อังกฤษ 9 ก.ย. – สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 องค์พระประมุขที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดแห่งราชวงศ์อังกฤษ เสด็จสวรรคตแล้ว ด้วยพระชนมพรรษา 96 พรรษา ที่พระตำหนักบัลมอรัล ในสกอตแลนด์ หลังจากทรงครองราชสมบัติยาวนานถึง 70 ปี
สำนักพระราชวังบักกิงแฮม ระบุในแถลงการณ์เมื่อเวลา 18.30 น. วันพฤหัสบดี ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 00.30 น. วันศุกร์ ตามเวลาในไทย ว่า สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 สวรรคตด้วยพระอาการสงบ ที่พระตำหนักบัลมอรัล ในสกอตแลนด์ เมื่อช่วงเย็นวันพฤหัสบดี ตามเวลาท้องถิ่น ด้วยพระชนมพรรษา 96 พรรษา โดยพระบรมวงศานุวงศ์ระดับสูงของราชวงศ์อังกฤษทุกพระองค์ ทั้งเจ้าชายแอนดรูว์ เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ พระราชกุมารี และเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด พระราชโอรส รวมทั้งเจ้าชายแฮร์รี พระราชนัดดา รีบเสด็จฯ ไปยังพระตำหนักบัลมอรัล ตามหลังเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมาร และเจ้าชายวิลเลียม พระราชนัดดาพระองค์โต ที่เสด็จไปล่วงหน้า เพื่อเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่ต้องทรงได้รับการดูแลเป็นพิเศษทางการแพทย์ ภายหลังสำนักพระราชวังบักกิงแฮม ออกแถลงการณ์ก่อนหน้านี้ว่า คณะแพทย์หลวงมีความกังวลในพระพลานามัยของพระองค์
จากการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ส่งผลให้เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมาร จะเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์อังกฤษพระองค์ต่อไป ทรงพระนามว่า สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ถือเป็นกษัตริย์อังกฤษที่เสด็จขึ้นครองราชย์ด้วยพระชนมพรรษามากที่สุด คือ 73 พรรษา รวมถึงดำรงพระฐานะเป็นองค์พระประมุขสูงสุดของประเทศในเครือจักรภพอังกฤษอีก 14 แห่ง รวมถึงออสเตรเลีย แคนาดา และจาเมกา พระองค์ทรงออกแถลงการณ์สั้นๆ ว่า ตอนนี้ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความเศร้าสลดสำหรับพระองค์และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ และว่า พระองค์และพระชายา จะประทับที่พระตำหนักบัลมอรัล ในคืนวันพฤหัสบดี ก่อนจะเสด็จกลับกรุงลอนดอนในวันนี้
ขณะที่เจ้าชายวิลเลียม จะทรงขึ้นเป็นผู้สืบราชสันตติวงศ์ลำดับที่ 1 และพระอิสริยยศจะเปลี่ยนจากดยุกแห่งเคมบริดจ์ เป็นดยุกแห่งคอร์นวอลล์ เช่นเดียวกับเจ้าหญิงแคทเธอรีน พระชายา ก็จะเปลี่ยนพระอิสริยยศ จากดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ เป็นดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ ส่วนผู้สืบราชสันตติวงศ์ลำดับที่ 2 ที่เคยเป็นของเจ้าชายวิลเลียม จะเปลี่ยนไปเป็นเจ้าชายจอร์จ พระโอรสพระองค์โต พระชนมายุ 9 ชันษา ของพระองค์
ด้านนายกรัฐมนตรีลิซ ทรัสส์ แถลงหน้าบ้านพักเลขที่ 10 ถนนดาวนิง ในกรุงลอนดอน ว่า เธอและพสกนิกรทุกคนต่างเสียใจต่อข่าวการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งเป็นข่าวที่สร้างความตกใจไปทั่วทั้งประเทศและทั่วโลก และยกย่องพระองค์ว่าเป็นดังหินผา เป็นหลักให้อังกฤษสมัยใหม่ก่อร่างสร้างตัวขึ้น และว่าอังกฤษกลายเป็นชาติมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่ในปัจจุบันก็เพราะพระองค์ นายกรัฐมนตรีทรัสส์ ยังระบุด้วยว่า สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงเป็นแรงบันดาลใจให้กับตัวเธอและพสกนิกรชาวอังกฤษอีกมากมาย
ขณะเดียวกัน ผู้คนจำนวนมากไปรวมตัวกันที่ด้านหน้าพระราชวังบักกิงแฮม ในกรุงลอนดอน ตั้งแต่ช่วงก่อนที่ข่าวการสวรรคตจะได้รับการยืนยัน ทันทีที่ทราบข่าวเศร้า ผู้คนจำนวนมากต่างพากันร้องไห้ และต่างบอกว่า เสียใจต่อการสวรรคตของพระองค์ ท่ามกลางบรรยากาศเศร้าสลด ขณะที่ธงชาติอังกฤษที่พระราชวังบักกิงแฮม พระราชวังวินด์เซอร์ และที่บ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิง ทำเนียบนายกรัฐมนตรี ถูกลดธงลงครึ่งเสา เพื่อไว้อาลัย
สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงเสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อปี 1952 ทรงเป็นองค์พระประมุขที่ครองราชสมบัติยาวนานที่สุดแห่งราชวงศ์อังกฤษ ด้วยระยะเวลาถึง 70 ปี และทรงเป็นสักขีพยานในการเปลี่ยนผ่านทางสังคมในอังกฤษและเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นมากมาย รัชสมัยของพระองค์ครอบคลุมตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 15 คน เริ่มจาก วินสตัน เชอร์ชิล และปิดท้ายที่ ลิซ ทรัสส์ ที่พระองค์เพิ่งทรงแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษอย่างเป็นทางการไปเมื่อต้นสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 สวรรคต หลังจากเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ พระราชสวามี สิ้นพระชนม์เมื่อปีที่แล้ว ด้วยพระชนมายุ 99 ชันษา หลังจากที่ทั้งสองพระองค์ทรงใช้ชีวิตร่วมกันนานถึง 74 ปี ซึ่งสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงกล่าวสรรเสริญพระราชสวามีภายหลังการสิ้นพระชนม์ว่า ทรงเป็น “แรงกำลังและที่พักพิง” ของพระองค์ตลอดช่วงเวลาที่ทรงอยู่ด้วยกันและการครองราชย์ของพระองค์ด้วย. – สำนักข่าวไทย