ภูมิภาค 28 ก.ย. – พายุโซนร้อน “โนรู” จาก สปป ลาว เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยเร็วขึ้นเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี และ จ.อำนาจเจริญ โดนเต็มๆ ฝนตกหนัก และได้รับผลกระทบอีก 38 จังหวัด ส่วน จ.มหาสารคาม พนังดินแม่น้ำชีขาด น้ำทะลักท่วมพื้นที่เกษตรกว่า 2,000 ไร่
ภาพดาวเทียมจาก GISTDA จะเห็นการเคลื่อนตัวของพายุโนรูจาก บริเวณแขวงสาละวัน ประเทศลาว มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 20 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกของ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี โดยมีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง บริเวณ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ในช่วงเย็นที่ผ่านมา จากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังค่อนข้างแรง ส่งผลให้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่งกับมีลมแรง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้
ว่าที่ร้อยตรีธนะสิทธิ์ เอี่ยมอนันชัย รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “โนรู” เคลื่อนที่เข้าไทยเร็วกว่าคาดการณ์เดิม เนื่องจากพายุมีกำลังแรงและเคลื่อนตัวเร็ว ขณะที่เข้ามานั้นยังคงเป็นพายุโซนร้อน ส่งผลให้มีฝนตกในหลายจังหวัดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปริมาณฝน 24 ชั่วโมง ในแนวพายุเคลื่อนผ่านอาจมากกว่า 100 กว่ามิลลิเมตร
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าเมื่อพายุเข้าสู่บริเวณตอนกลางของประเทศจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำตามลำดับ
ก่อนที่พายุโนรูจะเคลื่อนเข้าไทย พบว่าตลอดทั้งวันหลายจังหวัดภาคอีสานมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ จ.อุบลราชธานี ฝนตกหนัก สภาพอากาศปิด ทำให้สายการบินเวียตเจ็ท ซึ่งเป็นไฟล์ทแรกที่จะลงจอดที่สนามบินนานาชาติ จ.อุบลราชธานี เวลา 07.00 น. ไม่สามารถลงจอดได้ ต้องบินกลับกรุงเทพฯ
เช่นเดียวกับเครื่องบินกองทัพอากาศที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางไปติดตามการรับมือพายุโนรูในพื้นที่ อ.เมืองอุบลราชธานี ไม่สามารถลงจอดได้ ทำให้ต้องเปลี่ยนเส้นทางไปลงที่สนามบินนานาชาติ จ.ขอนแก่น แทน แต่ได้รับแจ้งจากทาง จ.ขอนแก่น ว่ามีฝนตกและไม่มีท่าทีจะหยุด ทำให้ต้องบินไปลงที่ จ.พิษณุโลก แทน
ว่าที่ร้อยตรีอัธยา ลาภมาก ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนานาชาติ จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า เช้าวันนี้มีสายการบินพาณิชย์ที่ต้องบินมาลงที่สนามบินนานาชาติ จ.อุบลราชธานี 4 สายการบิน แต่สายการบินเวียตเจ็ท เจอกับสภาพอากาศค่อนข้างปิด และมีลมพัดแรง ไม่สามารถลงจอดได้ ทำให้มีผู้โดยสารติดค้างที่สนามบินนานาชาติ จ.อุบลราชธานี ประมาณ 100 คน ส่วนประมาณ 40 คน จึงตัดสินใจเดินทางไปกับสายการบินไทยสไมล์ ที่บินมาตามมาเป็นไฟล์ทที่ 2 ซึ่งสามารถลงจอดได้ เพราะสภาพอากาศดีขึ้นแล้ว ผู้โดยสารที่เหลือก็รอสายการบินเวียตเจ็ทบินมารับในช่วงบ่าย
อุบลฯ ฝนตกหนัก 8 ชั่วโมง มากถึง 100 มิลลิเมตร
สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) หรือ สสน. เผยปริมาณฝนที่ตกในลาวทางตอนใต้ ซึ่งเป็นบริเวณที่พายุเคลื่อนผ่าน พบว่าปริมาณฝนมากกว่า 200 มิลลิเมตร
ข้อมูลจากโทรมาตรมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ที่ จ.สาละวัน วัดปริมาณฝนได้ 166.4 มิลลิเมตร ขณะที่ จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นแนวฝนด้านหน้าของพายุ ฝนตกหนักต่อเนื่อง วัดปริมาณฝนตั้งแต่ 07.00-15.00 น. มากถึง 100.4 มิลลิเมตร จึงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นบริเวณที่พายุจะเคลื่อนตัวเข้ามาถึงเป็นที่แรก โดยท้ายลุ่มน้ำมูลที่ จ.อุบลราชธานี มีปริมาณน้ำมากอยู่แล้ว อาจจำเป็นต้องอพยพประชาชนในที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม
พนังดินแม่น้ำชีขาด น้ำทะลักท่วมพื้นที่เกษตรกว่า 2,000 ไร่
