รวบอดีตทนาย สร้างโปรไฟล์หรูแอปหาคู่ หลอกให้รักเอาเงิน

กทม. 4 ก.พ.-ผบ.ตร.ส่งทีม PCT 5 แกะรอยรวบอดีตทนาย ใช้ภาพปลอมสร้างโปรไฟล์สุดหรูในแอปหาคู่ ล่อลวงให้รักหลอกเอาเงินจนหมดตัว เหยื่อบางรายหวิดคิดสั้นฆ่าตัวตาย

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ส่งทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมชุด PCT5 ร่วมกับชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบนครบาลแกะรอยติดตามอ้างเป็นนายแพทย์ทอมในโลกโซเชียล หลังรับแจ้งจากผู้เสียหายหญิงรายหนึ่งซึ่งป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ถูกคนร้ายหลอกลวงผ่านแอปพลิเคชันหาคู่ App Bumble แผนประทุษกรรมสุดแสบโดยใช้โปรไฟล์เป็นหนุ่มรูปงาม และเป็นคนสายบุญ หลอกให้เหยื่อหลงรัก จากนั้นคนร้ายลวงให้ผู้เสียหายลงทุน Money Exchange มูลค่าความเสียหายเกือบ 2 ล้านบาทจนหมดตัว แล้วออกอุบายบังคับให้มีเพศสัมพันธ์กับพ่อของคนร้ายเพื่อพิสูจน์รักแท้ แต่สุดท้ายพบว่าเป็นตัวคนร้ายเอง สืบพบว่ามีประวัติโชกโชน ตระเวนก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 49 จนถึงปัจจุบันกว่า 6 คดี และมีหมายจับ 2 หมายโดยได้ตัดกำไร EM หลบหนีประกัน จึงให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ในฐานะหัวหน้า PCT 5 เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะเป็นภัยสังคมอย่างยิ่ง เกรงว่าจะมีเหยื่อหญิงสาวถูกล่อลวงเพิ่มขึ้น


เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. (PCT) , พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หน.PCT ชุดปฏิบัติการที่ 5 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. ร.ต.อ.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ รอง สว.กลุ่มงานการข่าวฯ ร.ต.อ.กิติศักดิ์ ออกรัมย์ รอง สว.กก.1 บก.สอท.3 ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพ รอง สว.กก.2 บก.สส.ภ.2 , ร่วมกันกับทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เจ้าหน้าที่ ตำรวจ PCT ชุดที่ 5 และ บก.สส.บช.น.ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายพงศกร หรือชาย ศุภกรมงคลชัย อายุ 43 ปี ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาตามหมายจับ 3 หมายจับ ดังนี้
1.หมายจับศาลแขวงเชียงใหม่ที่ จ.407/2561 ลงวันที่ 16 ต.ค. 61 ข้อหา “ยักยอกทรัพย์”
2.หมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่ จ.90/2563 ข้อหา “ฉ้อโกง”
3.หมายจับศาลอาญาที่ 35/2566 ลงวันที่ 2 ก.พ. 66 ข้อหา “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น” โดยกล่าวหาว่า “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น” และตรวจค้นห้องพักคอนโด สุขุมวิท 13 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ยึดของกลาง จำนวนหนึ่ง

พฤติการณ์คนร้ายคือ สืบเนื่องจากมีหญิงสาวผู้เสียหายรายหนึ่งได้ขอความช่วยเหลือไปถึง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. โดยแจ้งว่าได้ใช้แอปพลิเคชันหาคู่ App Bumble และได้พบกับคนร้ายซึ่งอ้างว่าตนเองชื่อ นายเธนศ (ไม่ทราบนามสกุล) ชื่อเล่น “ทอม” โดยคนร้ายสร้างภาพโปรไฟล์เป็นหนุ่มรูปหล่อ ได้แชทสนทนาจีบกันกับหญิงผู้เสียหายโดยคนร้ายหว่านล้อมแสดงตนว่าเป็นผู้ชายสายบุญ กระทั่งหญิงผู้เสียหายรายนี้เริ่มหลงรัก เมื่อคนร้ายได้แชทสนทนากับหญิงผู้เสียหายได้มาระยะหนึ่ง คนร้ายสามารถรับรู้ได้ว่าหญิงผู้เสียหายมีอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้า คนร้ายได้ใช้เทคนิคการสนทนาในลักษณะรู้จุดอ่อนของเหยื่อแต่งเรื่อง “วิปริต” หลอกลวงหญิงผู้เสียหายต่อไปว่า หากต้องการจะคบเป็นแฟน หญิงผู้เสียหายจะต้องไปหลับนอนกับ “พ่อ”ของตนก่อนมิ เช่นนั้นจะต้องเลิกรากัน ซึ่งหญิงผู้เสียหายกลัวที่จะต้องเลิกรายอมเดินทางไปพบกับ พ่อของหนุ่มหล่อที่แชทสนทนากัน ซึ่งแท้จริงพ่อคนดังกล่าวนั้นคือ ผู้ต้องหานั่นเอง โดยคนร้ายหลอกลวงเช่นนี้เพราะทราบดีว่าตนเองหน้าตาไม่เหมือนกับใบหน้าในโปรไฟล์ที่แชทสนทนา จึงออกอุบายว่าตนเองเป็นพ่อของหนุ่มรูปหล่อที่แชทสนทนากับหญิงผู้เสียหาย โดยเมื่อคนร้ายได้นัดเจอกับหญิงผู้เสียหายที่โรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งใน ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เป็นจำนวน 4 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค. 66 ถึงวันที่ 19 ม.ค. 66 จากนั้นคนร้ายจึงเริ่มล่อลวงให้หญิงผู้เสียหายเริ่มลงทุน Money Exchange โดยเริ่มโอนเงินให้กับคนร้ายหลายครั้ง และยังถูกหลอกให้นำรถยนต์ของเหยื่อไปขายเพื่อนำเงินมาโอนให้กับคนร้ายอีก ซึ่งรวมความเสียหายทั้งหมด 1,511,911 บาท


ซึ่งหลังรับแจ้ง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ได้วิเคราะห์เห็นความผิดปกติของคดี ซึ่งเชื่อว่ามีข้อเท็จจริงที่ซ่อนเร้นมากกว่าการหลอกลวงทั่วไป ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ในฐานะหัวหน้าชุด PCT5 ดำเนินการสืบสวนร่วมกับทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมในทันที ซึ่งเมื่อลงสืบสวนก็ได้พบกับวิธีการสุดเลวยิ่งกว่าการถูกหลอกลวงทั่วไป โดยสืบสวนพบว่า ลักษณะของหญิงผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อนั้น มีอาการคิดฆ่าตัวตาย ซึ่งวิเคราะห์ได้ว่ามีสิ่งที่เกิดขึ้นมากกว่าการถูกหลอกลวงทั่วไป ว่าเหยื่ออาจถูกคนร้าย “แบล็คเมล์” โดยเชื่อว่าการที่หญิงผู้เสียหายยอมมีเพศสัมพันธ์กับคนร้ายซึ่งเป็นชายแปลกหน้าถึง 4 ครั้งนั้น ต้องเกิดจากที่คนร้ายใช้วิธีการเชิงบังคับอย่างแน่นอน ซึ่งต่อมาทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ได้สืบสวนจนทราบว่าคนร้ายคือ นายพงศกร อายุ 43 ปี ตรวจพบว่าเป็นเป็นอดีตทนายความในพื้นที่ จ.ชลบุรี แต่ได้ถูกถอนใบอนุญาตไปเนื่องจากเข้าไปพัวพันเรื่องผิดกฏหมายกับกลุ่มชาวต่างชาติ และจากการตรวจสอบพบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับกว่า 2 หมายจับ และมีประวัติก่อเหตุมาแล้วหลายคดีดังนี้
1.วันที่ 15 พ.ย. 49 ถูกดำเนินคดีในข้อหา “พ.ร.บ.เช็ค” พื้นที่ สภ.เมืองนครปฐม
2.วันที่ 21 มิ.ย. 50 ถูกดำเนินคดีในข้อหา “ลักทรัพย์” พื้นที่ สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ
3.วันที่ 15 พ.ค. 61 ถูกดำเนินคดีในข้อหา “ยักยอกทรัพย์” พื้นที่ สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่
4.วันที่ 1 พ.ค. 63 ถูกดำเนินคดีในข้อหา “ฉ้อโกง” พื้นที่ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์
5.วันที่ 30 ม.ค. 65 ถูกดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” พื้นที่ สน.ตลิ่งชัน
6.วันที่ 29 พ.ค. 65 ถูกดำเนินคดีในข้อหา “ฉ้อโกงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” พื้นที่ สน.สมเด็จเจ้าพระยา

ทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ และตำรวจชุด PCT5 จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและได้ออกหมายจับเพิ่มอีกในคดีนี้ ในข้อหา “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น” ตามหมายจับศาลอาญาที่ 35/2566 ลงวันที่ 2 ก.พ.66 และได้เร่งสืบสวนติดตามตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว ซึ่งต่อมาวันที่ 3 ก.พ. 66 พล.ต.ต.ธีรเดช นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด PCT5 ได้นำกำลังเข้าจับกุม นายพงศกร ตามหมายจับ โดยจับกุมได้ที่บริเวณหน้าร้านกิมฮุง ร้านทอง ถ.สุขุมวิท ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ โดยขณะจับกุม นายพงศกร ออกอุบายตบตาเจ้าหน้าที่โดยแสร้งว่าตนเองมิใช่บุคคลตามหมายจับ และเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วยืนยันว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริงและจะทำการจับกุมตัว นายพงศกร ยังมีพฤติกรรมต่อสู้ขัดขืนการจับกุมของเจ้าหน้าที่ จึงได้ใช้กำลังตามสมควรในการจับกุม ซึ่งหลังการจับกุม พล.ต.ต.ธีรเดช นำกำลังเจ้าหน้าที่ขยายผลการจับกุม โดยเข้าตรวจค้น ห้องพักคอนโด สุขุมวิท 13 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ตามหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ 46/2566 ลงวันที่ 3 ก.พ. 66 พบของกลางหลายรายการ โดยตรวจพบหลักฐาน “สมุดบันทึก” ซึ่งมีการบันทึกลักษณะจิตใจ พฤติกรรม ของเหยื่อผู้เสียหาย และยังตรวจพบข้อมูลภาพถ่ายของผู้เสียหาย ที่นายพงศกรฯใช้แบล็คเมลล์ในโทรศัพท์มือถือกว่าหลายภาพ และยังพบอัลบั้มภาพลักษณะนี้กับผู้หญิงรายอื่นอีกไม่ต่ำกว่า 3 คน ซึ่งหลังเสร็จสิ้นการขยายผล ได้มีการนำตัว นายพงศกรฯ ส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.สอท.1 เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย ส่วนหมายจับที่เหลืออีก 2 หมาย ได้มีการประสานงานกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ และ สภ.แม่ปิง ทำเรื่องอายัดตัวต่อไป

ในชั้นจับกุม นายพงศกร ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “เราไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา เพราะจากพยานหลักฐานได้วิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมของผู้ต้องหา ประกอบกับภาพในโทรศัพท์ของผู้ต้องหานั้น เป็นภาพการวีดิโอคอลลักษณะที่ฝ่ายหญิงผู้เสียหายเป็นฝ่ายเปิดภาพกล้องฝ่ายเดียวในสภาพเปลือยกาย ส่วนฝ่ายคนร้ายนั้นไม่มีการเปิดกล้อง เป็นเช่นนี้จำนวนหลายภาพ รูปแบบและเทคนิคการฉ้อโกงที่น่ากลัว และพยานหลักฐานที่พบสมุดจดในห้องนั้นมีการวิเคราะห์จุดอ่อนของเหยื่อไว้ด้วย คนร้ายในคดีนี้จึงถือเป็นภัยต่อสังคมอย่างยิ่ง มีจิตวิทยาสูง อาศัยความเชื่อเหยื่อในการดูดวง ผมจะไม่ยอมให้คนเหล่านี้อยู่ร่วมในสังคมกับประชาชนทั่วไปได้ เพราะการกระทำเยี่ยงนี้สามารถทำลายชีวิตคนให้ตายทั้งเป็นได้เลย และขอเตือนภัยไปยังกลุ่มผู้ใช้แอปพลิเคชั่นหาคู่เหล่านี้ ล่าสุดเราพบข้อมูลในโทรศัพท์ของคนร้าย ยังคงมี User ออนไลน์ไว้ในระบบแอปหาคู่ชื่อดัง 2 แอปพลิเคชั่น โดยใช้ชื่อโปรไฟล์ว่า “Tom” โดยใช้ภาพโปรไฟล์เป็นหนุ่มหล่อ ให้ลองตรวจสอบโดยเร็วหากผู้ใดได้รับความเสียหายถูกหลอกลวงไปแล้วหรือกำลังจะหลงเชื่อ สามารถขอคำปรึกษาได้ทางเพจเฟสบุ๊ค สืบสวนนครบาล IDMB ได้ตลอด 24 ชม.”.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบเจ้าบ่าวลอบขนยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด

