สุโขทัย 8 พ.ย.- ลอยกระทงสุโขทัยปีนี้งดเผาเทียนเล่นไฟ พร้อมปรับกิจกรรมมาเป็นเปิดไฟไลท์อัพตามโบราณสถานให้นักท่องเที่ยวชมและร่วมสืบสานประเพณี ขณะที่ชาวบ้านน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณทำกระทงพอเพียง
บรรยากาศใกล้เทศกาลลอยกระทงในวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้ แม้จังหวัดสุโขทัยจะได้ประกาศงดจัดงานประเพณีลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟ แต่ยังคงสืบสานประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงามและถวายเป็นพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยเปลี่ยนเป็นการเปิดไฟไลท์อัพตามโบราณสถาน และให้นักท่องเที่ยวเข้าชมฟรีถึงเที่ยงคืน ในช่วงวันที่ 10-14 พฤศจิกายน
ขณะเดียวกันชาวบ้านทำตะคันหรือถ้วยเทียนที่ใช้จุดบูชาพระรัตนตรัยในสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงโบราณสถานในเขตอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ทำกระทงแบบพอเพียง เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาให้ชาวไทยได้น้อมนำมาปฏิบัติ เช่นนายชัยรัตน์ และนางพรหมพร ภุมราเศวต สองสามีภรรยาชาว ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัย เห็นว่าลูกมะพร้าวแห้งที่หล่นใต้ต้นเมื่อร่วงลงคลอง ลูกมะพร้าวสามารถลอยน้ำได้ จึงนำมาผ่าครึ่งตามทางยาว บางลูกมีรูปทรงแหลม พอผ่าออกมาคล้ายเรือ เมื่อนำเนื้อมะพร้าวแห้งออก ล้างให้สะอาด ใส่ไส้เทียน และเทียนที่เคี่ยวหลอมละลาย หล่อลงไป จุดไฟลอยน้ำก็กลายเป็นกระทงได้เช่นกัน ที่สำคัญต้นทุนไม่แพง จึงสามารถขายได้ในราคาใบละ 10 – 25 บาท เท่ากับลูกมะพร้าวหนึ่งลูก ทำเงินได้ถึง 50 บาท และตั้งชื่อว่า กระทงพอเพียง
นายชัยรัตน์ และนางพรหมพร กล่าวว่า ไส้เทียนนั้นใช้ด้ายดิบมาหมุนดามด้วยลวดเส้นเล็ก ทำทรงแยกเป็นสามขาเหมือนตีนกา ตามคติความเชื่อที่ว่าการใช้ด้ายดิบฟั่นทำคล้ายกับตีนกา เพื่อใช้เป็นไส้เทียนจุดบูชาในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 จะเป็นการแผ่กุศลไปให้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว.-สำนักข่าวไทย