โรงแรมเซนทาราแกรนด์ เซนทรัลเวิล์ด 26 เม.ย.-นายกรัฐมนตรีเปิดประชุมสุดยอดสภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก 2560 หวังเป็นเวทีเปิดโอกาสให้ทุกภาคร่วมกันพัฒนาการท่องเที่ยวเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมสร้างความเชื่อมั่นไทยมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานพิธีเปิดการประชุมสุดยอดสภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก World travel and tourism council global summit 2017 โดยกล่าวว่า รู้สึกภูมิใจที่ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดสภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลกประจำปี 2560 ซึ่งเป็นงานสำคัญของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโลกที่สามารถเน้นย้ำศักยภาพของประเทศไทยในการจัดการประชุมระดับโลกและแสดงถึงความพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวของเอเซียและของโลกต่อไป
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้มีผู้แทนระดับสูงในภาคธุรกิจการเดินทางและการท่องเที่ยวและหน่วยงานการท่องเที่ยวทั่วโลกมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหัวข้อหลัก “Transforming Our World ” โดยหารือถึงอนาคตของธุรกิจท่องเที่ยวซึ่งเป็นหนึ่งในภาคธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของโลกมีการจ้างงานถึง 292 ล้านอัตรา และสร้างผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศถึงร้อยละ 10.2 ของจีดีพีทั้งโลกรวมกัน
“ทุกวันนี้โลกเปลี่ยนแปลงทุกด้าน จึงต้องพัฒนาเศรษฐกิจและความก้าวหน้าของสังคม รวมถึงการพัฒนา ยกระดับการเดินทางและการท่องเที่ยวทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพให้มากขึ้น ปัจจุบันเทคโนโลยี ดิจิทัล และโซเชียลมีเดีย เข้ามามีบทบาทในชีวิตมากขึ้น ผู้ประกอบการจึงต้องเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคและคนรุ่นใหม่ เพื่อให้เกิดมุมมองที่รวดเร็ว สนุกสนานและง่ายต่อการเข้าถึง” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องให้ความสำคัญกับภัยคุกคามจากการก่อการร้าย การก่ออาชญากรรมข้ามชาติ โดยต้องหามาตรการและการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อคัดกรองนักเดินทาง นักท่องเที่ยวที่เข้าประเทศอย่างเข้มงวดมากขึ้น เพราะฉะนั้นมีความจำเป็นที่ต้องจัดระบบความสมดุลให้ได้ ในเรื่องความปลอดภัยในการท่องเที่ยวที่ทุกคนสามารถรับได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวขยายตัวอย่างต่อเนื่องเพิ่มขึ้นทุกปี จากปี 2558 ที่เติบโตร้อยละ 16.7 สร้างรายได้ 1.45 ล้านล้านบาท และ ปี 2559 แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะไม่เอื้ออำนวยต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ไทยยังสามารถขยายตัวได้ถึงร้อยละ 11 สร้างรายได้ 2.52 ล้านล้านบาท ถือว่าเป็นสินค้าบริการที่สร้างรายได้สูงสุดของประเทศ
“สำหรับปี 2560 ภาคการท่องเที่ยวผลิตสินค้าและบริการมูลค่าถึง 4.6 ล้านล้านบาท การจ้างงานในประเทศเกือบ 14 ล้านตำแหน่ง ซึ่งส่งผลให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางการเดินทางท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของภูมิภาคและโลก รัฐบาลมุ่งเน้นสนับสนุนนโยบาย Thailand plus one เพื่อดึงดูดการลงทุนใหม่จากนักลงทุนต่างประเทศ ให้ใช้ประเทศไทยเป็นฐานสำคัญการเข้าสู่ตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่มีผู้บริโภคกว่า 620 ล้านคน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทยมีโครงข่ายด้านการคมนาคมทางบก ทางเรือ และทางอากาศ ที่ทันสมัย และกำลังจะพัฒนาต่อไปอีก ดังนั้นจะทำให้การเดินทางเชื่อมโยงไปยังภูมิภาคอื่นๆ กับเพื่อนบ้านเป็นไปอย่างสะดวก ทั้งด้านการค้า การขนส่งและโลจิสติกส์ คมนาคม การเคลื่อนย้ายแรงงาน และการท่องเที่ยว ซึ่งไทย และประเทศสมาชิกอาเซียนให้ความสำคัญกับการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการลดอุปสรรคการเดินทาง เพื่อยกระดับให้ภูมิภาคนี้เป็นจุดหมายปลายทางเดียวกัน (Single Tourist Destination) ของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
“ปี 2560 กำหนดให้เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวภูมิภาคอาเซียน ภายใต้ชื่อ “Visit ASEAN@50” เพื่อฉลองการก่อตั้งอาเซียนครบรอบ 50 ปี รวมทั้งเพื่อแสดงความแตกต่างอันเป็นหนึ่งเดียวได้อย่างลงตัวของกลุ่มประเทศอาเซียนในสายตาของนักท่องเที่ยวทั่วโลก คาดว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้กว่า 121 ล้านคน และทำรายได้ให้กับประเทศสมาชิกถึง 29 ล้านล้านบาท” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อาเซียนมุ่งเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างกันให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เช่น การพัฒนาเครือข่ายเส้นทางพัฒนาโครงการเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟสายคุนหมิง-สิงคโปร์ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2563 การพัฒนาทางหลวงอาเซียน โดยเน้นการเชื่อมต่อของไทยกับเมียนมาร์ กัมพูชา ลาว และเวียดนาม ซึ่งจะส่งผลให้ไทยสามารถยกฐานะขึ้นเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวของภูมิภาคอย่างเต็มตัว
“ผมเชื่อว่าทุกภาคส่วนที่ร่วมประชุมในครั้งนี้จะร่วมกันทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อเปลี่ยนโฉมหน้าโลกไปในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมและกระจายความมั่งคั่งในสังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชากรของโลก ในนามของรัฐบาลไทย ประชาชนผู้ประกอบการในภาคการท่องเที่ยวและบริการมีความยินดีที่ได้ต้อนรับทุกคน และขอให้ใช้โอกาสที่อยู่ในประเทศไทยทำความรู้จักกับประเทศไทยและคนไทยให้ดียิ่งขึ้น ทั้งในด้านวัฒนธรรม สถาปัตยกรรมที่เก่าแก่และงดงาม ด้านอาหาร รวมทั้งรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยมิตรภาพและความเอื้ออารีของคนไทย ซึ่งจะสร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือนทุกคน และหวังว่าจะมีโอกาสได้ต้อนรับอีกครั้งในโอกาสต่อไป” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ทุกคนเป็นสมาชิกของประชาคมโลก และวันนี้มีปัญหามากมาย แต่สิ่งสำคัญที่ทำให้ทุกคนมีความสุขคือการได้ไปท่องเที่ยว พบปะแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมกัน และหากทำให้การท่องเที่ยวเจริญเติบโต จะช่วยทำให้ลดปัญหาความขัดแย้งในโลกได้มาก วันนี้ต้องเตรียมคนรองรับการท่องเที่ยวมากขึ้น โดยต้องผลิตคนให้ตรงกับความต้องการ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไทยกำลังดำเนินการทั้งสิ้น
“สิ่งที่ต้องทำคือการสร้างความมั่นคงและความมีเสถียรภาพทางการเมือง รัฐบาลยืนยันว่าพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด โดยเฉพาะเรื่องการท่องเที่ยว สิ่งสำคัญคือทุกคนอยู่บนโลกใบเดียวกัน จึงขอเชิญชวนให้ทุกประเทศทำให้โลกใบนี้เป็นโลกที่มีความปลอดภัย ยกระดับรายได้ให้ประชาชนมีความสุข ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลทำ เพื่อประชาชน และทำให้อาเซียนเข้มแข็งไปด้วยกัน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย