กรุงเทพฯ 15 ก.ย.-“สุขุม นวลสกุล” เชื่อสถานการณ์ขัดแย้ง “กัญชา” เป็นเพียงการช่วงชิงคะแนนหวังผลเลือกตั้งสมัยหน้า แต่ไม่ทำให้แตกหักถึงขั้นต้องยุบสภา ย้ำไม่มีพรรคไหนอยากเลือกตั้งตอนนี้ มั่นใจสภาอยู่ยาวถึงไทยเป็นเจ้าภาพเอเปค
นายสุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ กล่าวถึงสถานการณ์ความขัดแย้งของพรรคการเมืองในสภาผู้แทนราษฎรทั้งเรื่องร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง และร่างพระราชบัญญัติการกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา ว่า เป็นเพียงความคิดเห็นที่แตกต่าง แต่ไม่รุนแรงถึงขั้นนำไปสู่การยุบสภา โดยจะเห็นได้ว่า สุดท้ายทั้งสองฝ่ายที่มีความเห็นต่างก็ยังพูดคุยกันด้วยท่าทีถ้อยทีถ้อยอาศัย ไม่ถึงขั้นแตกหักต่างคนต่างไป จึงยังเดินหน้าทำงานร่วมกันได้ และเชื่อว่าสถานการณ์ขณะนี้ ยังไม่มีพรรคการเมืองใดอยากให้ยุบสภา รวมทั้งพรรคฝ่ายค้าน
ทั้งนี้ มองว่าการที่แต่ละพรรคการเมืองต่างออกมาแสดงจุดยืนในเรื่องต่างๆ ที่ชัดเจนขณะนี้ เป็นเพราะต้องการหาคะแนน เพื่อหวังผลในการเลือกตั้งในสมัยหน้า ซึ่งเหลือเวลาอีกไม่นานนัก จึงไม่อยากให้พรรคการเมืองคู่แข่งได้คะแนนเต็มที่ และเชื่อว่าการเลือกตั้งน่าจะเกิดขึ้นในปีหน้า หลังการประชุมเอเปค ตามที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เคยพูดเอาไว้ เพราะหากใครทำอะไรที่ทำให้การเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปคล่ม จะถูกโจมตีว่าทำร้ายบ้านเมืองให้เสียหาย ซึ่งเชื่อว่าไม่มีใครทำเช่นนั้น
“เขาไม่อยากยุบ มีใครพรรคไหนอยากยุบ แม้กระทั่งฝ่ายค้านยังไม่อยากยุบ เขาไม่ได้แตกหักกัน และถ้าม็อบออกมา อย่าลืมนะ ม็อบไม่สามารถเดินได้ โดยไม่มีการสนับสนุน เพราะฉะนั้นถ้าฝ่ายค้านเองอยากให้เลือกตั้งปีหน้า ก็คงยังไม่อยากให้แตกหักในปีนี้ และตอนนี้ยังมีอีกอย่างที่ไม่มีใครพูดถึงนะ ผมว่าถ้าทำอะไรแล้วทำให้การเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปคล่ม จะโดนโจมตีว่าทำร้ายบ้านเมือง ผมว่าพรรคการเมืองพึงต้องระวัง ผมว่าบรรยากาศที่เกิดขึ้นในสภาฯขณะนี้ เป็นการต่อสู้ เป็นการขัดขา เพื่อการเลือกตั้งคราวหน้าเท่านั้น”นายสุขุม กล่าว
นายสุขุม กล่าวด้วยว่า ต้องจับตาสถานการณ์หลังวันที่ 30 กันยายน ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบ 8 ปี ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างไร หากออกมาว่าเดินหน้าได้ ก็ทำงานต่อ และเชื่อว่าแม้จะมีกลุ่มต้าน ก็ไม่มีกำลังพอที่จะเคลื่อนไหวขับไล่ แต่หาก พล.อ.ประยุทธ์ไปต่อไม่ได้ ก็เป็นเรื่องที่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา จะต้องเรียกประชุมเพื่อหานายกรัฐมนตรีคนใหม่.-สำนักข่าวไทย