ปราจีนบุรี 17 พ.ค. – ตำรวจสกัดจับพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก กระสุนปืน 10 นัด รถกระบะ 1 คัน นาทีเจ้าหน้าที่สกัดจับนายธนธรรม หรือ เม่น เจ้าบ่าวซึ่งเพิ่งผ่านพิธีแต่งงานไปไม่นาน และเป็นหนึ่งในแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ โดยจับกุมได้บริเวณถนนบ้านหนองหอย อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด, อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก, กระสุนปืน 10 นัด และรถกระบะ 1 คัน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยขบวนการนี้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากริมแม่น้ำโขง จ.อำนาจเจริญ มาซุกซ่อนไว้ที่บ้านในปราจีนบุรี เพื่อเตรียมกระจายไปยังพื้นที่ปทุมธานี เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวจนพบว่าจะมีการเดินทางไปยัง จ.อุบลราชธานี เพื่อรับยาเสพติด กระทั่งกลุ่มผู้ต้องหารู้ตัวว่าถูกสะกดรอย จึงเร่งความเร็วรถหลบหนี ก่อนพุ่งชนรถเจ้าหน้าที่ และถูกสกัดจับไว้ได้ ขณะที่รถยนต์ 2 […]

ไรเดอร์ชกเบ้าตาแตก ฉุนเมาปักหมุดมั่วแถมลวนลาม

พัทยา 17 พ.ค.- ไรเดอร์ฉุน ชกนักท่องเที่ยวชาวอินเดียจนเบ้าตาแตก พยานบอกผู้ก่อเหตุฉุนปักหมุดผิดทำขี่วนหลายรอบ แถมถูกลวนลามจึงทนไม่ไหว นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย อายุประมาณ 35-40 ปี นอนบาดเจ็บ คิ้วซ้ายและเบ้าตาซ้ายแตกเลือดอาบหน้าอยู่ในอาการมึนเมา เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงประมาณตี 1 วันนี้ ในซอยเทพประสิทธิ์ 17 เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง แต่พลเมืองดีบันทึกภาพไว้ได้ จึงมอบให้ตำรวจเป็นหลักฐาน สอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัยของคอนโดฯ แห่งหนึ่งใกล้จุดเกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุเป็นไรเดอร์ส่งผู้โดยสาร และเล่าให้ตนฟังว่านักท่องเที่ยวคนนี้มึนเมาอย่างหนัก แถมปักหมุดสถานที่ส่งผิดที่ ผู้ก่อเหตุก็พยายามวนหาอยู่หลายครั้ง เท่านั้นยังไม่พอ ผู้บาดเจ็บได้ลวนลามผู้ก่อเหตุ จนผู้ก่อเหตุโมโหและจอดรถชกหน้าทันที ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บจะเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา หลังรักษาอาการบาดเจ็บแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ข่าวแนะนำ

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

Pope Leo XIV with the Fisherman's Ring

ผู้นำโลกร่วมพิธีมิสซาสถาปนาโป๊ปเลโอที่ 14

โป๊ปเลโอที่ 14 เข้าพิธีมิสซารับตำแหน่งพระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกอย่างเป็นทางการแล้วในเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีผู้นำจากทั่วโลกร่วมในพิธี

อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง นอนคุกคืนแรกเครียด ไม่กินมื้อเย็น

กรมราชทัณฑ์ 18 พ.ค. – อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง นอนคุกคืนแรกเครียด ไม่กินมื้อเย็น ส่วน “เปรมชัย” กักโรคอยู่แดนพยาบาลเรือนจำ ภายหลังวานนี้ (17 พ.ค.) พนักงานสอบสวนนำตัว 3 ผู้ต้องหา คดียักยอกเงินวัดไร่ขิง ได้แก่ นายแย้ม อินทร์กรุงเก่า หรือ อดีตพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง นายเอกพจน์ ภูฆัง หรือ อดีตพระมหาเอกพจน์ ภูฆัง พระลูกวัดคนสนิทของอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และ น.ส.อรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ โบรกเกอร์เว็บพนันออนไลน์ ฝากขังศาลครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน และส่งตัวไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลาง นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้ออกหมายขังระหว่างสอบสวน ให้ขัง น.ส.อรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ ที่ทัณฑสถานหญิงกลางโดยได้ดำเนินการรับตัวและนำตัวกักโรคโควิด-19 ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อในแดนระหว่างพิจารณาคดี เบื้องต้นตรวจสุขภาพร่างกายปกติ […]

ฝนตกหนักบนดอยสุเทพ น้ำหลากท่วมชุมชนเขตเทศบาลเชียงใหม่

เชียงใหม่ 18 พ.ค.-ฝนตกหนักบนดอยสุเทพ และในตัวเมืองเชียงใหม่ นานนับชั่วโมง ทำให้น้ำป่าไหลหลากลงมาตามลำห้วย และเอ่อล้นท่อระบายน้ำ ท่วมขังชุมชนศรีปิงเมือง ชุมชนกาดก้อม ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังกังวล กลัวจะเหมือนปีที่ผ่านมา ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ทำให้รถเล็ก ที่จะผ่านเส้นทางบริเวณดังกล่าว ผ่านลำบาก รถจักรยานยนต์ เครื่องยนต์ดับหลายคัน ระดับน้ำสูง 30 เซนติเมตร ขณะที่ชาวบ้านขอความร่วมมือผู้ที่ขับรถยนต์ผ่านเส้นทางเข้าในชุมชน ขอให้ชะลอความเร็ว เนื่องจากเกิดคลื่นน้ำ ทะลักเข้าไปในบ้าน ทรัพย์สินจะเสียหาย หากเป็นไปได้ ให้หลีกเลี่ยงเส้นทาง ไปใช้เส้นทางอื่นแทน ขณะนี้ระดับน้ำยังคงสูงขึ้น เนื่องจากฝนยังไม่หยุดตก ทำให้การสัญจรบางเส้นทางลำบาก นอกจากนั้นยังมีน้ำท่วมขังถนนอีกหลายสาย รอการระบาย ทำให้มีประชาชนติดค้างตามร้านค้าร้านอาหารข้างทางเพื่อหลบฝน ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาและเร่งระบายน้ำ หลังจากนั้นประมาณ 2-3 ชั่วโมง ระดับน้ำน่าจะลดลง ล่าสุดเช้าวันนี้ ระดับน้ำลดลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว บางจุดยังมีน้ำขังบนถนนเล็กน้อย ถนนตามชุมชนมีแต่ขยะและถุงขยะลอยมากับน้ำท่วม ทำให้รถขยะของเทศบาลนครเชียงใหม่ เร่งเก็บเศษขยะและถุงขยะ อย่างไรก็ตามประชาชนส่วนใหญ่ยังกังวลเกี่ยวกับเรื่องน้ำท่วม กลัวจะเหมือนปีที่ผ่านมา ขณะที่ผู้รับเหมาดูดตะกอนดินทรายในแม่น้ำปิง ได้นำเรือดูดทรายลำแรกจากจังหวัดอ่างทอง มาถึง ลงในน้ำปิง ตรงข้ามกับสำนักงานแขวงนครพิงค์ ย่านวังสิงห์คำ ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ […]