กรุงเทพฯ 5 ต.ค. – “ผศ.ดร.ทวิดา” รองผู้ว่าฯ กทม. แถลง กทม.พร้อมรับมือน้ำเหนือ-น้ำหนุน เฝ้าระวัง ช่วงวันที่ 7-8 ตุลาคม คาดอยู่ภายใต้คันที่ควบคุมรับไหว เผย กทม.ห่วงฝนตกหนักในพื้นที่มากกว่า
ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. และนายเจษฎา จันทรประภา รอง ผอ.สำนักการระบายน้ำ กทม. แถลงสถานการณ์น้ำท่วม การช่วยเหลือ รับมือกับน้ำเหนือและน้ำหนุนในพื้นที่ โดยรองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวชี้แจงกับที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อเรื่อง WFH เมื่อวานนี้ น่าจะตอบไม่ชัดเจนและสั้นเกินไปทำให้มีความคลาดเคลื่อน ย้ำ กทม.ไม่ได้มีอำนาจสั่งให้ WFH ได้ แต่เมื่อวานเป็นการตอบคำถามสื่อที่ถามถึงมาตรการที่รับมือหากมีฝนตกหนักสะสม กระทบกับถนนสายต่าง ๆ เพราะกว่าจะสามารถระบายได้หมดก็ต้องใช้เวลา เป็นการยกตัวอย่าง ขอความร่วมมือเอกชนที่สามารถทำได้เท่านั้น หากเจอวิกฤตเหมือนเมื่อช่วงวันจันทร์ที่ผ่านมาอีก
ด้าน นายเจษฎา ระบุการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาวันนี้ที่ 2,697 ลบ.ม. ใกล้เคียงกับเมื่อวานนี้ ที่จุดสถานีบางไทร ที่ระดับ 3,100 ลบ.ม./วินาที โดย กทม.ประสานกับกรมชลประทานต่อเนื่อง โดยกรมชลฯ จะช่วยผลักดันน้ำไปทางฝั่งตะวันตกเพิ่มขึ้น เพราะขณะนี้ฝั่งเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เต็มแล้ว หากระบายมาเพิ่มจะกระทบกับ กทม. ฝั่งตะวันออก
ส่วนการรับมือกับน้ำหนุนวันนี้ หนุนสูงสุด ที่เวลา 18.03 น. ระดับฐานน้ำ +1.10 ระดับน้ำที่ปากคลองวันนี้ยังอยู่ภายในคันควบคุม โดยในวันที่ 8 ตุลาคม คาดน้ำหนุนสูงสุด ฐานน้ำขึ้นสูงสุด +1.23 เมตร
กทม.มีแนวเขื่อนกั้นน้ำเจ้าพระยาที่ +2.80 เมตร สูงสุด 3.50 เมตร ได้วางแนวกระสอบทรายตลอดแนวเจ้าพระยา ทั้งความสูงและความแข็งแกร่ง 76 จุดให้สูงอีก 50-80 เซนติเมตร และตรวจสอบความแข็งแรงของจุดฟันหลอครบทั้ง 24 จุด กทม.เตรียมกระสอบทรายไว้ 2.5 ล้านกระสอบ แต่ที่กังวลคือหากน้ำที่ไหลผ่านบางไทร มาถึง 3,300-3,500 ลบ.ม./วินาที ประกอบกับวันที่น้ำหนุนสูง แรงดันน้ำที่อาจจะทำให้เกิดการรั่วซึมล้นออกมา สำนักการระบายน้ำ จึงเตรียมหน่วยเข้าทำหน้าที่ ออกไปชาร์จหน้างาน แก้ไขเร่งด่วน
นอกจากนี้ยังเปิดเผยว่าตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันนี้ กทม.มีปริมาณฝนสะสม 1,979 มม. สูงกว่าตลอดปีที่ผ่านมาทั้งปี โดยในเดือนตุลาคม เป็นอีกเดือนที่ฝนจะตกหนัก คาดการณ์อาจจะมีฝนตกสะสมรวมทั้งเดือน แตะถึงระดับกว่า 300 มม.ขึ้นไป จะส่งผลกระทบต่อการเดินทางและต่อการใช้ชีวิตของประชาชนจึงต้องพร้อมรับมือ ในเดือนนี้คาดการณ์ฝนจะตกในเขตด้านล่าง กทม. ที่เขตบางนา บางขุนเทียน ลาดกะบัง ประเวศ มีความเป็นไปได้ ว่าปริมาณฝนอาจจะถึงระดับ 100 มิลลิเมตร ซึ่งการคาดการณ์ก็อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ อาจจะตกกระจายไปทั่ว กทม. จึงต้องเร่งลดระดับน้ำในคลองสายหลัก เพื่อช่วยแก้ปัญหาระบายน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ซอยย่อยต่าง ๆ และทำแผนบังคับน้ำจากคลองสายหลัก เบี่ยงทางน้ำจากลาดพร้าว ให้ระบายไปทางคลองบางซื่อ คลองสามเสน ช่วยทางระบายน้ำให้สั้นลงได้ และช่วยเร่งระบายน้ำผ่านคลองบางเขน ด้วยอีกทางโดย ติดเครื่องสูบน้ำเพิ่มให้น้ำออกเจ้าพระยาไวขึ้น.-สำนักข่าวไทย