ทำเนียบรัฐบาล 27 ก.ย.- “วราวุธ” พร้อมนั่งหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา หากสมาชิกเลือก เตือนลูกพรรคอย่าพลาดท่า กฎเหล็ก กกต. 180 วัน
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะ รักษาการประธานคณะกรรมการนโยบาย และยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ลาออกจากตำแหน่ง หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เพื่อเปิดทางให้มีการปรับโครงสร้างพรรค ว่า การที่หัวหน้าพรรคลาออก ส่งผลให้กรรมการบริหารพรรคต้องสิ้นสุดตำแหน่งตามไปด้วย ดังนั้น ในวันที่ 3 ต.ค. นี้ จะมีการประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ พร้อมยอมรับว่า ครั้งนี้เป็นการปรับองคาพยพ เพื่อเตรียมพร้อมในการเลือกตั้ง และปรับปรุงพรรคให้ก้าวทันกับสถานการณ์
ส่วนนายวราวุธจะเป็นหัวหน้าพรรคเองหรือไม่นั้น นายวราวุธ กล่าวว่า คนที่จะตอบคำถามนี้ได้คือ สมาชิกพรรค ซึ่งส่วนตัวไม่ได้ปิดกั้น และย้ำว่าคนที่จะดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคคงจะบอกไม่ได้ว่าพร้อมหรือไม่ แต่คนที่คิดว่าพร้อมคือคนที่เลือกเข้ามา คนที่ลงคะแนนจะเป็นผู้ตัดสินว่าบุคคลนั้นมีความพร้อมหรือไม่ และเมื่อสมาชิกคิดว่าบุคคลนั้นพร้อม สามารถปฏิบัติงานได้ ก็พร้อมที่ลงคะแนนให้ ทั้งนี้หัวหน้าพรรคจะเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่พรรคจะเสนอ
สำหรับกรณีที่มีปรากฎการณ์แลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้งนายกอบจ.ร้อยเอ็ดนั้น นายวราวุธ กล่าวว่า เป็นการเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนการลือกตั้งสนามใหญ่ก็คงต้องพิจารณาอีกครั้ง และถือว่าเป็นเครื่องเตือนใจให้บรรดาผู้สมัครไม่ว่าจะอยู่ในสถานะคะแนนนำ หรือเป็นที่นิยม พรรคชาติไทยพัฒนาได้กำชับส.ส. หรือว่าที่ผู้สมัครให้ดำเนินการทุกอย่างอย่างรอบคอบ เพราะขณะนี้อยู่ในช่วงข้อห้ามหาเสียง 180 วัน ขอให้ทำงานอยู่กับพื้นที่และอย่าประมาท
ทั้งนี้มองว่า ข้อห้ามหาเสียง 180 วัน ของกกต.ไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก เพียงแต่ที่ผ่านมายังไม่เคยเจอสถานการณ์ 180 วัน ก่อนถึงวันเลือกตั้งเพราะจะมีการยุบสภาก่อนและจะไปนับหนึ่งในวันที่มีพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้ง ดังนั้น เมื่อมีระยะเวลาพอสมควรก็เป็นสิ่งที่ว่าที่ผู้สมัคร และพรรคการเมืองต้องตระหนักและพึงระวังให้ดีไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยง การให้ปัจจัยในงานต่างๆ และมองว่าหลังจากนี้จะมีปัจจัยต่างๆ ทั้งเรื่องพายุ น้ำท่วม การทำงานของว่าที่ผู้สมัคร หรือ ส.ส. จะทำงานยากลำบากเล็กน้อย จึงขอให้ทำงานอย่างรอบคอบ อย่าพลาดไปเสียก่อน .-สำนักข่าวไทย