ส่วนที่ จ.มหาสารคาม วันนี้มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำชีเพิ่มขึ้นสูงขึ้นและไหลเชี่ยว จนกัดเซาะพนังดินจุดชีหลง บ.เลิงใต้ ต.เลิงใต้ อ.โกสุมพิสัย ขาดยาวประมาณ 15 เมตร ส่งผลให้น้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้านกว่า 2,000 ไร่
ส่วนที่บ้านปลาปัด ต.ยางท่าแจ้ง อ.โกสุมพิสัย ระดับน้ำในลำน้ำชีเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง วันนี้ระดับน้ำชีวัดที่สถานที่ E91 บ้านหนองขนวน น้ำล้นตลิ่งไหลบ่าท่วมถนนทางเข้าหมู่บ้าน ระยะทางประมาณ 50 เมตร
เตือน 77 จังหวัดรับมือ “โนรู”
กรมอุตุนิยมวิทยาเปิดเผยว่า พายุโนรูจะมีผลกระทบกับทุกภาคของไทยในช่วงวันที่ 28 กันยายน-1 ตุลาคมนี้ โดยแนวพายุเคลื่อนผ่านจะมีฝนตกหนัก ดังนี้
วันที่ 28 กันยายน
-ภาคเหนือ : จ.พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์
-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
-ภาคกลาง : จ.ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา
-ภาคตะวันออก : จ.นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว จันทบุรี และตราด
-ภาคใต้ : จ.ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา
วันที่ 29 กันยายน
-ภาคเหนือ : จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง น่าน พะเยา แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
-ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
-ภาคตะวันออก : จ.ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี
- ภาคใต้ : จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
วันที่ 30 กันยายน
-ภาคเหนือ : จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน พะเยา น่าน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร ชัยภูมิ และนครราชสีมา
-ภาคกลาง : จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
-ภาคตะวันออก : จ.ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
-ภาคใต้ : จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา และภูเก็ต
กรมทรัพยากรธรณีตั้งวอร์รูมรับมือดินถล่มจาก “โนรู”
ด้านกรมทรัพยากรธรณีตั้งวอร์รูมเพื่อติดตามสถานการณ์พายุโซนร้อน “โนรู” ที่จะส่งผลกระทบดินถล่ม ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ราบเชิงเขาและชุมชนที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทางน้ำตามร่องเขาที่มวลดินเคลื่อนที่ผ่านใน 43 จังหวัด ดังนี้
-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จ.อุบลราชธานี ศรีสะเกษ นครราชสีมา ชัยภูมิ เลย หนองคาย อุดรธานี หนองบัวลำภู ขอนแก่น
-ภาคเหนือ ได้แก่ จ.ตาก แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย น่าน พะเยา แพร่ ลำปาง ลำพูน อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ อุทัยธานี นครสวรรค์
-ภาคกลาง ได้แก่ จ.นครนายก ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์
-ภาคตะวันออก ได้แก่ จังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ระยอง จันทบุรี ตราด
-ภาคใต้ได้แก่ จ.ชุมพร ระนอง พังงา
ลุ่มน้ำมูล น้ำล้นตลิ่งในหลายพื้นที่
สำหรับสถานการณ์น้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่แรกที่จะได้รับอิทธิพลจากพายุ “โนรู” เข้าฝั่งไทย ลุ่มน้ำมูลล่าสุดพบว่ามีน้ำล้นตลิ่งในหลายพื้นที่ของ จ.นครราชสีมา สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี และทุกสถานีมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ขณะที่ลุ่มน้ำชี ปริมาณน้ำล้นตลิ่งเกือบตลอดแม่น้ำสายหลัก ได้แก่ อ.เมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น อ.เมืองโกสุมพิสัย อ.เมืองมหาสารคาม จ.มหาสารคาม อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด อ.บ้านใหม่ อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี
ส่วนปริมาณน้ำในเขื่อนวันนี้ กรมชลประธานระบุว่าทุกเขื่อนมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น.-สำนักข่าวไทย