กรุงเทพฯ 12 เม.ย.- ลูกทัวร์ไปญี่ปุ่นทยอยแจ้งความกองปราบดำเนินคดีฐานฉ้อโกงกับบริษัทเวลล์เอเวอร์ เวิล ฟอร์ไลท์และกรรมการบริหารฯ หลังถูกลอยแพ ขณะที่หัวหน้ากลุ่มทัวร์อ้างไม่รู้ปัญหามาก่อน
ตำรวจท่องเที่ยวประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ควบคุมตัวหัวหน้ากลุ่มแชร์ลูกโซ่บริษัท เวลล์เอเวอร์ เวิล ฟอร์ไลท์ 2 คน มาสอบปากคำที่กองปราบปราม หลังขายทัวร์ท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นในราคาถูก ก่อนลอยแพลูกทัวร์กว่า 2,000 คน ที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งจากการสอบปากคำเบื้องต้น หญิงสาวทั้ง 2 คนให้การว่า ตนเป็นสมาชิกของบริษัทดังกล่าวจริง ซึ่งในระหว่างที่ตนเป็นสมาชิกไม่เคยเกิดปัญหาในลักษณะดังกล่าว และทำหน้าที่ขายทัวร์ โดยก่อนที่ตนจะมาขายทัวร์ ตนได้ซื้อสินค้าและได้รับรางวัลเป็นเพคเก็ตในการเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น จึงบินกลับมารับกลุ่มผู้เสียหายทั้งหมดเพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น แต่เมื่อมาถึงวันเดินทางกลับพบปัญหาดังกล่าว
ด้าน พล.ต.ต.ประเสริฐ เงินยวง ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว ได้เดินทางมายังกองบังคับการปราบปราม เพื่อร่วมวางกรอบและแนวทางสืบสวนข้อเท็จจริง และร่วมสอบปากคำผู้เสียหาย โดยกล่าวเพียงสั้นว่า ในวันนี้จะมีผู้เสียหายประมาณ 30 คน ซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกองปราบปรามดำเนินคดีกับบริษัทดังกล่าว และกรรมการบริหารบริษัทฯ รวมถึงแม่ข่ายในข้อหาฉ้อโกงประชาชน โดยคดีนี้มีผู้เสียหายจากทั่วประเทศมากกว่า 2000 คน
ทางด้าน ผู้เสียหาย นางสาวผ่องนภา ฐิติวัชระ ผู้เสียหาย เล่าว่า เพื่อนตนเองเป็นคนชักชวนให้ตนไปเที่ยวญี่ปุ่นเพราะมีโปรโมชั่นตั๋วถูกจากบริษัท เวลล์เอเวอร์ ในราคา หมื่นกว่าบาท ตนจึงสนใจและได้โอนเงินจำนวนทั้งหมด และมาตามเวลานัดหมาย แต่ก็ไม่พบ ตัวแทน และไม่มีเอกสารใดๆ มีเพียงสลิปเงินที่ตนโอนเพียงเท่านั้น ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ ตนก็ไม่สามารถที่จะติดต่อตัวแทนหัวหน้าทีม ได้อีกเลย จึงเดินทางมาแจ้งความที่กองปราบ ส่วนเพื่อนคนที่จะร่วมเดินทางที่เจอที่สนามบินสุวรรณภูมิ ก็บอกว่ายังเชื่อมั่นว่าจะได้เงินคืนจากหัวหน้าทีม จึงไม่ดำเนินการแจ้งความ
ขณะที่พลตำรวจโทชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาได้เรียกสอบผู้เสียหายไปแล้วจำนวนกว่า 40 ปาก ส่วนผู้เสียหายรายอื่นๆ ตำรวจได้มีการแนะนำให้แจ้งความร้องทุกข์ตามภูมิลำเนาที่เกิดเหตุของตนเอง หลังจากนั้นพนักงานสอบสวนจะนำสำนวนการสอบสวนส่งให้กองบังคับการปราบปราม เพื่อจะได้รวมเป็นสำนวนเดียวกัน ทั้งนี้ยังมีการควบคุมตัวคนที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับการหลอกผู้เสียหายจำนวนหนึ่งไว้ด้วย โดยควบคุมตัวไว้ที่สถานีตำรวจภูธรสุวรรณภูมิ.-สำนักข่าวไทย