ปิดฉากความสำเร็จมวยไทย มาสเตอร์ คลาส ที่อังกฤษ ต่างชาติร่วมงานกว่า 400 คน 

4 พ.ค.68-ผ่านพ้นไปอีกหนึ่งประเทศสำหรับโครงการมวยไทย มาสเตอร์ คลาส 2025 (Master Class  Muay Thai Soft Power)  ซึ่งจัดโดยคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ล่าสุดยกทีมไปจัดโครงการที่ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ซึ่งจัดเป็นครั้งที่ 3 ต่อจากเขตปกครองพิเศษฮ่องกง และประเทศบราซิล 


ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย เป็นประธานพิธีเปิดการจัดกิจกรรม Muaythai Master Class ที่เมืองโวคกิง ประเทศอังกฤษ โดยมี นายณัฐวัฒน์ กฤษณามระ เอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน, หลุยส์ โมราเลส นายกเทศมนตรีเมืองโวคกิง, นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา, นางโปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย , นายปรีชา ลาลุน รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา, นายธีรเดช  ถิรพร ที่ปรึกษาสำนักงบประมาณ, นภาพร ผิวอ่อน  ผู้อำนวยการกองจัดทำงบประมาณด้านสังคม 4 และ นายณัฐพล อันตรเสน ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย เข้าร่วมงาน

กิจกรรมครั้งนี้มีนักมวยไทยชื่อดัง 3 คนคือ แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม, นำศักดิ์น้อย ยุทธการกำธร และ นาบิล อานาน มาเปิดคลาสมวยไทยให้ชาวอังกฤษ ที่ลงทะเบียนกันเข้ามาเรียน โดยสอนทั้งพื้นฐานการชกมวยไทยที่ถูกต้อง, การออกอาวุธ และเทคนิคต่างส่วนตัวต่างๆของแต่ละคน บรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนานตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ และได้รับความสนใจจากชาวเมืองผู้ดีมาร่วมคลาสมวยไทยครั้งนี้ทุกเพศทุกวัยเป็นจำนวนมากกว่า 400 คน 


นอกจากนี้ยังมีการมอบป้าย Standard Muaythai Gyms 2025 ให้กับค่ายมวยในอังกฤษ ที่ผ่านมาตรฐานของสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย จำนวน 10 แห่ง และมีการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์การอำนวยความสะดวก และให้คำแนะนำเพื่อดำเนินการขอวีซ่าเรียนมวยไทย แบบ  Non-Immigrant Visa รหัส ED 90 Day และวีซ่า Muaythai DTV (Destination Thailand Visa) 180 วัน โดยกิจกรรมครั้งนี้จะเป็นช่องทางในการสร้างแรงบันดาลใจให้ชาวอังกฤษลงทะเบียนเดินทางมาเรียนมวยไทยในค่ายมวยมาตรฐานของประเทศไทย เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ สู่การเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจ และเชื่อมต่อกับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศต่อไป

ผศ.พิมล ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา กล่าวว่า โครงการมวยไทย มาสเตอร์ คลาส 2025 ที่อังกฤษ ถือเป็นครั้งที่ 2 เพราะเราเคยมาเมื่อปีที่แล้ว แต่ครั้งนี้ท่านทูตบอกเป็นการฉลองครบรอบความสัมพันธ์ 170 ปี ไทยกับอังกฤษด้วย เราจึงกลับมาอีกครั้ง ซึ่งตอนที่รับสมัคร เราต้องการแค่ 300 คน แต่คนสมัครจริง 400 กว่าคน มีทั้งชาวอังกฤษ และยุโรป ทั้งเยอรมนี, ฝรั่งเศส และวันจริงมากันถึง 400 กว่าคน และนักมวยที่มาสอนก็เป็นระดับตำนานทั้งสิ้น

