รวบอดีตทนาย สร้างโปรไฟล์หรูแอปหาคู่ หลอกให้รักเอาเงิน

กทม. 4 ก.พ.-ผบ.ตร.ส่งทีม PCT 5 แกะรอยรวบอดีตทนาย ใช้ภาพปลอมสร้างโปรไฟล์สุดหรูในแอปหาคู่ ล่อลวงให้รักหลอกเอาเงินจนหมดตัว เหยื่อบางรายหวิดคิดสั้นฆ่าตัวตาย

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ส่งทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมชุด PCT5 ร่วมกับชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบนครบาลแกะรอยติดตามอ้างเป็นนายแพทย์ทอมในโลกโซเชียล หลังรับแจ้งจากผู้เสียหายหญิงรายหนึ่งซึ่งป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ถูกคนร้ายหลอกลวงผ่านแอปพลิเคชันหาคู่ App Bumble แผนประทุษกรรมสุดแสบโดยใช้โปรไฟล์เป็นหนุ่มรูปงาม และเป็นคนสายบุญ หลอกให้เหยื่อหลงรัก จากนั้นคนร้ายลวงให้ผู้เสียหายลงทุน Money Exchange มูลค่าความเสียหายเกือบ 2 ล้านบาทจนหมดตัว แล้วออกอุบายบังคับให้มีเพศสัมพันธ์กับพ่อของคนร้ายเพื่อพิสูจน์รักแท้ แต่สุดท้ายพบว่าเป็นตัวคนร้ายเอง สืบพบว่ามีประวัติโชกโชน ตระเวนก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 49 จนถึงปัจจุบันกว่า 6 คดี และมีหมายจับ 2 หมายโดยได้ตัดกำไร EM หลบหนีประกัน จึงให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ในฐานะหัวหน้า PCT 5 เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะเป็นภัยสังคมอย่างยิ่ง เกรงว่าจะมีเหยื่อหญิงสาวถูกล่อลวงเพิ่มขึ้น


เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. (PCT) , พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หน.PCT ชุดปฏิบัติการที่ 5 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. ร.ต.อ.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ รอง สว.กลุ่มงานการข่าวฯ ร.ต.อ.กิติศักดิ์ ออกรัมย์ รอง สว.กก.1 บก.สอท.3 ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพ รอง สว.กก.2 บก.สส.ภ.2 , ร่วมกันกับทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เจ้าหน้าที่ ตำรวจ PCT ชุดที่ 5 และ บก.สส.บช.น.ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายพงศกร หรือชาย ศุภกรมงคลชัย อายุ 43 ปี ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาตามหมายจับ 3 หมายจับ ดังนี้
1.หมายจับศาลแขวงเชียงใหม่ที่ จ.407/2561 ลงวันที่ 16 ต.ค. 61 ข้อหา “ยักยอกทรัพย์”
2.หมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่ จ.90/2563 ข้อหา “ฉ้อโกง”
3.หมายจับศาลอาญาที่ 35/2566 ลงวันที่ 2 ก.พ. 66 ข้อหา “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น” โดยกล่าวหาว่า “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น” และตรวจค้นห้องพักคอนโด สุขุมวิท 13 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ยึดของกลาง จำนวนหนึ่ง

พฤติการณ์คนร้ายคือ สืบเนื่องจากมีหญิงสาวผู้เสียหายรายหนึ่งได้ขอความช่วยเหลือไปถึง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. โดยแจ้งว่าได้ใช้แอปพลิเคชันหาคู่ App Bumble และได้พบกับคนร้ายซึ่งอ้างว่าตนเองชื่อ นายเธนศ (ไม่ทราบนามสกุล) ชื่อเล่น “ทอม” โดยคนร้ายสร้างภาพโปรไฟล์เป็นหนุ่มรูปหล่อ ได้แชทสนทนาจีบกันกับหญิงผู้เสียหายโดยคนร้ายหว่านล้อมแสดงตนว่าเป็นผู้ชายสายบุญ กระทั่งหญิงผู้เสียหายรายนี้เริ่มหลงรัก เมื่อคนร้ายได้แชทสนทนากับหญิงผู้เสียหายได้มาระยะหนึ่ง คนร้ายสามารถรับรู้ได้ว่าหญิงผู้เสียหายมีอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้า คนร้ายได้ใช้เทคนิคการสนทนาในลักษณะรู้จุดอ่อนของเหยื่อแต่งเรื่อง “วิปริต” หลอกลวงหญิงผู้เสียหายต่อไปว่า หากต้องการจะคบเป็นแฟน หญิงผู้เสียหายจะต้องไปหลับนอนกับ “พ่อ”ของตนก่อนมิ เช่นนั้นจะต้องเลิกรากัน ซึ่งหญิงผู้เสียหายกลัวที่จะต้องเลิกรายอมเดินทางไปพบกับ พ่อของหนุ่มหล่อที่แชทสนทนากัน ซึ่งแท้จริงพ่อคนดังกล่าวนั้นคือ ผู้ต้องหานั่นเอง โดยคนร้ายหลอกลวงเช่นนี้เพราะทราบดีว่าตนเองหน้าตาไม่เหมือนกับใบหน้าในโปรไฟล์ที่แชทสนทนา จึงออกอุบายว่าตนเองเป็นพ่อของหนุ่มรูปหล่อที่แชทสนทนากับหญิงผู้เสียหาย โดยเมื่อคนร้ายได้นัดเจอกับหญิงผู้เสียหายที่โรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งใน ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เป็นจำนวน 4 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค. 66 ถึงวันที่ 19 ม.ค. 66 จากนั้นคนร้ายจึงเริ่มล่อลวงให้หญิงผู้เสียหายเริ่มลงทุน Money Exchange โดยเริ่มโอนเงินให้กับคนร้ายหลายครั้ง และยังถูกหลอกให้นำรถยนต์ของเหยื่อไปขายเพื่อนำเงินมาโอนให้กับคนร้ายอีก ซึ่งรวมความเสียหายทั้งหมด 1,511,911 บาท


ซึ่งหลังรับแจ้ง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ได้วิเคราะห์เห็นความผิดปกติของคดี ซึ่งเชื่อว่ามีข้อเท็จจริงที่ซ่อนเร้นมากกว่าการหลอกลวงทั่วไป ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ในฐานะหัวหน้าชุด PCT5 ดำเนินการสืบสวนร่วมกับทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมในทันที ซึ่งเมื่อลงสืบสวนก็ได้พบกับวิธีการสุดเลวยิ่งกว่าการถูกหลอกลวงทั่วไป โดยสืบสวนพบว่า ลักษณะของหญิงผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อนั้น มีอาการคิดฆ่าตัวตาย ซึ่งวิเคราะห์ได้ว่ามีสิ่งที่เกิดขึ้นมากกว่าการถูกหลอกลวงทั่วไป ว่าเหยื่ออาจถูกคนร้าย “แบล็คเมล์” โดยเชื่อว่าการที่หญิงผู้เสียหายยอมมีเพศสัมพันธ์กับคนร้ายซึ่งเป็นชายแปลกหน้าถึง 4 ครั้งนั้น ต้องเกิดจากที่คนร้ายใช้วิธีการเชิงบังคับอย่างแน่นอน ซึ่งต่อมาทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ได้สืบสวนจนทราบว่าคนร้ายคือ นายพงศกร อายุ 43 ปี ตรวจพบว่าเป็นเป็นอดีตทนายความในพื้นที่ จ.ชลบุรี แต่ได้ถูกถอนใบอนุญาตไปเนื่องจากเข้าไปพัวพันเรื่องผิดกฏหมายกับกลุ่มชาวต่างชาติ และจากการตรวจสอบพบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับกว่า 2 หมายจับ และมีประวัติก่อเหตุมาแล้วหลายคดีดังนี้
1.วันที่ 15 พ.ย. 49 ถูกดำเนินคดีในข้อหา “พ.ร.บ.เช็ค” พื้นที่ สภ.เมืองนครปฐม
2.วันที่ 21 มิ.ย. 50 ถูกดำเนินคดีในข้อหา “ลักทรัพย์” พื้นที่ สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ
3.วันที่ 15 พ.ค. 61 ถูกดำเนินคดีในข้อหา “ยักยอกทรัพย์” พื้นที่ สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่
4.วันที่ 1 พ.ค. 63 ถูกดำเนินคดีในข้อหา “ฉ้อโกง” พื้นที่ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์
5.วันที่ 30 ม.ค. 65 ถูกดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” พื้นที่ สน.ตลิ่งชัน
6.วันที่ 29 พ.ค. 65 ถูกดำเนินคดีในข้อหา “ฉ้อโกงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” พื้นที่ สน.สมเด็จเจ้าพระยา

ทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ และตำรวจชุด PCT5 จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและได้ออกหมายจับเพิ่มอีกในคดีนี้ ในข้อหา “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น” ตามหมายจับศาลอาญาที่ 35/2566 ลงวันที่ 2 ก.พ.66 และได้เร่งสืบสวนติดตามตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว ซึ่งต่อมาวันที่ 3 ก.พ. 66 พล.ต.ต.ธีรเดช นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด PCT5 ได้นำกำลังเข้าจับกุม นายพงศกร ตามหมายจับ โดยจับกุมได้ที่บริเวณหน้าร้านกิมฮุง ร้านทอง ถ.สุขุมวิท ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ โดยขณะจับกุม นายพงศกร ออกอุบายตบตาเจ้าหน้าที่โดยแสร้งว่าตนเองมิใช่บุคคลตามหมายจับ และเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วยืนยันว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริงและจะทำการจับกุมตัว นายพงศกร ยังมีพฤติกรรมต่อสู้ขัดขืนการจับกุมของเจ้าหน้าที่ จึงได้ใช้กำลังตามสมควรในการจับกุม ซึ่งหลังการจับกุม พล.ต.ต.ธีรเดช นำกำลังเจ้าหน้าที่ขยายผลการจับกุม โดยเข้าตรวจค้น ห้องพักคอนโด สุขุมวิท 13 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ตามหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ 46/2566 ลงวันที่ 3 ก.พ. 66 พบของกลางหลายรายการ โดยตรวจพบหลักฐาน “สมุดบันทึก” ซึ่งมีการบันทึกลักษณะจิตใจ พฤติกรรม ของเหยื่อผู้เสียหาย และยังตรวจพบข้อมูลภาพถ่ายของผู้เสียหาย ที่นายพงศกรฯใช้แบล็คเมลล์ในโทรศัพท์มือถือกว่าหลายภาพ และยังพบอัลบั้มภาพลักษณะนี้กับผู้หญิงรายอื่นอีกไม่ต่ำกว่า 3 คน ซึ่งหลังเสร็จสิ้นการขยายผล ได้มีการนำตัว นายพงศกรฯ ส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.สอท.1 เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย ส่วนหมายจับที่เหลืออีก 2 หมาย ได้มีการประสานงานกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ และ สภ.แม่ปิง ทำเรื่องอายัดตัวต่อไป

ในชั้นจับกุม นายพงศกร ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “เราไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา เพราะจากพยานหลักฐานได้วิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมของผู้ต้องหา ประกอบกับภาพในโทรศัพท์ของผู้ต้องหานั้น เป็นภาพการวีดิโอคอลลักษณะที่ฝ่ายหญิงผู้เสียหายเป็นฝ่ายเปิดภาพกล้องฝ่ายเดียวในสภาพเปลือยกาย ส่วนฝ่ายคนร้ายนั้นไม่มีการเปิดกล้อง เป็นเช่นนี้จำนวนหลายภาพ รูปแบบและเทคนิคการฉ้อโกงที่น่ากลัว และพยานหลักฐานที่พบสมุดจดในห้องนั้นมีการวิเคราะห์จุดอ่อนของเหยื่อไว้ด้วย คนร้ายในคดีนี้จึงถือเป็นภัยต่อสังคมอย่างยิ่ง มีจิตวิทยาสูง อาศัยความเชื่อเหยื่อในการดูดวง ผมจะไม่ยอมให้คนเหล่านี้อยู่ร่วมในสังคมกับประชาชนทั่วไปได้ เพราะการกระทำเยี่ยงนี้สามารถทำลายชีวิตคนให้ตายทั้งเป็นได้เลย และขอเตือนภัยไปยังกลุ่มผู้ใช้แอปพลิเคชั่นหาคู่เหล่านี้ ล่าสุดเราพบข้อมูลในโทรศัพท์ของคนร้าย ยังคงมี User ออนไลน์ไว้ในระบบแอปหาคู่ชื่อดัง 2 แอปพลิเคชั่น โดยใช้ชื่อโปรไฟล์ว่า “Tom” โดยใช้ภาพโปรไฟล์เป็นหนุ่มหล่อ ให้ลองตรวจสอบโดยเร็วหากผู้ใดได้รับความเสียหายถูกหลอกลวงไปแล้วหรือกำลังจะหลงเชื่อ สามารถขอคำปรึกษาได้ทางเพจเฟสบุ๊ค สืบสวนนครบาล IDMB ได้ตลอด 24 ชม.”.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

จนท.รุดช่วยอดีตครูจำใจสร้างห้องขังลูกติดยา

หลายหน่วยงานลงพื้นที่ช่วยอดีตครูจำใจสร้างห้องลูกกรง เตรียมขังลูกชายตกเป็นทาสยาเสพติด-พนันออนไลน์ บำบัดนับสิบครั้งไม่หาย พร้อมทำความเข้าใจผิดกฎหมายหน่วงเหนี่ยวกักขัง ขณะที่ รมว.ยุติธรรม เตรียมพิจารณาออกมาตรการบำบัดซ้ำโดยคำสั่งศาล

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต