นิวเดลี 26 พ.ย. – ทางการหลายประเทศและนักลงทุนหลายรายพากันยกเลิกหรือระงับการลงทุนในอดานีกรุ๊ป (Adani Group) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจใหญ่ของอินเดียที่ผู้บริหารถูกทางการสหรัฐฟ้องร้องเรื่องติดสินบน
อดานีกรุ๊ปก่อตั้งขึ้นในปี 2531 โดยนายโกตัม อดานี วัย 62 ปี ที่ได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารฟอร์บส์ให้เป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 22 ของโลกด้วยทรัพย์สิน 69,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.43 ล้านล้านบาท) อัยการสหรัฐเผยเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนว่า ได้ฟ้องร้องนายอดานีและผู้บริหารหลายคนในข้อหาติดสินบนและฉ้อโกง
คำฟ้องระบุว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้ตกลงในช่วงปี 2563 ถึง 2567 ว่าจะจ่ายสินบนราว 265 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9,217 ล้านบาท) ให้แก่เจ้าหน้าที่รัฐบาลอินเดีย เพื่อให้อดานีกรีนเอนเนอร์จี ซึ่งเป็นบริษัทในเครือได้รับสัญญาจัดซื้อจัดจ้างเรื่องการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ ที่คาดว่าจะทำให้บริษัทได้กำไรมากถึง 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 69,565 ล้านบาท) เป็นระยะเวลา 20 ปี นอกจากนี้ยังระดมทุนมากกว่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 104,347 ล้านบาท) ผ่านการกู้เงินและออกหุ้นกู้ในช่วงเวลาดังกล่าวด้วยการให้ข้อมูลเท็จและบิดเบือนแก่ประชาชน
อดานีกรุ๊ปปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดว่าไร้มูล แต่เรื่องนี้ทำให้บริษัทในเครือที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 10 แห่งสูญเสียมูลค่าตลาดไปถึง 33,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.15 ล้านล้านบาท) และยังทำให้ทางการหลายประเทศและนักลงทุนหลายรายพากันยกเลิกหรือระงับการลงทุน
โททาลเอนเนอร์ยี่ส์ ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของฝรั่งเศสที่ถือหุ้นร้อยละ 20 ในอดานีกรีนเอนเนอร์จี ประกาศว่าจะไม่ลงทุนในอดานีกรุ๊ปอีกต่อไป ขณะที่บรรษัทเงินทุนเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐกำลังทบทวนผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับแผนการให้สินเชื่อ 550 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 19,130 ล้านบาท) แก่โครงการพัฒนาท่าเรือในศรีลังกาที่มีอดานีกรุ๊ปเป็นเจ้าของบางส่วน เช่นเดียวกับศรีลังกาที่จะทบทวนโครงการของอดานีกรุ๊ปทั้งหมด
ด้านเคนยาประกาศยกเลิกกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างมูลค่ามากกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 69,565 ล้านบาท) เพื่อพัฒนาท่าอากาศยานหลักของประเทศ ซึ่งคาดว่าอดานีกรุ๊ปจะได้สัญญานี้ และยกเลิกความเป็นหุ้นส่วนระยะเวลา 30 ปีระหว่างกระทรวงพลังงานเคนยากับอดานีเอนเนอร์จีโซลูชันส์ที่เพิ่งลงนามไปเมื่อเดือนตุลาคม.-814.-สำนักข่าวไทย