“สิ่งที่เราได้จากงานนี้คือ การกระจายซอฟต์เพาเวอร์ให้ชาวต่างชาติได้สัมผัสวัฒนธรรมไทย, ศิลปะไทย และมวยไทย ก่อนหน้านี้ได้คุยกับคนที่มาเข้าร่วมหลายคนทั้งเด็กชาย-หญิง พบว่าเดี๋ยวนี้ เด็กหลายคนห้อยพระเครื่องไทย เช่นพระสมเด็จฯ ก็เลยถามว่านับถือพุทธหรือ ซึ่งเด็กบอกว่าไม่ใช่ เขาแค่ชอบความเป็นไทย, ชอบมวยไทย และศาสนาพุทธ หลายคนบอกว่าจะไปเมืองไทยต่อ เพราะได้สัมผัส ได้แรงบันดาลใจ จึงอยากไปเรียนมวยไทย ซึ่งเมื่อไปถึงก็จะกิน, ช้อป, สารพัด และคนที่ไปเรียนมวย ไม่ได้ไปแค่ 3 วัน 5 วัน แต่ไปอยู่เป็นเดือน และมาทั้งครอบครัว แถมยังไปเล่าต่อให้เพื่อนฟังอีก นี่จึงถือเป็นซอฟต์เพาเวอร์ของมวยไทยอย่างแท้จริง”


นายณัฐวัฒน์ กฤษณามระ เอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน กล่าวว่า มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมกิจกรรมนี้ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ดีมากในปีที่เราเฉลิมฉลองครบรอบ 170 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทยกับสหราชอาณาจักร นับตั้งแต่เริ่มความสัมพันธ์ทางการทูตกันเมื่อปี ค.ศ. 1855 ความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศก็เป็นไปด้วยดี ทำให้มีชาวอังกฤษไปไทยเกือบ 1 ล้านคนต่อปี และมีชุมชนไทยในอังกฤษก็หลายหมื่นคน มวยไทยก็เป็นส่วนหนึ่งของการแลกเปลี่ยน มีคนอังกฤษจำนวนมากที่ไปดูมวยไทยที่ราชดำเนินหรือลุมพินี และกลับมาก็สนใจเรียนรู้เพิ่มเติม การจัดมาสเตอร์ คลาส เช่นนี้ จึงเป็นเรื่องที่ดี 

ด้านนายฤทธิจักร แก้วสัมฤทธิ์ อดีตยอดนักมวยไทย ที่ปัจจุบันผันตัวมาเป็นครูมวย และได้เดินทางมาสอนมวยที่อังกฤษหลายปี ตอนนี้สอนประจำอยู่ที่ค่าย Keddles Gym  เปิดเผยว่า สอนที่ค่ายนี้มา 5 ปี แต่ย้ายมาอยู่อังกฤษ 12 ปี คนมาเรียนเยอะ แต่ตนเองเป็นคนไทยคนเดียวที่สอนที่นี่ จึงอยากให้ กกท. สนับสนุนเรื่องการให้วีซ่า ทั้งคนที่นี่ไปเรียนที่ไทย และช่วยเรื่องเวิร์คเพอร์มิตของครูมวยคนไทยที่จะมาสอนที่นี่ เพราะที่อังกฤษคนชอบมวยไทยมาก เด็ก 5-6 ขวบ เรียนมวยไทยกันเยอะ แต่ที่นี่ต้องการครูมวยไทย ซึ่งตอนนี้หายากมาก มีแค่ 10-12 คนในอังกฤษ เขาอยากเรียนรู้โดยตรงกับคนไทย ถ้า กกท.สามารถรับรองได้ จะเป็นเรื่องดีมาก มีครูมวยไทยในอังกฤษมากขึ้น

ขณะเดียวกันนางโปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย พร้อมด้วยนายปรีชา ลาลุน รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา และนายณัฐพล อันตรเสน ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย ได้เดินทางไปเยี่ยมชมค่ายมวยในกรุงลอนดอน ที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานจำนวน 4 ค่าย คือ Sakchai Camp, Jttmuaythai Gymbrixton, Keddles Gym และ Lumpinicrewley พร้อมทั้งได้มอบป้าย Standard Muaythai Gym หรือ SMG เพื่อเป็นการรับรองการผ่านมาตรฐานยิมมวยไทย

“รองตั๋ว” เปิดเผยว่า ปีนี้ กกท. มีเป้าหมายจะทำเพิ่มจากปีที่แล้ว ที่ได้งบประมาณซอฟต์เพาเวอร์มาปลายปี แต่ปีนี้ได้ใช้เต็มปี ต้องการไปดูการเติบโตในทั่วโลก และอยากรู้ว่าจริงๆแล้วค่ายมวยที่ได้มาตรฐานทั่วโลกมีมากแค่ไหน และต้องเติมการช่วยเหลืออย่างไรบ้าง เราในฐานะคนไทยที่เป็นเจ้าของมวยไทย เราต้องมาต่อยอดทั้งใน และต่างประเทศ ซึ่งต่างประเทศถือว่าสำคัญ เพราะเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจ ที่เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ไทยด้วย เพราะเขาเรียนมวยในเมืองเขา ทุกคนมีเป้าหมายอยากไปที่เมืองต้นกำเนิดก็คือเมืองไทย และเวลาไปเมืองไทย เขาไม่ได้ไปคนเดียว ไปทั้งครอบครัวหรือไปทั้งคณะเพื่อนๆทั้งค่าย เป็นการต่อยอดทางเศรษฐกิจให้ประเทศไทยด้วย ในแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน เช่น ฮ่องกง คนเล่นกีฬาเพื่อออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่ดี จะเห็นได้ว่าที่ฮ่องกงจะมาทั้งครอบครัว เป็นเด็ก เป็นผู้หญิง ผู้ชาย แต่ที่บราซิลกับอังกฤษ เป็นการต่อยมวยอย่างจริงจังเพื่อเป็นนักมวย ไปแข่งในสนามยิมหรือสนามมาตรฐานในเมืองไทย ซึ่งก็ดี เพราะมวยแบ่งเป็น 3 ด้าน คือ 1. การแข่งขัน เช่นราชดำเนิน, ลุมพินี, วัน แชมเปี้ยนชิพ 2. การป้องกันตัว และ 3. ที่ตอนนี้มาแรง และคนเล่นเยอะสุดคือการออกกำลังกาย ต่อยมวยเพื่อสุขภาพ ทำให้ได้เล่นกีฬา และสุขภาพดีขึ้น

“สิ่งที่ค่ายต้องการคือวีซ่า ซึ่ง กกท. ทำแล้ว ตอนนี้สำนักงานมวยทำเรื่องขอวีซ่าเพื่อเข้ามาเรียนมวย 180 วัน และต่อได้อีก 1 ปี เพราะมวยต้องเรียน 25 ชั่วโมง ถึงจะครบคอร์สและได้ใบรับรอง ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ดังนั้นใครจะไป ก็ต้องไปอย่างน้อย 1 เดือน อย่างที่ 2 คือต้องการองค์ความรู้เรื่องมวยที่ถูกต้องซึ่งตอนนี้สำนักงานมวยกำลังทำให้เป็นมาตรฐานมวยไทยเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งต้องได้รับความร่วมมือจากทุกหน่วยงานในเมืองไทย เรียกว่า เนชั่นแนล มวยไทย คือจะเป็นสแตนดาร์ดเดียวกัน ทั้งผู้ฝึกสอน, นักกีฬา, ผู้ตัดสิน, ค่ายมวย, ผู้จัด ทุกอย่างเกี่ยวกับมวยให้มีมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งไทย และต่างประเทศต้องนำไปใช้ บางประเทศเช่น ฮ่องกง พื้นที่เล็ก ดังนั้นอาจไม่เต็มรูปแบบ แต่ก็ครบมาตรฐาน แต่บางประเทศอย่าง อังกฤษ จะเห็นว่าเหมือนค่ายที่ไทยเลย ดังนั้น เมื่อไปมา 2-3 ประเทศก็ค่อนข้างพอใจ” รองผู้ว่าการ กกท.กล่าวทิ้งท้าย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบแล้วบ้าน “พระอลงกต” ที่ขอนแก่น ชาวบ้านเผยเป็นคนใจดี

ขอนแก่น 25 ส.ค. – พบแล้วบ้านของ “พระอลงกต” ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง ชาวบ้านเผย “พระอลงกต” เป็นคนใจดี กลับมาแจกเงินทุกปี พอเห็นข่าวรู้สึกตกใจและสงสาร เพราะเที่เคยสัมผัสเป็นคนใจดี ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเพื่อตามหาบ้านของพระอลงกต รู้ว่าเป็นคน จ.ขอนแก่น ตั้งแต่กำเนิด สืบค้นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน พบระบุว่าบ้านเกิดของหลวงพ่ออลงกต อยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง และไปพบบ้านของพ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ซึ่งทุกคนไม่ได้เรียกว่าพระอลงกต แต่จะคุ้นเคยเรียกกันว่าพระจอร์จ และนิสัยของพระพระอลงกตมีแต่เรื่องราวดีๆ มอบให้กับสังคม พระอลงกตจะแวะเวียนมาบอกบุญเสมอปีละครั้ง ในช่วงวันเกิดที่โรงเรียนแก่นนคร ที่พระอลงกตเคยศึกษา อย่างช่วงที่พ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ยังมีชีวิต พ่อเฉยจะทำว่าวให้เด็กๆ ละแวกนี้เล่น เป็นที่รักของคนในชุมชนเช่นกัน พี่สาวของพระอลงกต ขายข้าวแกงอยู่ตรงข้ามบ้านพักข้าราชการ ซึ่งบ้านของครอบครัวพระอลงกต จะอยู่ติดกับรั้วของสำนักงานทางหลวง แต่พอครอบครัวพระอลงกตเกษียณก็พากันย้ายออกไปอยู่ที่อื่น บ้านพักปัจจุบันนี้ไม่มีใครอยู่ และบ้านส่วนตัวก็ไม่มีใครอยู่อาศัยเช่นกัน พระอลงกตออกจากบ้านไปช่วงปี 2527 แต่พระอลงกตจะกลับมาที่บ้านส่วนตัวทุกปี หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อมาทำบุญวันเกิดโรงเรียนแก่นนคร มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ เสมอ […]

ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์”

กทม. 24 ส.ค.-ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่า ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยโวยวายและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ คาดน่าจะเกิดจากมึนเมา กรณีนักแสดงสาว “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่าวัด ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยได้ลงจากรถมาโวยวายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงเวลาประมาณ 02.00-04.00 น. ได้ขอตรวจรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ สีเขียว ปรากฏว่ามี น.ส.มารี เบรินเนอร์ นักแสดงสาว เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอัศม์กรณ์ โดยสารมาด้วย ซึ่งนั่งข้างหน้า และมีผู้หญิงมาด้วยอีก 2 คน เมื่อขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นายอัศม์กรณ์ กลับโวยวาย ขัดขวางไม่ให้ตรวจ และมีการด่าทอด้วยคำที่หยาบคาย แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ในที่สุดตำรวจได้คุมตัวทั้งหมดมายัง สน.วังทองหลาง พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ กับนางสาวมารี เนื่องจากนางสาวมารี ไม่ยินยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากนั้นนางสาวมารี ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 20,000 บาท […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]

“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดี เป็นคลิปตกแต่งเสียง

ทำเนียบ 24 ส.ค.-“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดีศาล รธน. ที่ “ชวน” ได้ยินเป็นคลิปตกแต่งเสียง ฟังกี่รอบก็ชัดว่า “นั่งลงครับ” เตือนประชาชนบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย อย่าโพสต์ ไม่ชัวร์ อย่าแชร์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ กล่าวถึง กรณีมีการบิดเบือนคำพูดในวันสืบพยานของนายกรัฐมนตรี โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวคำสาบานตนแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งได้กล่าวคำว่า “นั่งลงครับ” แต่กลับมีกระบวนการนำไปบิดเบือนและตกแต่งเสียง โดยกล่าวหาว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า “นั่งลงลูก“ ซึ่งเป็นการบิดเบือน ขณะเดียวกัน ยังพบว่าอดีตประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ได้สัมภาษณ์ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวหลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า นายชวน หลีกภัย อาจจะยังไม่ได้ฟังคลิปเต็มๆ จริงๆ ในวันดังกล่าว หรือไม่ก็อาจจะได้ฟังจากคลิปที่ถูกบิดเบือนและตกแต่ง ซึ่งความเป็นจริงการบันทึกเสียงทั้งหมดหรือการกล่าวบนบัลลังก์ คนที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาก็ได้ยินตรงกันว่า “นั่งลงครับ” ทั้งสิ้น นายจิรายุ กล่าว ตนในฐานะเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ ติดตามการทำงานกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ไม่มีเหตุผลใดๆ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะใช้คำพูดในลักษณะเช่นนี้ […]

ข่าวแนะนำ

แจงยิบข้อดี MOU43 กรอบแนวทางสำรวจปักปันเขตแดน

กต. 25 ส.ค.- อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ แจงละเอียดยิบข้อดี MOU43 ใช้เป็นกรอบแนวทางการสำรวจปักปันเขตแดน เพื่อทำแผนที่ใหม่ร่วมกันตามหลักสากล เตือนยกเลิกหนีแผนที่ 1 : 200,000 ไม่พ้น และจะวนมาทำ MOU กันใหม่ นายเบญจมินทร์ สุกาญจนัจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับนายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ อธิบายถึงที่มาของบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา หรือ MOU 43 ว่าเป็นเอกสารพื้นฐานของกรอบการเจรจา ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชา ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกปี 2543 หรือ MOU2543 หรือ MOU43 อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ มั่นใจว่า ประเทศไทยได้เปรียบจาก MOU43 เนื่องจาก MOU43 เป็นการกำหนดกรอบความตกลง และกลไกการปักปันเขตแดน เพื่อร่วมกันสำรวจ-จัดทำหลักเขตแดน เพื่อให้ได้แผนที่ที่นำมาใช้ได้จริง โดยใช้หนังสือสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1904 และ 1907 เป็นเอกสารประกอบ เนื่องจาก หนังสือสัญญาดังกล่าวได้พูดถึงคณะกรรมการปักปันเขตแดน เพื่อให้ไปทำแผนที่ตามหลักสันปันน้ำ แม่น้ำ และแนวเส้นตรง […]

“ภูมิธรรม” รับหนักใจ “กัมพูชา” ตกลงกันแล้วไปพูดอีกอย่าง

ทำเนียบ 25 ส.ค.- “ภูมิธรรม” บอก ประชุม RBC กองทัพภาค 2 เป็นเรื่องเขตแดน ยอมรับหนักใจ “กัมพูชา” ตกลงกันแล้วไปพูดอีกอย่าง ย้ำไม่ยอมให้ใครรุกล้ำอธิปไตย มองเรื่องเขตแดน ไม่เคยจบง่ายบางประเทศใช้เวลาเป็น 100 ปี อย่าไปกังวลใจ ถ้ายังยืนหยัดผลประโยชน์ชาติ พร้อมยกนาฬิกาข้อมือ ก่อนแซวตัวเอง “วันนี้วันที่เท่าไหร่ ดูเวลาทุกวัน จะพ้นตำแหน่งแล้ว” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค RBC ไทย-กัมพูชาในส่วนของกองทัพภาคที่2ในวันที่ (27 ส.ค.) จะมีการเสนอเงื่อนไขเหมือนกับการประชุม RBC ของกองทัพภาคที่ 1 หรือแตกต่างกันหรือไม่ว่า ก็ไม่มี เป็นการต่อเนื่อง จากการประชุม RBC ครั้งที่แล้ว แต่อาจจะแตกต่างกันบ้างของแต่ละสภาพพื้นที่และสภาพปัญหา และพื้นฐานจะเป็นการประชุมต่อเนื่องจากครั้งก่อน เป็นเรื่องระดับแม่ทัพไปคุยกัน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเส้นแดน ทำอย่างไรที่จะทำให้ได้ข้อสรุปที่ตรงกันมากที่สุด ส่วนแนวโน้มน่าจะมีสัญญาณที่ดีใช่หรือไม่ เพราะการประชุมครั้งก่อนฝ่ายกัมพูชารับเงื่อนไข แต่การประชุมที่กองทัพภาคที่2 มีเรื่องรั้วลวดหนาม ที่แตกต่างกับกองทัพภาคที่ 1 […]

ชื่นชมผ้าไทยลายกริพเพน

25 ส.ค. – ผ้าไทยลาย “กริพเพน” ออกแบบโดยได้แรงบันดาลใจจากเครื่องบินขับไล่กริพเพน ของกองทัพอากาศไทย ที่ไม่เพียงสะท้อนถึงความงดงามทางวัฒนธรรม แต่ยังประกาศถึงความกล้าหาญและหัวใจนักสู้ของชนชาติไทย เพจกรุงเก่าของชาวสยาม และคุณ Kamon Wan เผยแพร่ภาพผ้าไทยลายเครื่องบินรบกริพเพน โดยกองทัพอากาศ รายงานว่าแนวคิดนี้เกิดขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากเครื่องบินกริพเพน ที่มาร่วมพิทักษ์แผ่นดินไทย ชายแดนไทย-กัมพูชา และถูกถ่ายทอดลงบนผ้าไหมสุรินทร์อันเลื่องชื่อ ผสาน “ความแข็งแกร่ง” ของนักรบกับ “ความงาม” แห่งภูมิปัญญาไทยได้อย่างทรงพลัง ภายใต้คอนเซ็ปต์ “แม่ย่านางกริพเพน” ศิลป์และศรัทธาได้รวมเป็นหนึ่ง ที่ไม่เพียงสะท้อนถึงความงดงามทางวัฒนธรรม แต่ยังประกาศถึงความกล้าหาญและหัวใจนักสู้ของชนชาติไทย นี่คือผลงานที่ย้ำเตือนว่าไทยมิได้มีเพียงกำลังปกป้องผืนแผ่นดิน แต่ยังรักษารากเหง้าวัฒนธรรมอันงดงามไว้คู่กัน เพื่อบอกชัดแก่โลกว่าเราคือประเทศไทยผู้สืบสานวัฒนธรรม ที่จะไม่มีวันให้ใครมาย่ำยี ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรุงสตอกโฮล์ม สวีเดน ว่าผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารสวีเดนประจำประเทศไทย และเจ้าหน้าที่ของ SAAB สวีเดน ได้เห็นแล้วปลื้มใจมากที่คนไทยมีความรู้สึกที่ดีกับเครื่องบินกริพเพน และนับเป็นแนวคิดที่สร้างสรรค์ กองทัพอากาศมีกำหนดที่จะลงนามในสัญญาจัดซื้อเครื่องบิน Gripen C/D กับ FMV และ SAAB สวีเดน ในวันนี้ (25 สิงหาคม) นำโดย พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล […]

“คาจิกิ” ขึ้นฝั่งเวียดนามบ่ายนี้ ไทยเตรียมรับฝนหนัก​ 25-27​ ส.ค.

กรุงเทพฯ​ 25 ส.ค.​ – กรมอุตุฯ อัปเดตเส้นทางพายุไต้ฝุ่น “คาจิกิ” คาดขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน ช่วงบ่ายถึงค่ำ วันนี้​ เตือนทั่วไทยฝนฟ้าคะนองเพิ่ม ขณะที่ภาคอีสาน​ตอน​บน​และ​ภาคเหนือ​ เตรียมรับมือฝนถล่ม ช่วง 25​ -​ 27​ ส.ค.​นี้ นายสมควร ต้นจาน ผู้​อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ศูนย์กลางพายุไต้ฝุ่น​คาจิกิอยู่ห่างจากเมืองวิญ ประเทศเวียดนาม ประมาณ 150 กม. เคลื่อนตัวทางตะวันตกค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย คาดว่า​ขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบนช่วง​บ่าย​ถึง​ค่ำ​วันนี้​ และเข้าสู่ สปป ลาว ตามลำดับ เมื่อ​ขึ้นฝั่ง​พายุ​จะ​เริ่ม​อ่อนกำลัง​ลง​ โดยเมื่อเข้า​สู่ประเทศ​ไท​ยจะเป็น​หย่อมความ​กด​อากาศ​ต่ำ​ แต่ไม่รุนแรง​เท่าพายุ​วิภา ทั้งนี้​ ช่วงวันที่ 25–27 ส.ค. 68 ประเทศ​ไท​ยจะมีฝนตก​เพิ่ม​ เริ่มจาก​ขอบของ​พายุ​ ประกอบกับกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดเข้าหาศูนย์กลางของพายุ ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตก​หนัก​ถึง​หนัก​มาก​ โดยเฉพาะ​ภาค​ตะวันออก​เฉียง​เหนือ​ตอน​บน​และ​ภาคเหนือ กรม​อุตุนิยม​วิทยา​ขอให้​ประชาชนติดตามประกาศแจ้ง​เตือน​ลักษณะ​อากาศ​อย่างใกล้ชิด.​ 512​ – สำนักข่าว​ไทย​