กรุงเทพฯ 13 ก.ย. – แจ้งข้อหาหนักสามีหึงโหดอุ้มลูกดักสาดน้ำกรดใส่แฟนเก่า สาเหตุให้น้ำหนักเรื่องหึงหวง คุมตัวฝากขังพรุ่งนี้ (14 ก.ย.)
กรณีร้านตัดผมและร้านทำเล็บ ย่านดอนเมือง เผยแพร่คลิปวิดีโอผ่านเฟซบุ๊กระบุข้อความ “เหตุการณ์เกิดขึ้นจริง ความรัก เหมือนดั่งยาขมน้ำกรดสาดหน้ากัน อุทาหรณ์สอนใจ” ซึ่งในคลิปเผยให้เห็นพนักงานหญิงคนหนึ่ง ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนที่จะมีชายในร้านมาเปิดตูให้และสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น พนักงานหญิงคนดังกล่าวก็รีบวิ่งเข้ามาภายในร้านตัดผมแล้วบอกแสบ ๆ พร้อมกับมีควันลอยขึ้นที่ศีรษะ ล้มลุกคลุกคลานไปยังหลังร้าน หลังเกิดเหตุ นายสมประสงค์ หรือ ดิน ผู้ก่อเหตุ เข้ามอบตัว ที่ สภ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อเวลา 15.50 น. ตำรวจควบคุมตัวนายดิน ผู้ก่อเหตุ อดีตสามี ดำเนินคดีที่ สน.ดอนเมือง เบื้องต้นตำรวจแจ้งดำเนินคดี ในข้อหาทำร้ายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยพรุ่งนี้ (14 ก.ย.) จะควบคุมตัวไปขออำนาจศาลอาญาฝากขัง ส่วนจะทำแผนหรือไม่ ต้องรอสอบปากคำผู้ต้องหาอีกครั้งว่าจะยินยอมหรือไม่ ส่วนสาเหตุให้น้ำหนักไปที่เรื่องหึงหวง โดยก่อนเกิดเหตุฝ่ายชายไปตามง้อขอคืนดีฝ่ายหญิง แต่ฝ่ายหญิงไม่คืนดีด้วยจึงก่อเหตุดังกล่าว
ด้านนายสมประสงค์ หรือดิน ยกมือไหม้ขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น อยากให้ฝ่ายหญิงกลับมาคืนดีและมามีชีวิตครอบครัวด้วยกันเหมือนเดิม โดยไม่ได้ตอบคำถามกับสื่อประเด็นที่มาของน้ำกรดว่าไปซื้อมาจากที่ใด
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทีมข่าวได้พูดคุย กับนายยุทธภูมิ อายุ 42 ปี เจ้าของร้านเสริมสวยดังกล่าว เปิดเผยว่า ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.20 น. วันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา บริเวณหน้าร้านของตน ซึ่งผู้บาดเจ็บในคลิปวิดีโอคือ มายด์ อายุ 25 ปี เป็นช่างทำเล็บ ที่ถูกนายดิน อดีตสามีดักสาดน้ำกรดที่ปากซอยหน้าร้านจนใบหน้า ต้นคอ หลังช่วงบน มีแผลพุพองขนาดใหญ่ นำส่งโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าตามสิทธิ์การรักษา
นายยุทธภูมิ เล่าต่ออีกว่าก่อนหน้านี้ น้องมายด์และนายดิน เคยพักอาศัยอยู่ที่ร้าน เนื่องจากเป็นช่างทำเล็บที่ร้านของตนจึงอนุญาตให้อยู่ด้วยกัน จนกระทั่งทั้งสองมีปากเสียงทะเลาะกัน เพราะผู้ชายไม่ยอมไปทำงานหาเงิน สุดท้ายได้บอกเลิกและออกจากร้านแยกทางกันไป ต่อมาเมื่อช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา น้องมายด์ ติดต่อมายังตนเพื่อขอกลับเข้ามาทำงานจึงรับไว้และให้ทำหน้าที่ตามเดิม ก่อนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น เชื่อเกิดจากการที่ฝ่ายชายหึงหวง เพราะฝ่ายหญิงเองก็มีแฟนใหม่อยู่เรื่อย ๆ.- สำนักข่าวไทย