท์มือถือกว่าหลายภาพ และยังพบอัลบั้มภาพลักษณะนี้กับผู้หญิงรายอื่นอีกไม่ต่ำกว่า 3 คน ซึ่งหลังเสร็จสิ้นการขยายผล ได้มีการนำตัว นายพงศกรฯ ส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.สอท.1 เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย ส่วนหมายจับที่เหลืออีก 2 หมาย ได้มีการประสานงานกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ และ สภ.แม่ปิง ทำเรื่องอายัดตัวต่อไป

ในชั้นจับกุม นายพงศกร ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “เราไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา เพราะจากพยานหลักฐานได้วิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมของผู้ต้องหา ประกอบกับภาพในโทรศัพท์ของผู้ต้องหานั้น เป็นภาพการวีดิโอคอลลักษณะที่ฝ่ายหญิงผู้เสียหายเป็นฝ่ายเปิดภาพกล้องฝ่ายเดียวในสภาพเปลือยกาย ส่วนฝ่ายคนร้ายนั้นไม่มีการเปิดกล้อง เป็นเช่นนี้จำนวนหลายภาพ รูปแบบและเทคนิคการฉ้อโกงที่น่ากลัว และพยานหลักฐานที่พบสมุดจดในห้องนั้นมีการวิเคราะห์จุดอ่อนของเหยื่อไว้ด้วย คนร้ายในคดีนี้จึงถือเป็นภัยต่อสังคมอย่างยิ่ง มีจิตวิทยาสูง อาศัยความเชื่อเหยื่อในการดูดวง ผมจะไม่ยอมให้คนเหล่านี้อยู่ร่วมในสังคมกับประชาชนทั่วไปได้ เพราะการกระทำเยี่ยงนี้สามารถทำลายชีวิตคนให้ตายทั้งเป็นได้เลย และขอเตือนภัยไปยังกลุ่มผู้ใช้แอปพลิเคชั่นหาคู่เหล่านี้ ล่าสุดเราพบข้อมูลในโทรศัพท์ของคนร้าย ยังคงมี User ออนไลน์ไว้ในระบบแอปหาคู่ชื่อดัง 2 แอปพลิเคชั่น โดยใช้ชื่อโปรไฟล์ว่า “Tom” โดยใช้ภาพโปรไฟล์เป็นหนุ่มหล่อ ให้ลองตรวจสอบโดยเร็วหากผู้ใดได้รับความเสียหายถูกหลอกลวงไปแล้วหรือกำลังจะหลงเชื่อ สามารถขอคำปรึกษาได้ทางเพจเฟสบุ๊ค สืบสวนนครบาล IDMB ได้ตลอด 24 ชม.”.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย