ปทุมธานี 4 ต.ค.- รมว. เกษตรฯ สั่งกรมปศุสัตว์ช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ที่ประสบภัยน้ำท่วมทั่วประเทศ ตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านปศุสัตว์ พร้อมระดมเจ้าหน้าที่ เร่งสำรวจเกษตรกรและปศุสัตว์ที่ได้รับผลกระทบตายและสูญหาย ปล่อยคาราวานหญ้าอาหารสัตว์พระราชทานและหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่เข้าช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนรถหญ้าอาหารสัตว์พระราชทาน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยทั่วประเทศซึ่งจัดขึ้นที่ศูนย์ราชการกรมปศุสัตว์ ถนนติวานนท์ตำบลบางกะดี อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี โดยระบุว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์วางแผนและเตรียมความพร้อมช่วยเหลือแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ที่มีอยู่กว่า 3 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศไว้ล่วงหน้าทำให้สามารถลดทอนความเสียหายและบรรเทาความเดือดร้อนได้อย่างมากเช่น การเคลื่อนย้ายสัตว์ในพื้นที่เสี่ยงไปไว้ในที่ปลอดภัย สนับสนุนเสบียงสัตว์ ดูแลรักษาสุขภาพสัตว์ป่วยอย่างทันท่วงที
วันนี้ได้นำส่ง “หญ้าอาหารสัตว์พระราชทาน” ไปช่วยเหลือเกษตรกร โดยกรมปศุสัตว์ได้รับพระบรมราชานุญาตให้ดำเนินงาน “หญ้าอาหารสัตว์พระราชทาน” ตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้น
ขณะนี้กรมปศุสัตว์ได้มีการเตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ที่ประสบภัยพิบัติได้แก่ด้านการบริหาร โดยการจัดตั้ง “ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านปศุสัตว์ (ศปภ.ปศ.)” ซึ่งมีอธิบดีกรมปศุสัตว์เป็นผู้อำนวยการศูนย์ ส่วนด้านเสบียงสัตว์สำรอง เพื่อความมั่นคงด้านอาหารสัตว์ โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ 32 แห่งทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 5,366 ตัน พร้อมทั้งจัดถุงยังชีพสำหรับสัตว์ 3,000 ถุง สำรองยานพาหนะ 118 คัน จัดหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ 161 ทีม จุดอพยพสัตว์ 1,919 จุด และเวชภัณฑ์ดูแลสุขภาพสัตว์ประจำ 9 เขต
สำหรับสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ได้รับรายงานจากกรมปศุสัตว์ว่า ได้ลงพื้นที่เร่งสำรวจจังหวัดที่ได้รับผลกระทบด้านปศุสัตว์ พบว่า มี 10 จังหวัด ที่ ซึ่งกรมปศุสัตว์ได้ให้การช่วยเหลือเฉพาะหน้าไปแล้ว 7 จังหวัด คือ ศรีสะเกษยโสธร นครราชสีมา สิงห์บุรี ร้อยเอ็ด สุรินทร์ และอุบลราชธานี และยังเหลืออีก 3 จังหวัดที่จะดำเนินการให้ความช่วยเหลือต่อไป ได้แก่ พิษณุโลก เชียงใหม่ และร้อยเอ็ด โดย 7 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ แบ่งเป็น เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์จำนวน 17,632 ราย สัตว์เลี้ยงจำนวน 549,668 ตัว ได้แก่ โค 42,721 ตัว กระบือ 12,161 ตัว สุกร 7,038 ตัว แพะ/แกะ1,467 ตัว และสัตว์ปีก 486,281 ตัว และแปลงหญ้าที่ได้รับความเสียหายอีกจำนวน 574 ไร่
จากการสรุปผลการช่วยเหลือในวันที่ 30 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา กรมปศุสัตว์ได้ให้การช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ไปแล้ว 8,855 ราย และอพยพสัตว์ที่ได้รับผลกระทบ เป็นจำนวน 15,695 ตัว แบ่งเป็น โค 11,088 ตัว กระบือ2,974 ตัว สุกร 30 ตัว แพะ/แกะ 27 ตัว และสัตว์ปีก 1,576 ตัว อีกทั้งกรมปศุสัตว์ยังได้สนับสนุนเสบียงสัตว์ไปแล้ว126,200 กิโลกรัม รักษาสัตว์ป่วยอีกจำนวน 23 ตัว และมอบถุงยังชีพสัตว์ให้แก่เกษตรกรอีกจำนวน 250 ถุง และหลังจากเหตุการณ์อุทกภัยได้คลี่คลายและกลับคืนสู่สภาพปกติแล้ว กรมปศุสัตว์จะเร่งดำเนินการสำรวจความเสียหายเพื่อทราบถึงจำนวนสัตว์ตายหรือสูญหายของเกษตรกรแต่ละราย และดำเนินการชดเชยเยียวยาตามระเบียบของทางราชการอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยสามารถติดต่อขอรับการสนับสนุนเสบียงสัตว์รวมไปถึงความช่วยเหลือด้านการปศุสัตว์ ได้ที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ หรือศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ในพื้นที่ ผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น-ท้องที่ หรือติดต่อศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านปศุสัตว์ (ศปภ.ปศ.) กรมปศุสัตว์ กองส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ โทร. 0-2653-4444 ต่อ 3315 และที่ Application DLD 4.0 เพื่อจะได้ให้เจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีต่อไป.-สำนักข่าวไทย