กรุงเทพฯ 31 ต.ค.- รวบหัวหน้า รปภ. รวมกับพวกรวม 5 คน ลักลอบตัดสายล่อฟ้าแฟลตกองบัญชาการกองทัพไทย 2 ครั้งซ้อน มูลค่ากว่า 200,000 บาท แถมนำรถประจำตำแหน่งมาใช้ก่อเหตุ ตรวจร่างกายพบสารเสพติดทั้ง 5 คน
เหตุการณ์ เมื่อ17 ต.ค. เจ้าหน้าที่ทหารประจำแฟลตกองบัญชาการกองทัพไทย ถนนนาวงประชาพัฒนา ตรวจสอบพบว่าสายล่อฟ้าที่ติดตั้งอยู่บนดาดฟ้า ของแฟลตจำนวน 4 ตึก มูลค่าประมาณ 200,000 บาท ถูกคนร้ายเป็นชาย 3 คน ตัดลักขโมยไป ซึ่งภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งบริเวณทางเข้าแฟลตสามารถจับภาพคนร้ายทั้ง 3 คน ได้ชัดเจน และได้แจ้งความไว้ที่ สน.ดอนเมือง
ฝ่ายสืบสวนของ สน.ดอนเมือง สืบสวนจนทราบว่าคนร้ายก่อเหตุจำนวน 2 ครั้ง ครั้งแรกในวันที่ 15 ตุลาคม และครั้งที่ 2 ในวันที่ 24 ตุลาคม ซึ่งคนร้ายใช้รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโคโรล่า สีแดง หมายเลขทะเบียนชลบุรี ขับจอดไว้บริเวณที่จอดรถของตึก และมีคนร้ายจำนวน 5 คน เดินขึ้นไปตัดเอาสายล่อฟ้าแล้วบรรจุใส่กระสอบ นำมาซุกซ่อนไว้ในรถยนต์แล้วขับหลบหนีไป
ต่อมาพบมาจอดไว้บริเวณริมกำแพงเชิงสะพานข้ามคลองเปรมประชากร ด้านหน้าชุมชนพรมสัมฤทธิ์ จึงนำกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ กระทั่งพบชายลักษณะตรงตามกล้องวงจรปิดเดินมาที่รถ จึงรุดเข้าตรวจสอบ พบชายคนดังกล่าวเดินไปบ้านหลังหนึ่งบนถนนเดชะตุงคะ แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม. ซึ่งมีรายงานว่าบ้านหลังดังกล่าวมักมีวัยรุ่นมามั่วสุมเสพยาอยู่บ่อยครั้ง จึงนำกำลังขอตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ซึ่งลักษณะตรงตามกล้องวงจรปิด ประกอบด้วย นายปรัชญา หรือต้น อายุ 37 ปี นายศักรินทร์ หรือเดี่ยว อายุ 37 ปี นายอานนท์ หรือบาส อายุ 43 ปี นายกนกพล หรือกอล์ฟ อายุ 36 ปี และนายอำนาจ หรือเต๋า อายุ 38 ปี พร้อมของกลางคีมตัดเหล็ก 1 อัน คีม 1 อัน กระเป๋าใส่เครื่องมือ 1 ใบ ชุดที่ใส่ก่อเหตุ รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโคโลล่า สีเลือดหมู หมายเลขทะเบียนชลบุรี ติดไฟฉุกเฉิน มีสติกเกอร์ชุดปฏิบัติการพิเศษ บริษัทรักษาความปลอดภัยแห่งหนึ่งติดอยู่รอบคัน
จากการสอบถาม เบื้องต้นรับว่าก่อเหตุตัดสายล่อฟ้าจริง ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สน.ดอนเมือง นายปรัชญา ให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันกับพวกก่อเหตุจริง โดยนายปรัชญา ทำงานเป็นหัวหน้าสายของบริษัทรักษาความปลอดภัย รถที่ใช้ก่อเหตุเป็นรถที่เจ้านายนำมาให้ใช้เป็นรถประจำตำแหน่ง ส่วนสายล่อฟ้าที่ได้มาก็ได้นำไปขายที่ร้านรับซื้อของเก่าย่านถนน รพช. ท้องที่ปทุมธานี ได้เงินมา 16,000 บาท ก่อนนำมาแบ่งกัน
เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะหรือรับของโจร และเสพยาเสพติด เนื่องจากพบสารเสพติดในร่างกายของผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ก่อนคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย