“พ.ต.อ.​วิรุตม์” ชี้ปัญหาตำรวจขโมยปืนหลวงมีมานานแล้ว

กรุงเทพฯ 21 ต.ค.- เลขาธิการสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ชี้ปัญหาตำรวจขโมยปืนหลวงมีมานานมากแล้ว มีเกือบทุกสถานี ส่วนใหญ่จะขโมยไปจำนำ พอมีเงินก็ไปไถ่ถอนกลับมา ขณะที่ปัจจุบันตำรวจไม่นิยมใช้ปืนหลวง เพราะมีปืนส่วนตัวแล้ว เป็นช่องทางก่อเหตุขโมยปืน


เมื่อเวลา 15.00 น. พ.ต.อ.​วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร เลขาธิการสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม กล่าวถึงปัญหาดาบตำรวจขโมยปืนหลวงขายว่า ปัญหาตำรวจขโมยปืนหลวงมีมานานมากแล้ว และเป็นแบบนี้เกือบทุกสถานี เพียงแต่มากน้อยต่างกัน ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการขโมยไปจำนำเท่านั้น พอมีเงินก็ไปไถ่ถอนกลับมา เมื่อถามว่าเหตุใดคนถึงกล้ารับจำนำทั้งที่เป็นปืนหลวง นั่นเพราะเป็นปืนหลวงจึงมั่นใจได้ว่าจะต้องมีการไถ่ถอน ซึ่งได้เงินกลับคืนแน่นอน แต่การจะนำไปขายเป็นเรื่องยาก ไม่ค่อยมีคนกล้าซื้อ เพราะกลัวปัญหา​ตามมา

เช่นเดียวกับกรณีดาบตำรวจ สภ.ปากเกร็ด แต่ในกรณีนี้อาวุธปืน ซึ่งเป็นของหลวงถูกนำออกไปเป็นจำนวนมากและเกือบทั้งหมดเป็นการนำไปจำนำ มีเพียง​บางส่วนที่นำไปขายเพราะได้ราคาสูงและคนซื้อ มีความกล้าที่จะรับซื้อ ส่วนดาบตำรวจนายนี้อาจคิดว่าไม่มีใครสนใจจะเบิกไปใช้ เพราะทุกนายมีปืนส่วนตัวแล้ว


สำหรับจำนวนอาวุธปืนที่อยู่ในห้องเก็บอาวุธของแต่ละสถานีมีมากเท่าไร ทำไม่ถึงหายไปเป็นร้อย แต่หัวหน้าสถานีกลับไม่รู้เรื่องนั้น อดีตตำรวจ​นายนี้ระบุว่า ปกติแล้วปืนหลวงต้องมีประมาณ 60% ของจำนวนข้าราชการตำรวจทั้งสถานี เพื่อให้ข้าราชการตำรวจที่มีหน้าที่ดูแลด้านการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมเบื้องต้นเบิกไปใช้ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ เช่น ตำรวจฝ่ายสืบสวน/ตำรวจฝ่ายป้องกันและปราบปราม หรือสายตรวจ​ เป็นต้น แต่ตำรวจธุรการหรือแม้แต่พนักงานสอบสวน ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ปืนในระหว่างปฏิบัติหน้าที่

แต่ในปัจจุบันข้าราชการตำรวจไม่นิยมเบิกปืนหลวงมาใช้ เพราะมองว่าปืนหลวงไม่สวย ไม่เท่ ไม่ทันสมัย ที่สำคัญหากสูญหายจะต้องถูกตรวจสอบ และหลังออกเวรต้องคืนปืนทันที เมื่อมีโครงการจัดอาวุธปืนสวัสดิการของรัฐ ซึ่งมีราคาถูกและยกเว้นภาษี ตำรวจทั้งประเทศ​ ทั้งที่เกี่ยวข้องกับงานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม หรือแม้แต่ตำรวจธุรการ ต่างซื้อปืนไว้ในครอบครอง เป็นสมบัติส่วนตัว บ้างซื้อไว้ขายต่อในอนาคตเพื่อเก็งกำไร บางนายอาจมีมากกว่า 5 กระบอก ด้วยซ้ำ

และด้วยเหตุผลข้างต้นที่ว่าตำรวจไม่นิยมเบิกปืนหลวงใช้งาน จึงเป็นช่องทางให้ตำรวจซึ่งทำหน้าที่เบิกจ่าย หรือเฝ้าห้องเก็บอาวุธ นำอาวุธปืนออกไปแปรสภาพเป็นเงินนำมาใช้จ่าย เมื่อหลายปีก่อนก็เคยเกิดเหตุในลักษณะนี้มาแล้วในพื้นที่ จ.ลำพูน ตำรวจซึ่งเป็นผู้ดูแลห้องเก็บอาวุธนำปืนออกไปจำนำเกือบ 10 กระบอก.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

เรือใบอิตาลีที่สวยงามที่สุดในโลกเดินทางถึงภูเก็ตแล้ว

ภูเก็ตคึกคัก เรือใบอิตาลีที่ขึ้นชื่อว่างดงามที่สุดลำหนึ่งของโลก ออกเดินทางมาแล้วรอบโลก ได้เข้าจอดเทียบท่าจังหวัดภูเก็ต โดยมีทัพเรือภาคที่ 3 ให้การต้อนรับทหารเรืออิตาลีกว่า 150 นาย อย่างอบอุ่นพร้อมเปิดให้ประชาชนขึ้นชมเรือฟรีได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (6 พ.ย.)

พระเปย์สีกา ช่องโหว่ผลประโยชน์ในดงขมิ้น

รองเจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในมหาสารคาม ขอลาสิกขากลางดึก หลังถูกแฉ เป็นพระปลัดใจป๋า เปย์สีกาไม่อั้น ขณะที่รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สั่งตรวจสอบว่า เป็นเงินส่วนตัว หรือ เงินวัด เพราะจะมีความผิดแตกต่างกัน

“สันธนะ” เปิดใจหลังเคลียร์ใจ “ชูวิทย์” กลับไทยขึ้นศาล

“สันธนะ” เผย นอนคิดมา 1 คืนเริ่มใจอ่อนรับคำขอโทษ “ชูวิทย์” รับรู้ถึงความจริงใจ แต่คดีอาญาถอนฟ้องไม่ได้ ต้องปล่อยไปตามกฎหมาย