กรุงเทพฯ 19 เม.ย.-ประธานศาลฎีกา ยืนยันที่ผ่านมาไม่เคยมีการรื้อฟื้นคดีอาญาเกิดขึ้นแม้แต่ครั้งเดียว แม้ในปัจจุบันมีจำเลยออกมาระบุว่า เป็นแพะ และขอรื้อฟื้นคดีจำนวนมาก
สืบเนื่องจากปัจจุบันมีผู้ต้องหาและจำเลยอ้างว่าตกเป็นแพะในคดีอาญา ซึ่งได้ออกมาร้องขอรื้อฟื้นคดีในช่วงที่ผ่านมาเป็นจำนวนมาก โดยล่าสุด ประธานศาลฎีกายอมรับว่า การพิจารณาคดีของศาลมีโอกาสผิดพลาดบ้าง แต่ไม่ได้อยู่ที่ศาลเพียงอย่างเดียว เพราะต้องดูกระบวนการยุติธรรมว่าเริ่มต้นมาอย่างไร ยืนยันตามกระบวนการในชั้นศาลที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีการรื้อคดีเกิดขึ้น
สำหรับเงื่อนไขการยื่นพิจารณาคดีใหม่ โดยจะต้องมีคำพิพากษาถึงที่สุดในคดีอาญา และปรากฏมีกรณีใดกรณีหนึ่งเกิดขึ้น คือ 1.พยานบุคคลซึ่งปรากฏภายหลังว่าพยานนั้นเป็นเท็จ 2.พยานหลักฐานปลอมหรือเป็นเท็จ 3.มีพยานหลักฐานใหม่อันชัดแจ้งและสำคัญแก่คดี และไม่เป็นหลักฐานที่มีอยู่ก่อนแล้ว
โดยคำร้องขอให้รื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ ต้องยื่นคำร้องภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ปรากฏข้อเท็จจริงข้างต้น หรือภายใน 10 ปีนับแต่วันที่คำพิพากษาในคดีเดิมถึงที่สุด และหากมีพฤติการณ์พิเศษศาลจะรับคำร้องที่ยื่นเมื่อพ้นกำหนดเวลาดังกล่าวข้างต้นนั้นไว้พิจารณาก็ได้ แต่ก็มีข้อจำกัดในการยื่นโดยกำหนดให้สามารถยื่นได้เพียงครั้งเดียว.-สำนักข่าวไทย