รร.ดิเอมเมอรัล 26 เม.ย. – ทีดีอาร์ไอเผยผลสำรวจคนไทยตื่นตัวต่อการคอร์รัปชั่นมากขึ้น แต่สถานการณ์ทุจริตยังมีให้เห็น จี้รัฐบาลชี้แจงจัดซื้อเรือดำน้ำให้สังคมรับทราบ พร้อมแนะรัฐปฏิรูปกระบวนการทางงบประมาณตั้งองค์กรอิสระตรวจสอบทุกโครงการ
นายณัชพล ประดิษฐเพชรา นักวิจัย สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผยถึงดัชนีคอร์รัปชั่น จัดทำโดยสถาบันในประเทศไทยและสถาบันในต่างประเทศปี 2553-2559 พบว่า สถานการณ์ทุจริตคอร์รัปชั่นในสายตาคนไทยมองว่ามีรุนแรงน้อยลง ประชาชนมีความตื่นตัวต่อปัญหาคอร์รัปชั่นมากขึ้น มีความอดทนหรือเมินเฉยต่อการทุจริตน้อยลงเหลือเพียงระดับ 2.27 จาก 10 ระดับ ต่ำสุดตั้งแต่มีการสำรวจมา รวมทั้งร้อยละ 95 มองว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวและเกี่ยวข้องกับตนเองมากขึ้น และพร้อมมีส่วนร่วมในการต่อต้านทุจริต แต่ประชาชนยังไม่ค่อยเชื่อมั่นในกลไกต่อต้านคอร์รัปชั่นต่างๆ มากนัก ส่วนในสายตาของคนต่างประเทศ มองว่าสถานการณ์คอร์รัปชั่นในไทยยังไม่ดี ส่วนคะแนนคอร์รัปชั่นที่ปรับลด เพราะใช้วิธีการประเมินที่ปรับใหม่และหากไม่ดูเรื่องประชาธิปไตย ถือสถานการณ์คอร์รัปชั่นไม่ได้เลวลงหรือดีขึ้น
สำหรับสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการทุจริตและควรแก้ไข ยังพบว่ากฎหมายเปิดโอกาสให้สามารถใช้ดุลพินิจที่เอื้อต่อการทุจริต เจ้าหน้าที่ขาดคุณธรรมและไม่ปฏิบัติตามจรรยาบรรณ รวมทั้งกระบวนการทางการเมืองขาดความโปร่งใสและตรวจสอบยาก และรัฐบาลจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นที่เกี่ยวกับการถ่วงดุลตรวจสอบภาครัฐ
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลควรทบทวนและแก้ไขกฎหมายที่ให้รัฐมนตรีหรืออธิบดีใช้อำนาจแห่งดุลพินิจโดยไม่มีหลักเกณฑ์ รวมทั้งปรับระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่องมาตรฐานคุณธรรมและจริยธรรมของข้าราชการการเมืองให้มีบทลงโทษชัดเจน ปรับปรุงการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณจากการตรวจสอบการปฏิบัติกฎระเบียบเป็นการตรวจสอบความคุ้มค่าของโครงการ และเพิ่มความโปร่งใสการทำงานของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้สถานการณ์คอรร์รัปชั่นในประเทศไทยดีขึ้น
นางเดือนเด่น นิคมบริรักษ์ ผู้อำนวยการวิจัยด้านการบริหารจัดการระบบเศรษฐกิจ ทีดีอาร์ไอ กล่าวถึงโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำจากจีน 3 ลำ รวมมูลค่า 36,000 ล้านบาท ว่า รัฐบาลจะต้องเปิดเผยข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างให้สังคมทราบ แม้ว่าจะอ้างเหตุผลเพื่อความมั่นคงก็ตาม แต่ประชาชน สื่อมวลชน สามารถตั้งคำถามตรวจสอบโครงการดังกล่าวได้ หากปกปิดข้อมูลถือว่าโครงการดังกล่าวไม่โปร่งใส ซึ่งในทางการเมืองเมื่อเทียบกับต่างประเทศการจัดสรรงบประมาณซื้อยุทโธปกรณ์เป็นเรื่องลับและมีกระบวนการตรวจสอบในรัฐสภา ขณะที่การเมืองไทยไม่มีการตรวจสอบการใช้งบประมาณ ทำให้เห็นว่าภาครัฐยังไม่รัดกุมกับการใช้งบประมาณ จึงจำเป็นต้องปฏิรูปกระบวนการทางงบประมาณให้เกิดการจัดลำดับความสำคัญและความจำเป็นของโครงการ ซึ่งทีดีอาร์ไอเคยเสนอให้รัฐสภาตั้งหน่วยงานองค์กรสร้างความเข้มแข็งวิเคราะห์โครงการที่จะเสนอเข้ามาในรัฐสภา หรือ thai ppo เพื่อตรวจสอบความจำเป็นและความคุ้มค่าของโครงการต่าง ๆ เหมือนเช่นในสหรัฐอเมริกา.-สำนักข่าวไทย