แร็ปเปอร์ดัง แจงไม่เกี่ยวปมขัดแย้งวิน จยย. แค่ช่วยเจรจา

กรุงเทพฯ 6 ก.ย.- แร็ปเปอร์ชื่อดัง ชี้แจงตัวเองและครอบครัวไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง จนเกิดการใช้อาวุธมีดฟันวินจักรยานยนต์รับจ้าง แต่เป็นคนช่วยเจรจา พร้อมขอหยุดความบาดหมาง


กรณีช่วงเช้าวันนี้ นายหนุ่ย และนายชา 2 ผู้ก่อเหตุรุมทำร้ายพ่อแร็ปเปอร์หนุ่มจนได้รับบาดเจ็บ หลังจากมีข้อพิพาทเมื่อช่วงเดือนมิถุนายน โดยหนึ่งในกลุ่มแร็ปเปอร์ใช้อาวุธมีดฟันใส่นายหนุ่ย จนได้รับบาดเจ็บ นายหนุ่ยยืนยันว่า ไม่ได้เป็นคนเข้าไปหาเรื่องพ่อแร็ปเปอร์หนุ่มก่อน แต่ถูกทางฝั่งพ่อแร็ปเปอร์หนุ่มพูดจาถากถางเกี่ยวกับเรื่องคดี ทำให้เกิดความไม่พอใจและเข้าทำร้ายกัน

ในช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายกฤษณะ หรือไฮฮอต อายุ 22 ปี ลูกชายผู้บาดเจ็บ พร้อมด้วยนายบุญญฤทธิ์ หรือแบงค์ อายุ 22 ปี เปิดใจกับทีมข่าวหลายสำนักว่า ทางฝั่งตัวเองไม่ได้เป็นคนเข้าไปหาเรื่องก่อน โดยบิดา เล่าว่า เมื่อออกมาจากร้านสะดวกซื้อก็ถูกกลุ่มนายหนุ่ยและนายชาตรงเข้ามาทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งสาเหตุคาดว่ามาจากการที่นายแบงค์ แจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีอีกฝ่าย ฐานทำให้เสียทรัพย์ จากกรณีที่มีการรื้อรถของนายแบงค์ที่จอดอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุทะเลาะวิวาทเมื่อช่วงวันที่ 9 มิถุนายน หลังนายหนุ่ยถูกนายเจมส์ หรือจามาร ใช้มีดฟันเข้าที่แขน


นายแบงค์ ระบุว่า ในคดีรื้อทำลายรถยนต์ของตัวเอง ตำรวจมีการออกหมายเรียกบุคคลจำนวน 5 คน แต่ไม่ทราบว่ามีการเรียกใครไปบ้าง แต่พอวันรุ่งขึ้นหลังจากที่คนของฝ่ายนายหนุ่ย ได้รับหมายเรียก พ่อของไฮฮอต ก็ถูกรุมทำร้าย จึงคาดว่ามาจากความไม่พอใจที่มีการถูกดำเนินคดีตามหลัง

ด้านไฮฮอต ยอมรับว่าส่วนตัวกับนายหนุ่ยก็รู้จักเห็นหน้า และยังเคยใช้บริการอยู่หลายครั้ง และนายหนุ่ยก็เคยช่วยเหลือตนเองเมื่อครั้งที่ได้รับบาดเจ็บ ไม่เคยมีปัญหากับนายหนุ่ยหรือพี่ๆ วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เพราะบ้านพักอยู่ใกล้กับวิน ก็เห็นหน้าค่าตากันมาโดยตลอด ไม่เคยมีปัญหากัน เพียงแต่ในวันเกิดเหตุเมื่อ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา ตนเองลงไปเป็นคนกลางกรณีที่แบงค์มีปัญหากับป้าแม่ค้าร้านหมูปิ้ง เรื่องจอดรถขายหมูปิ้งบังบริเวณหน้าบ้านของแบงค์ ซึ่งมีการขอให้ป้าหมูปิ้งขยับเลื่อนเพื่อให้สามารถจอดรถได้ แต่มีปากเสียงขึ้น ตนเองจึงเข้าไปเป็นคนกลาง ก่อนที่พ่อจะตามลงไปเป็นคนกลางด้วย

นายแบงค์ ยอมขอโทษป้าขายหมูปิ้งถึง 3 ครั้ง เพื่อให้เรื่องยุติ แต่อยู่ดีๆ นายหนุ่ย ก็เข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งในตอนแรกตนยังไม่แน่ใจว่าเข้ามาได้อย่างไร เพราะช่วงแรกที่มีปัญหากันตนเองถูกพ่อสั่งให้เข้าบ้าน และสังเกตการณ์จากภายในบ้าน พร้อมกับพี่เจมส์ที่อยู่ในบ้าน ก็ลงไปอยู่ที่ประตูและมองผ่านช่องประตูออกไป จนแบงค์เริ่มถูกอีกฝ่ายรุมทำร้าย เจมส์ก็คว้ามีดดาบที่เป็นของตั้งโชว์เพื่อใช้ในการประกอบการถ่ายเอ็มวีของทีมออกไปทำร้ายนายหนุ่ย ซึ่งตนเองและแบงค์ รวมถึงคนในบ้าน พยายามห้ามปราม แต่ห้ามไม่อยู่ จนทำให้เรื่องบานปลายเกิดขึ้น ซึ่งมีดที่นำออกจากบ้านไปนำไปเพียงเล่มเดียวส่วนที่ตำรวจเข้ามารับตัวเจมส์กับแบงค์ก็นำมีดที่โชว์อยู่บนชั้นไปอีกเล่ม รวมเป็น 2 เล่ม ไม่ใช่ 4 เล่ม ตามที่มีการกล่าวอ้าง


ระหว่างเกิดเหตุฝ่ายตัวเองติดต่อตำรวจ เพื่อให้เข้ามาแก้ไขสถานการณ์ที่บ้านถูกปิดล้อมโดยกลุ่มของนายหนุ่ย จนเมื่อตำรวจมาก็มีการเรียกหานายเจมส์และแบงค์ออกไป เพราะคาดว่าจะได้รับการบอกเล่าจากทางฝั่งนายหนุ่ย ว่าเป็นคนที่ช่วยกันฟันนายหนุ่ย ซึ่งขณะที่ตำรวจพาตัวทั้งสองออกจากบ้านไปขึ้นรถ เพื่อจะส่งตัวไปที่สถานีตำรวจทั้งเจมส์และแบงค์ก็ถูกรุมประชาทัณฑ์ ก่อนจะขึ้นรถออกจากจุดเกิดเหตุไป ซึ่งขณะที่คนก่อเหตุออกจากจุดเกิดเหตุไปแล้ว บ้านพักของตนเองก็ยังคงถูกล้อมไว้ ทำให้ต้องพยายามขอความช่วยเหลือจากตำรวจในหลายหลายพื้นที่ จนออกจากบ้านพักเพื่อไปหาเจมส์กับแบงค์ที่ สน.บางเสาธง ก่อนจะทราบจากเพื่อนที่เปิดร้านสักอยู่บริเวณชั้นหนึ่งของบ้านว่ารถของแบงค์ถูกทำลาย ซึ่งตนเองบอกกับตำรวจตั้งแต่วันแรก แต่ตำรวจกลับบอกให้ตนเองและพวกย้ายออกจากบริเวณดังกล่าว เพื่อเป็นการยุติความบาดหมางกัน

ไฮฮอต ยังระบุว่า หลังจากเกิดเรื่องตนเองและเพื่อนต้องย้ายออกจากบ้านพักมาอยู่ที่อื่นเพื่อความปลอดภัย โดยเคยกลับไปขนของออกจากบ้านครั้งหนึ่งก็พบกับกลุ่มวินรถจักรยานยนต์ ซึ่งไม่ได้มีการพูดคุยกัน แม้จะยกมือไหว้ตามปกติเหมือนที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ แต่กลุ่มวินรถจักรยานยนต์กลับพากันหลบหนีแยกย้าย พร้อมทั้งยังมีคนบางส่วนมาถ่ายภาพรถยนต์ที่ตนเองนำมาขนของออกจากบ้าน จึงรู้สึกไม่ปลอดภัย และรีบขนของย้ายออกจากบ้านเกิดเหตุดังกล่าวมา ส่วนตัวอยากให้เรื่องดังกล่าวยุติลง เพราะได้รับผลกระทบเกี่ยวกับงานเพลงที่ทำอยู่ ทั้งเรื่องคิวทัวร์คอนเสิร์ตก็หายไป หลังเกิดเรื่อง ทั้งทั้งที่ตนเองไม่ได้เป็นคนลงมือฟันนายหนุ่ย และไม่ได้เป็นคู่พิพาทตั้งแต่แรก รวมถึงในโซเชียลมีเดีย ก็ยืนยันว่าไม่เคยโพสต์ถากถางคู่กรณีมาก่อน อยากให้เรื่องทั้งหมดหยุดลงโดยใครที่ทำอะไรไว้ก็ให้รับผิดชอบ ทั้งนายเจมส์ ผู้ที่ฟันนายหนุ่ย ก็ควรรับผิดชอบ ฝ่ายนายหนุ่ยที่ทำร้ายร่างกายพ่อก็ต้องรับผิดชอบไปตามกระบวนการ แล้วยุติความบาดหมางกันได้แล้ว

พร้อมกันนี้ไฮฮอต บอกอีกว่าในส่วนของเจมส์หรือจามาร ปัจจุบันแยกออกจากกลุ่มของตนเองไปตั้งแต่เกิดเรื่อง ด้วยความที่เป็นคนใจร้อนและเป็นคนที่ก่อเรื่อง จนทำให้เรื่องลุกลามบานปลายใหญ่โต ทำให้ทีมได้รับผลกระทบ จึงอยากให้สังคมเข้าใจว่ากลุ่มของตนเองไม่ได้เป็นผู้ลงมือก่อเหตุ และไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับตัวผู้ก่อเหตุ คือนายเจมส์ หรือจามาร อีกต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายลอบวางระเบิด 2 พ่อลูก ครู ตชด. เสียชีวิต

คนร้ายลอบวางระเบิด ถนนศรีสาคร-จะแนะ จ.นราธิวาส รถกระบะของครูใหญ่โรงเรียน ตชด. และลูกชาย ขับผ่านมา พลิกคว่ำหลายตลบ ก่อนบุกมาจ่อยิงซ้ำจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่เชื่อกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง หวังสร้างสถานการณ์ความปั่นป่วนในพื้นที่

หนาวจัด

อ.น้ำหนาว เพชรบูรณ์ หนาวจัด -3 องศาฯ

อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ หนาวจัด ติดลบ 3 องศาฯ ทำให้เกิดแม่คะนิ้งเกาะตามพื้นและหลังคารถ ส่วนแม่ค้าเสื้อผ้ามือสองชาวโคราช แจกเสื้อกันหนาวชาวบ้านฟรี หลังอุณหภูมิในพื้นที่แตะ 10 องศาฯ

“ตระกูลม่วงศิริ” ยกทีมซบพรรคเพื่อไทย

“ตระกูลม่วงศิริ” ยกทีมซบพรรคเพื่อไทย ด้าน “ธีรรัตน์” ต้อนรับกลับบ้านเก่า มองเป็นเรื่องน่ายินดีช่วยทำงานให้สำเร็จ ขณะที่ สก.ปชป.-ไทยสร้างไทย มาด้วย

แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกคนใกล้ชิด “เปิ้ล นาคร” สูญเงิน 6 ล้านบาท

แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกครอบครัวคนใกล้ชิด “เปิ้ล นาคร” สูญเงิน 6 ล้านบาท พบพฤติการณ์คล้ายแก๊งหลอก “ชาล็อต ออสติน”

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ร่วมถ่ายภาพกับดาราดัง ใช้ กม.สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ร่วมถ่ายภาพประวัติศาสตร์กับดาราดัง ประกาศยินดีไทยใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียม ขอบคุณทุกฝ่ายร่วมผลักดัน ลั่นวันนี้สำเร็จแล้ว นี่คือความภูมิใจของคนไทย

เศร้า ฝังศพ “พ่อ-ลูก” ครู ตชด. เหยื่อวางระเบิด

ประชาชน-ตำรวจตระเวนชายแดน นับพันคน ร่วมพิธีฝังศพ 2 พ่อลูก ครู ตชด. เหยื่อผู้ก่อความไม่สงบลอบวางระเบิดในพื้นที่ จ.นราธิวาส

หมายจับผู้มีพระคุณ

ออกหมายจับผู้มีพระคุณจ้าง “เอ็ม กองเรือ” สังหารอดีต สส.กัมพูชา

ตำรวจเร่งล่า “สมหวัง” ผู้มีพระคุณของ “เอ็ม กองเรือ” หลังศาลออกหมายจับใช้จ้างวานสังหาร “ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา