สตช. 25 ต.ค. – ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยปลัดอำเภอ และ อส.ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดจังหวัดสงขลา ติดต่อขอเข้ามอบตัวแล้ว ระบุพฤติกรรมเป็นไปตามคำให้การของผู้ถูกกล่าวหา และมีหลักฐานว่าเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ต้องหาคดียาเสพติดจริง
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ปลัดอำเภอ และอาสารักษาดินแดน (อส.) ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดจังหวัดสงขลา หรือชุดพิฆาตไพรี 6 นาย ติดต่อขอเข้ามอบตัวแล้ว หลังศาลจังหวัดสงขลาออกหมายจับ ในข้อหาหรือฐานความผิด ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันกระทำความผิด เรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต สืบเนื่องจากกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดพยายามบุกชิงตัวผู้ต้องหาจากชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดจังหวัดสงขลาทั้ง 6 นาย ในพื้นที่อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา ได้อาวุธปืนไป 5 กระบอก และยาบ้า 20,000 เม็ด ต่อมาเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ก่อเหตุได้ ก่อนให้การซัดทอดอ้างว่า ฝ่ายปลัด กับ อส. มีการเรียกเงิน 1 ล้านบาท แต่ต่อรองเหลือ 3 แสนบาท หรือยาบ้า 100 มัด หรือไอซ์ 10 กิโลกรัม เพื่อแลกตัวผู้ต้องหา
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่าพฤติกรรมของทั้ง 6 คน เป็นไปตามคำให้การของผู้ถูกกล่าวหา และมีหลักฐานว่า มีการเรียกรับผลประโยชน์ เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดีอาญากับนายธนกร ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ชุดนี้จับกุม โดยให้นายธนกร ติดต่อญาติให้นำเงินจำนวน 1 ล้านบาท หรือยาบ้า รวม 2 แสนเม็ด หรือยาไอซ์ 10 กิโลกรัม มาแลกตัว
สำหรับคดีนี้เจ้าหน้าที่มีหลักฐานสำคัญที่พบว่า ทั้งปลัดอำเภอ และ อส.ชุดนี้ เรียกรับผลประโยชน์แลกกับการปล่อยตัวผู้ต้องหา ทั้งข้อมูลที่มีการเจรจาต่อรองผ่านแอปพลิเคชันไลน์ของผู้ต้องหา และเบอร์โทรศัพท์ของปลัด ที่ใช้ติดต่อพูดคุยกัน ก่อนจะมีการนัดหมายแลกตัวผู้ต้องหากันในคืนเกิดเหตุ พนักงานสอบสวน จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ต่างสอดคล้องกันว่าเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมผู้ต้องคดีนี้ มีพฤติการณ์เรียกรับผลประโยชน์จากการปฏิบัติหน้าที่เพื่อแลกกับการปล่อยตัวผู้ต้องหาที่ถูกจับในคดียาเสพติด รวมทั้งนายธนกร กับผู้ต้องหาคนอื่น ๆ ที่ถูกจับไม่รู้จักกัน และถูกจับคนละเวลาไม่มีโอกาสพูดคุยเพื่อสร้างพยานหลักฐานให้ร้ายกับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมมีพฤติการณ์เรียกรับเงิน และปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ พนักงานสอบสวนจึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขออนุมัติออกหมายจับทั้ 6 คน ประกอบด้วย จ.อ.ไพรัช แก้วมณี ปลัดอำเภอ หัวหน้าชุด, นายหมู่เอก เฉลิมศักดิ์ ทองแจ้ง, นายหมู่ตรี พิษณุ รัตนอุไร, สมาชิกเอก สุทธิพงษ์ สุวรรณชาตรี, สมาชิกเลิศฤทธิ์ ไชยพฤกษ์กุล, และสมาชิก อดิศักดิ์ หวังนิ. -สำนักข่าวไทย