ท่าอากาศยานสุวรรณภุมิ 3 พ.ย. – “ศักดิ์สยาม” ลุยตรวจสุวรรณภูมิ แก้ปัญหาผู้โดยสารแออัด พาสปอร์ตรูปแบบใหม่ไม่ผ่านเซ็นเซอร์เครื่องตรวจอัตโนมัติ เร่งแก้ไขแล้ว ยืนยันความพร้อมอำนวยความสะดวกผู้ร่วมประชุมเอเปค เพิ่มช่องตรวจอนุญาต-เตรียมพร้อมหลุมจอด
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ติดตามการเตรียมความพร้อมในการให้บริการผู้โดยสารขาเข้าและขาออก และการเตรียมความพร้อมการอำนวยความสะดวกในช่วงที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิก (APEC 2022) ระหว่างวันที่ 14 – 19 พฤศจิกายน 2565 โดยได้ตรวจเยี่ยมการทำงาน จุดตรวจหนังสือเดินทาง ฝั่งตะวันออก, จุดตรวจศุลกากร และพื้นที่บริเวณโถงผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ และประชุมผ่านระบบออนไลน์ร่วมกับท่าอากาศยานดอนเมือง, ท่าอากาศยานเชียงใหม่, ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย, ท่าอากาศยานหาดใหญ่, และท่าอากาศยานภูเก็ต
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ติดตามการเตรียมความพร้อมในการให้บริการผู้โดยสารขาเข้าและขาออก และการเตรียมความพร้อมการอำนวยความสะดวกในช่วงที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิก (APEC 2022) ระหว่างวันที่ 14 – 19 พฤศจิกายน 2565 โดยได้ตรวจเยี่ยมการทำงาน จุดตรวจหนังสือเดินทาง ฝั่งตะวันออก, จุดตรวจศุลกากร และพื้นที่บริเวณโถงผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ และประชุมผ่านระบบออนไลน์ร่วมกับท่าอากาศยานดอนเมือง, ท่าอากาศยานเชียงใหม่, ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย, ท่าอากาศยานหาดใหญ่, และท่าอากาศยานภูเก็ต
ภายหลังการประชุม เสร็จสิ้น นายศักดิ์สยาม เปิดเผยว่าจุดตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีการประสานการทำงานกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอย่างใกล้ชิดเพื่อบริหารจัดการการให้บริการผู้โดยสารเป็นไปด้วยความรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยเน้นย้ำให้ ทอท. วิเคราะห์คาดการณ์ปริมาณความต้องการการเดินทางและเที่ยวบินที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลา พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อบริหารจัดการทรัพยากรต่าง ๆ ให้การบริการเกิดความสะดวกรวดเร็วแก่ผู้เดินทาง และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีจำนวนเที่ยวบินหนาแน่น เพื่อลดความแออัดของจำนวนผู้โดยสารในท่าอากาศยาน ได้รับรายงานว่าการให้บริการของท่าอากาศยานสุวรรภูมิในขณะนี้จะมีจำนวนเที่ยวบินหนาแน่น 3 ช่วงเวลา คือ เช้า บ่าย และเย็น จึงให้ดำเนินการประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อขออัตรากำลังบุคลกรตรวจหนังสือเดินทางเพิ่มเติม หลังพบว่ามีจำนวนไม่เพียงพอ โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อบริหารจัดการทรัพยากรต่าง ๆ ให้การบริการเกิดความสะดวกรวดเร็วแก่ผู้เดินทาง และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด สำหรับพื้นที่ผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีช่องตรวจอนุญาต ทั้งสิ้น 119 ช่องตรวจ มีเครื่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ จำนวน 32 เครื่อง แบ่งเป็น ขาเข้า จำนวน 16 เครื่อง ขาออก จำนวน 16 เครื่อง นอกจากนี้ ได้จัดทำเสากั้นทางเดินเพื่อจัดระเบียบพื้นที่ไม่ให้เกิดความแออัดของผู้โดยสารขณะรอรับบริการในขั้นตอนต่าง ๆ รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่มอนิเตอร์เพื่อบริหารจัดการให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจากการตรวจพบว่าดำเนินการได้รวดเร็วขึ้นสามารถรองรับจำนวนผู้โดยสารได้เพียงพอ
นอกจากนี้ หนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ต รูปแบบใหม่ เมื่อนำมาใช้กับเครื่องตรวจพาสปอร์ตอัตโนมัติ พบว่าเซนเซอร์ไม่อ่านข้อมูล จึงส่งเร่งปรับปรุงแล้ว เบื้องต้นทราบว่ามีการแก้ไขจนสามารถใช้งานได้แล้ว อย่างไรก็ตาม ยังต้องทดสอบการใช้งานเพื่ออำนวยความสะดวกกับผู้โดยสารมากที่สุด และอาจจัดช่องทางเฉพาะสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางรูปแบบใหม่หากเกิดปัญหาขึ้นอีก ซึ่งขณะนี้มีออกมาใช้ในระบบแล้วประมาณ 2 ล้านฉบับ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยังยืนยันความพร้อมการอำนวยความสะดวกในช่วงที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค โดยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้เพิ่มช่องตรวจอนุญาต 19 ช่องตรวจ เพื่อรองรับผู้ข้าร่วมประชุม ผู้นำเขตเศรษฐกิจ APEC 2022 โดยแบ่งเป็น โซนตะวันออก จำนวน 8 ช่องตรวจ โซนกลาง จำนวน 4 ช่องตรวจ และโซนตะวันตก จำนวน 7 ช่องตรวจ รวมทั้งมอบให้ ทอท. จัดทำคลิปสั้นเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่ใช้บริการท่าอากาศยานทราบในทุกช่องทาง ทั้งภายในและภายนอกประเทศ
ทั้งนี้ ได้เตรียมความพร้อมเรื่องหลุมจอดอากาศยานขนาดกลางและขนาดใหญ่ของคณะผู้นำเขตเศรษฐกิจ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้เตรียมความพร้อมหลุมจอดอากาศยาน เพื่อรองรับอากาศยานของคณะประมุขและผู้นำประเทศที่เดินทางเข้าร่วมประชุม APEC จำนวน 120 หลุมจอด สามารถให้อากาศยานของคณะฯ พักค้างคืนที่หลุมจอดฯ สำหรับเที่ยวบินพาณิชย์ จำนวน 4 ลำ และสามารถจอดพักค้างคืนบนพื้นที่จอดอากาศยานเฉพาะ จำนวน 16 ลำ (รวมทั้งหมด น 20 ลำ) ทั้งนี้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสามารถบริหารจัดการได้โดยไม่กระทบต่อการให้บริการเที่ยวบินพาณิชย์อื่น ๆ ในส่วนท่าอากาศยานดอนเมือง ได้เตรียมความพร้อมหลุมจอดอากาศยาน จำนวน 101 หลุมจอด โดยสามารถให้อากาศยานของคณะฯ พักค้างคืนที่หลุมจอดฯ จำนวน 17 หลุมจอด พร้อมกับมอบหมายให้ ทอท. ประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อพิจารณาขนาดอากาศยานและขนาดพื้นที่ในการรองรับให้เหมาะสม โดยเน้นย้ำต้องให้ความสำคัญกับทุกเขตเศรษฐกิจ และดูแลอย่างเต็มที่ทั้งขาเข้าประเทศและขาออกประเทศ รวมทั้งการให้บริการ Ground Handing แก่อากาศยานของผู้นำ การให้พนักงานบริการประจำห้องรับรองพิเศษ การยกเว้นค่าธรรมเนียมต่างๆ โดยมอบหมายให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ดำเนินการบริหารจัดการความคล่องตัวของการจราจรทางอากาศ (Air Traffic Flow Management) ในช่วงเวลาการให้บริการเที่ยวบิน VIP และพิธีการต้อนรับภาคพื้นดิน การบริหารจัดการจราจรทางอากาศ และห้วงอากาศบริเวณพื้นที่ประชุม รองรับมาตรการรักษาความปลอดภัยของหน่วยงานความมั่นคง ทั้งในกรณีปกติและฉุกเฉิน พร้อมจัดรถโดยสารสาธารณะเพื่อเชื่อมโยงการเดินทางจากท่าอากาศยานไปยังจุดหมายปลายทางของผู้โดยสาร โดยมอบ ทอท. ประสานรายละเอียดกับกระทรวงการต่างประเทศเพิ่มเติม โดยดำเนินการทุกขั้นตอนต้องเป็นไปตามหลักการและกฎระเบียบ
ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยให้เพิ่มความถี่และความเข้มงวดในการตรวจตราทั้งในพื้นที่เขตการบิน (Airside) และพื้นที่สาธารณะ (Landside) โดยปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ทหาร ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลการตอบรับเข้าร่วมในแต่ละเขตเศรษฐกิจมีข้อเสนอในการขอให้รักษาความปลอดภัยที่แตกต่างกัน กระทรวงคมนาคมจึงขอให้กระทรวงการต่างประเทศรวบรวมข้อมูลข้อเสนอการรักษาความปลอดภัยในแต่ละเขตเศรษฐกิจ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับรองต่อไป.-สำนักข่าวไทย