ออกหมายจับ “พนักงานการเงิน-น้องชาย” คดีชิงเงิน 3.4 ล้าน

ชลบุรี 21 ก.ย. – ออกหมายจับแล้ว! พนักงานการเงินและน้องชาย ในคดีชิงเงิน 3.4 ล้านบาท บนรถตู้ที่ จ.ชลบุรี หลังเล่นละครบทรักสามเส้า จนคนขับรถตู้ถูกไล่ชก ต้องวิ่งหนีเอาชีวิตรอด


คดีพนักงานหญิงขึ้นรถบริษัทที่มีพนักงานขับรถขับให้ ไปเบิกเงิน 3.4 ล้านบาท ที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาบ้านบึง เพื่อนำไปจ่ายให้พนักงานในบริษัท ซึ่งทำเป็นประจำ แต่ครั้งนี้มีไรเดอร์มาทำทีหึงหวงคนขับรถ ถึงขั้นชกต่อยกัน วิ่งไล่ตามกันเข้าไปในซอย แต่ต่อมาไรเดอร์ย้อนกลับมาเอากระเป๋าเงิน 3.4 ล้านบาทที่รถ แล้วหนีไปนั้น

วันนี้ (21 ก.ย.) ตำรวจเชิญตัว 2 หนุ่มสาวที่เป็นคนถ่ายคลิปเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ ซึ่งคนร้ายทำท่าทีเหมือนมีเรื่อง พูดเบี่ยงเบนว่า คนขับรถมายุ่งกับภรรยาทำไม ก่อนจะชิงกระเป๋าเงินหลบหนีไป โดยนายเอ (นามสมมติ) เล่าว่า ทีแรกไม่รู้เรื่อง เห็นเขาทะเลาะกัน ก็เลยเอาโทรศัพท์ขึ้นมาถ่าย ถ้ารู้ว่ามีการชิงเงินกัน ตนก็ตกใจ แต่ถ้ารู้ว่าไม่ใช่เรื่องชู้สาว ตนคงต้องวิ่งไปช่วยแน่


ส่วนผู้ต้องสงสัย พนักงานทั้ง 2 คน ตำรวจแยกกันสอบเครียด นายกฤษชภัชร์ อายุ 24 ปี เป็นคนขับ และ น.ส.ประภาพร พนักงานการเงิน ตลอดทั้งวันของเมื่อวานนี้ (20 ก.ย.) และได้ปล่อยตัวกลับบ้านในเวลา 21.00 น. ของคืนที่ผ่านมา เบื้องต้นไม่พบข้อสงสัยนายกฤษชภัชร์ แต่ยังคงติดใจ น.ส.ประภาพร เนื่องจากพบสัญญาณโทรศัพท์เชื่อมต่อกับผู้ต้องสงสัย คาดว่าน่าจะเป็นน้องชาย แต่ น.ส.ประภาพร ยังคงให้การปฏิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็น

ขณะที่ช่วงเช้า ชุดสืบสวน สภ.บ้านบึง ลงพื้นที่ตามกล้องวงจรปิดที่รถจักรยานยนต์คันก่อเหตุหลุดหายไปจากกล้อง บริเวณถนนเซิดน้อย-มาบไผ่ หมู่ที่ 5 ต.มาบไผ่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี พบรถคันก่อเหตุถูกทิ้งอยู่ในไร่อ้อย ห่างจากริมถนนประมาณ 100 เมตร เป็นรถคันเดียวกัน ตรงตามกล้องวงจรปิดที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ เบื้องต้นประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานภาค 2 เข้ามาเก็บหลักฐาน เพื่อนำไปประกอบทางคดี หลังพบรถจักรยานยนต์

พ.ต.อ.เอกภพ อินทวิวัฒน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เปิดเผยความคืบหน้าว่า เจอรถจักรยานยนต์ของคนร้ายแล้ว ขั้นต่อไปจะประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบ ตอนนี้ตำรวจมีเป้าผู้ต้องสงสัยหรือคนร้ายแล้ว คาดไม่นานคงจะได้ตัว


ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้รับข้อมูลว่า ตำรวจกำลังตามประกบตัวผู้ต้องสงสัยชิงเงิน ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องเป็นญาติพี่น้องกับเสมียนเบิกเงินที่อาจมีส่วนรู้เห็น ตอนนี้ตำรวจยังเค้นสอบ แต่ยังให้การปฏิเสธ คาดว่าจะสามารถจับกุมได้ในเร็ววันนี้

ล่าสุดหลังชุดพิสูจน์หลักฐานภาค 2 ลงพื้นที่เก็บหลักฐานเพิ่ม และตำรวจสืบสวน สภ.บ้านบึง ได้ทำการแกะกล้องวงจรปิดตรวจสอบว่า คนร้ายหลบหนีไปทางทิศไหน จนพบว่าน่าจะขับรถกระบะหลบหนี จึงไล่กล้องตามเส้นทาง พบว่ารอบแรกมีรถจักรยานยนต์อยู่ท้ายกระบะ แต่รอบหลังไม่มี ซึ่งเป็นรถลักษณะตรงกัน จนสืบทราบว่านำไปจอดเคลมในอู่ซ่อมรถประกันแห่งหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 4 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา หลังเวลาเกิดเหตุประมาณ 2 ชั่วโมง เป็นรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว โดยกล้องวงจรปิดจับภาพผู้ก่อเหตุสวมเสื้อสีเทา กางเกงสีดำ เดินอ้อมนำกุญแจรถมาให้พนักงานเคลมรับรถ

สอบถามนายจารุวัฒน์ พนักงานเปิดเคลมรถ เล่าว่า ผู้ก่อเหตุติดต่อนำรถกระบะมาเคลมซ่อมหลายจุด เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว และทางอู่นัดให้นำรถมาเข้าซ่อมในวันที่ 19 กันยายน แต่มาช้า 1 วัน ซึ่งเมื่อผู้ก่อเหตุมาถึง มีท่าทีร้อนรน อ้างว่าปวดท้อง แต่กลับไม่ไปห้องน้ำ ขอให้ตนช่วยพาไปส่งที่ปากซอย จนมารู้ภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุชิงเงินล้าน ก็รู้สึกตกใจ

ด้านตำรวจมั่นใจรู้ตัวผู้ก่อเหตุในคดีนี้แล้ว คือ น.ส.ประภาพร พนักงานการเงิน อายุ 29 ปี ที่เป็นผู้เบิกเงินธนาคาร และนายจตุพล อายุ 27 ปี น้องชาย ซึ่งศาลจังหวัดชลบุรีได้อนุมัติหมายจับแล้ว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก