กทม.บูรณาทุกภาคส่วนเดินหน้าแก้ปัญหา PM2.5

กรุงเทพฯ 21 ต.ค.- กทม.บูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วน เดินหน้าแก้ไขปัญหา PM2.5 ใช้ Traffy Fondue เป็นตัวช่วยให้ประชาชนแจ้งต้นตอมลพิษ เข้ม 3 ด้าน แก้ฝุ่นพิษ


นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 4/2565 โดยมีคณะกรรมการจากหน่วยงานต่างๆ ร่วมประชุม

ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวภายหลังการประชุมว่า วันนี้เป็นการประชุมคณะกรรมการซึ่งมีหลายหน่วยงานเกี่ยวข้อง โดย กทม. มีแผนการดำเนินการที่ร่วมกับหน่วยงานอื่นที่ค่อนข้างละเอียดอยู่แล้ว และต้องดำเนินการอย่างเข้มข้น ขณะนี้ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศ กทม.เสร็จเรียบร้อยและเปิดดำเนินการแล้ว ตั้งอยู่ที่กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม อาคารสำนักการโยธา ชั้น 2 ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง ซึ่งเป็นศูนย์ที่รวบรวมข้อมูลต่างๆ


ทั้งนี้ สิ่งที่ทำในเบื้องต้น คือ การออกตรวจจุดที่มีปัญหาในการก่อให้เกิดฝุ่น PM2.5 ซึ่งในที่ประชุมได้พูดคุยหารือและสรุปว่า เราอาจจะคิดว่า PM2.5 เป็นเรื่องของรถที่ปล่อยควันดำอย่างเดียว แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ เพราะยังมีเรื่องของการเผาชีวมวล ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับการเกษตรด้วย จริงๆ แล้วไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในกรุงเทพฯ แต่เกิดขึ้นในพื้นที่โดยรอบกรุงเทพฯ ด้วย เช่น การปลูกอ้อย พืชไร่ต่างๆ ที่มีการเผาชีวมวล อาจจะรวมถึงต่างประเทศอย่างประเทศกัมพูชา

ดังนั้น เรื่องที่จะดำเนินการ มี 3 ด้าน คือ 1.รถขนส่ง รถควันดำต่าง ๆ ที่มีปัญหา ได้ดำเนินการเชิงรุก และกำหนดแผนการตรวจทุกวันตลอดช่วง 2 เดือน โดยความร่วมมือทั้งกรมการขนส่งทางบก กรมควบคุมมลพิษ ตำรวจ โรงงาน และพยายามไปตรวจที่จุดกำเนิด เช่น แพลนท์ปูน ไซต์งานก่อสร้าง โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ กำหนดให้มีรายงานการตรวจทุกวัน และแจ้งผลว่าจำนวนที่ไม่ผ่านมีเท่าไรบ้าง ซึ่งที่ผ่านมามีการตรวจอย่างต่อเนื่อง

2.โรงงานอุตสาหกรรม ทางกรมโรงงานอุตสาหกรรมแจ้งว่า ในกรุงเทพฯ มีประมาณ 6,000 โรงงาน โดยมีอยู่ 260 โรงงาน ซึ่งเป็นโรงงานที่มีความเสี่ยงในการเกิด PM2.5 และจะต้องเฝ้าระวังอย่างละเอียด โดยจะแบ่งแต่ละเขต และให้ ผอ.เขต รับทราบโรงงานที่มีความเสี่ยงเหล่านี้ และเข้าร่วมตรวจกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งสัปดาห์หน้าจะร่วมลงตรวจกับอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม สุ่มตรวจในโรงงานเหล่านี้เพื่อให้เกิดความมั่นใจ


และ 3.การเผาชีวมวล ปีที่แล้วในพื้นที่กรุงเทพฯ มีการเผาอยู่ 9 จุด และได้ลงไปคุยในเบื้องต้นแล้วว่าจะให้เกษตรกรมีแนวทางลดการเผาอย่างไร ซึ่งเกษตรบอกว่าทำได้ แต่อาจจะให้ กทม.ช่วยเหลือ เช่น เรื่องน้ำมันในการเก็บตอซังข้าว หรืออาจจะต้องการเครื่องมือมัดฟาง เครื่องมือหรือน้ำยาในการย่อยสลาย เพื่อเปลี่ยนชีวมวลให้กลายเป็นปุ๋ยได้ ซึ่งพื้นที่ปลูกในกรุงเทพฯ ไม่ได้มีเยอะ ปัญหาจะอยู่นอกพื้นที่ โดย กทม.จะมีการเฝ้าระวังและดูจุดความร้อนจากการเผาไหม้ต่างๆ (hotspot) ถ้ามีปัญหาการเผาจะดำเนินการแจ้งกรมควบคุมมลพิษ และดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มข้น รวมถึงหากมีการเผานอกประเทศ กรมควบคุมมลพิษจะเป็นหน่วยงานที่แจ้งองค์กรความร่วมมือของอาเซียน เพื่อประสานความร่วมมือระหว่างต่างประเทศต่อไป

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวต่อไปว่า มีหลายหน่วยงานที่มีข้อเสนอมา โดยทางสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งมีเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจคือ จริงๆ แล้ว รถอีกประเภทหนึ่งที่ปล่อยควันพิษได้ คือ รถบรรทุกที่แบกน้ำหนักเกิน ทำให้เวลาวิ่งต้องใช้พลังเยอะ แต่เวลาตรวจน้ำหนักอาจจะตรวจแบบรถเปล่า ไม่มีปัญหา แต่ไปวิ่งจริงแบกน้ำหนัก รถบรรทุกเกินพิกัดมาก (Overload) ทำให้เกิดโอกาสปล่อยมลพิษออกมา ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องไปพิจารณากฎหมายว่าเราสามารถควบคุมเรื่องน้ำหนักบรรทุกเกินได้แค่ไหน หรือจะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างไร

รวมถึงการดูจุดต้นทาง ไม่ว่าจะเป็นท่าเรือ แพลนท์ปูน ขสมก. เป็นต้น ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค.แล้ว โดยจะลงลึกในรายละเอียดในแง่ของการป้องกัน ซึ่งทุกอย่างดำเนินการตามแผน และจะแจ้งให้ประชาชนทราบถึงความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีระบบการพยากรณ์ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ โดยให้กรมควบคุมมลพิษเป็นแม่งานหลัก ในการแจ้งพยากรณ์ล่วงหน้า ซึ่งปัจจุบันสามารถแจ้งพยากรณ์ล่วงหน้าได้ประมาณ 7 วัน แต่ความแม่นยำอาจจะใกล้เข้ามาถึง 3 วัน ว่าฝุ่นจะเป็นอย่างไร ทาง กทม.จะใช้ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษและนำมาสื่อสารให้ประชาชนทราบเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมต่อไป

ในส่วนของโรงเรียนมีมาตรการแจ้งเตือนสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 จัดให้มีกิจกรรมธงคุณภาพอากาศโรงเรียนสังกัด กทม. โดยให้เด็กนักเรียนฝึกอ่านค่าคุณภาพอากาศในแต่ละพื้นที่ โดยแบ่งธงออกเป็น 5 สี ตามค่าฝุ่นละออง PM2.5 (หน่วย มคก./ลบ.ม.) ที่เทียบกับดัชนีคุณภาพอากาศของประเทศไทย ได้แก่ 1. สีฟ้า มีค่าฝุ่นละออง PM2.5 ระหว่าง 0-25 ปฏิบัติกิจกรรมกลางแจ้งได้ปกติ 2.สีเขียว มีค่าฝุ่นละออง PM2.5 ระหว่าง 26-37 ปฏิบัติกิจกรรมกลางแจ้งได้ตามปกติ 3.สีเหลือง มีค่าฝุ่นละออง PM2.5 ระหว่าง 38-50 ผู้ป่วยควรงดกิจกรรมกลางแจ้ง

4.สีส้ม มีค่าฝุ่นละออง PM2.5 ระหว่าง 51-90 ลดกิจกรรมกลางแจ้งสวมหน้ากากอนามัย และ 5.สีแดง มีค่าฝุ่นละออง PM2.5 ตั้งแต่ 91 ขึ้นไป ควรงดกิจกรรมกลางแจ้งใช้อุปกรณ์ป้องกันและอยู่ในห้องที่ปลอดภัย โดยให้นักเรียนชักธงคุณภาพอากาศเป็นสัญลักษณ์เพื่อเตรียมตัวและป้องกันภัย ซึ่งทำให้เกิดความตระหนักรู้ขึ้น (Awareness) และกระจายไปยังชุมชนด้วย สำหรับมาตรการอื่นๆ อาจจะพยายามลดการใช้รถยนต์ และให้ใช้ระบบขนส่งสาธารณะให้มากขึ้น และอาจทำพื้นที่ปลอดภัยในโรงเรียน ซึ่งอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

มือฆ่า 3 ศพ ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่น

มือฆ่า 3 ศพ เปิดปากครั้งแรก ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป รู้ว่าไม่สมควร ยืนยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่นเพราะแม่เด็กยื้อแย่งปืน

จับแล้วหนุ่มใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่เสียชีวิต

ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รวบตัว “นายก๊อง” ได้แล้ว หลังก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่จนเสียชีวิต เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน