กรุงเทพฯ 23 เม.ย.-“อภิสิทธิ์” ชี้แนวคิดให้เก็บค่าบำรุงสมาชิกพรรคการเมืองคนละ 100 บาทต่อปี เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจกับประชาชนในการกำหนดค่าบำรุงที่สูงขึ้นโดยที่สิทธิไม่ได้เพิ่มขึ้น เชื่อจะมีปัญหาฉ้อฉลเกิดขึ้น แนะหากจะปรับเปลี่ยน ควรให้เวลาพรรคการเมืองทำงาน ขณะเดียวกันเรียกร้อง คสช.ผ่อนปรนให้จัดประชุมพรรคได้ เพื่อเตรียมตัวสำหรับการปฏิรูปพรรค
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) บัญญัติให้เก็บค่าบำรุงสมาชิกพรรคการเมืองคนละ 100 บาทต่อปี ว่า พรรคประชาธิปัตย์เคยพยายามทำเรื่องนี้ โดยเก็บค่าสมาชิกพรรคคนละ 20 บาท แต่ต้องยอมรับว่าประชาชนไม่คุ้นเคยกับแนวคิดการชำระเงินเพื่อเป็นสมาชิก และการกำหนดค่าบำรุงที่สูงขึ้นโดยที่สิทธิไม่ได้เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งพรรคการเมืองไม่มีเวลาที่จะไปทำความเข้าใจกับสมาชิกซึ่งมีจำนวนมากว่าจากเดิมที่เคยเป็นสมาชิกพรรคโดยไม่ต้องชำระค่าบำรุง แล้วถ้าไม่ชำระเงินจะขาดสมาชิกภาพ ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่จะต้องอธิบาย ซึ่งยากในการทำงาน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ส่วนตัวสนับสนุนแนวคิดที่ให้ประชาชนและสมาชิกพรรคการเมืองมีส่วนร่วมทางการเมือง ซึ่งก่อนหน้านี้เก็บเงินเพียง 20 บาท ยังใช้เวลามากในการทำความเข้าใจ ดังนั้นจึงอยากขอว่าหากจะปรับเปลี่ยนอะไร ควรต้องมีเวลาให้พรรคการเมืองได้ทำงาน และต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างอื่นให้ประชาชนมั่นใจว่าการเข้ามาเป็นสมาชิกจะได้สิทธิมากขึ้น
“แต่ขณะนี้การเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคการเมืองจะต้องเสียสิทธิในหลายด้าน เพราะในกฎหมายหลายฉบับระบุว่าใครเคยเป็นสมาชิกพรรคการเมืองไม่สามารถทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ได้ จึงเป็นเรื่องยากในการอธิบายว่าจะเสียเงินค่าบำรุงพรรคเพื่อเป็นสมาชิกพรรคทำไม เรามีการส่งเสริมเปลี่ยนแปลงวัฒธรรมในสังคมหรือยังที่จะมาทำตรงนี้ ดังนั้นหากทำสิ่งเหล่านี้ควบคู่ไปด้วย พวกผมก็ไม่ขัดข้อง แต่ถ้าจะมาพยายามให้มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เก็บเงินในอัตราที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ไม่มีรูปธรรมที่ชัดเจนว่าประโยชน์ที่ได้รับคืออะไร นอกจากจะไม่ประสบความสำเร็จแล้ว จะมีปัญหาการฉ้อฉลเกิดขึ้น และจะมีการเอาเงินไปจ่ายแทนประชาชน และจะตรวจสอบยากมาก และขณะเดียวกันเมื่อเขียนว่าการจ่ายเงินแทนกันเป็นความผิด มีโทษรุนแรง ก็จะสุ่มเสี่ยงว่าจะมีการกลั่นแกล้งกัน เช่น ส่งคนมาล่อซื้อแล้วเกิดปัญหาว่าตกลงใครเป็นผู้ชำระเงิน ดังนั้นจึงอยากให้เอาหลักการสำคัญมากำหนดไว้ในกฎหมายแล้วรายละเอียดให้ออกเป็นระเบียบของหน่วยงานนั้น จะดีกว่า” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ ยังเรียกร้องว่า อยากให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ผ่อนปรนในบางเรื่อง เพื่อสามารถประชุมพรรคและจัดองคาพยพของพรรคการเมืองได้ โดยผ่อนปรนในส่วนที่เกี่ยวกับการปฏิบัติเพื่อนำไปสู่มาตรฐานตามกฎหมายก่อน ซึ่งเชื่อว่าขณะนี้ไม่มีพรรคการเมืองไหนที่เรียกร้องอยากจะหาเสียงในขณะนี้ แต่ต้องสามารถประชุมเพื่อบริหารจัดการภายในและเตรียมตัวสำหรับการปฏิรูปพรรค ซึ่งเป็นเรี่องจำเป็น
ส่วนกรณีที่ กรธ.ยกเลิกการมี กกต.จังหวัดและให้มีผู้ตรวจการเลือกตั้งแทน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เห็นด้วยกับการไม่ใช้ กกต.จังหวัดแบบที่เคยใช้ เพราะไม่เห็นด้วยกับการที่มีคณะกรรมการที่จะให้คุณให้โทษเกี่ยวกับการดูคดีเลือกตั้ง ซึ่งอยู่ในพื้นที่และเกิดปัญหาว่าผู้เล่นกับกรรมการมีความสัมพันธ์กัน ดังนั้นระบบที่มีความยืดหยุ่นหมุนเวียนนำคนที่มาจากนอกพื้นที่มาช่วยทำงาน ถือเป็นหลักคิดที่ใช้ได้ แต่ควรให้ กกต.ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติ เป็นผู้คิดหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ในการทำงานมากกว่าที่ กรธ.จะไปกำหนดบังคับไว้ในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ เพราะจะเป็นการกำหนดกฎเกณฑ์ที่รัดตัวเกินไป ซึ่งยากต่อการปฏิบัติ.-สำนักข่าวไทย