พรรคกล้า 27 ส.ค.- “กรณ์” เสนอ “พล.อ.ประวิตร” ประชุม ครม. นัดแรก เร่งออกมาตรการช่วยแก้หนี้ 13 ล้านบัญชี ติดหนี้ช่วงโควิด กลายเป็นหนี้เสียหลายล้านบัญชีแล้ว เสนอมาตรการ “กล้าฟื้นชีวิต” ชี้ ทำได้ทันที ไม่ต้องใช้งบประมาณ
นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า ซึ่งถือเป็นนัดแรก ของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ปฎิบัติหน้าที่ รักษาการนายกรัฐมนตรี ว่า ขอให้เร่งตัดสินใจแก้ไขปัญหาหนี้ 13 ล้านบัญชี ซึ่งเพิ่มขึ้นในช่วง 2 ปีที่โควิด-19 ระบาด โดย 3 ล้านบัญชี กลายเป็นหนี้เสีย ติดแบล็กลิสต์กับเครดิตบูโรแล้ว และอีก 10 ล้านบัญชี สุ่มเสี่ยงที่จะกลายเป็นหนี้เสียในอนาคต ทั้งหมดครอบคลุมคนประมาณ 7-8 ล้านคน คิดเป็น 1 ใน 5 ของประชากรวัยทำงาน ซึ่งหากติดบูโรจะทำให้หมดโอกาสทางเศรษฐกิจ หมดโอกาสจากการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ที่รัฐต้องเร่งมีมาตรการช่วยเหลือโดยด่วน ไม่เช่นนั้นจะมีหนี้เสียเพิ่มอีกเป็นล้านบัญชี
หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวว่า พรรคกล้าเสนอมาตรการ “กล้าฟื้นชีวิต” โดยเสนอให้รัฐพักชำระเงินต้น 2 ปี ลดดอกเบี้ยให้เหลือ 1% ในหนึ่งปี และแขวนดอกเบี้ยค่าปรับไว้ โดยช่วยเหลือกรณีมีหนี้วงเงินไม่เกิน 50,000 บาท เช่น มีหนี้ 50,000 บาท ต้องจ่ายทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย 1,564 บาทต่อเดือน ก็จะเหลือขั้นต่ำ 43 บาทต่อเดือน โดยช่วยเหลือ ทั้งกรณีที่เป็นหนี้เสียแล้ว และกรณีที่เสี่ยงเป็นหนี้เสียทั้ง 13 ล้านบัญชี และมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดหนี้เสียเพิ่ม ด้วยการเพิ่มรางวัลให้กับบัญชีที่ผ่อนจนหมดสัญญา จะได้รับเงินคืน 5% ของเงินต้น เพื่อเพิ่มแรงจูงใจในการชำระหนี้ให้หมด เช่น กู้ 50,000 บาท เมื่อชำระหนี้หมด จะได้รับเงินคืน 2,500 บาท
“ช่วงโควิด รัฐบาลเองยังต้องกู้เงินเพิ่มหลักล้านล้านบาท จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ประชาชนจะเป็นหนี้ และเป็นหนี้ที่เกิดจากหลายโครงการที่รัฐบาลปล่อยกู้ ซึ่งเป็นเรื่องดีที่ช่วยประชาชน แต่รัฐเองก็ต้องไม่ปล่อยให้ประชาชนต้องเป็นหนี้ด้วย ซึ่งมาตรการที่พรรคกล้าเสนอ ครม. สามารถดำเนินการได้ทันที โดยไม่ต้องใช้งบประมาณ จะสามารถช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีกว่า 10 ล้านคน” นายกรณ์ กล่าว
หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวอีกว่า พรรคกล้าพยายามช่วยประชาชนที่ต้องไปกู้นอกระบบ แต่อุปสรรคในการช่วยเหลือ คือประชาชนหลายรายติดเครดิตบูโร ซึ่งถ้าไม่มีมาตรการ จะมีคนติดเครดิตบูโรเพิ่มทุกสามเดือน เป็นหลักล้านคน ดังนั้นรัฐไม่ใช่แค่พูดเรื่องตัวเลขหนี้ครัวเรือนแล้วปล่อยปัญหาผ่านไป รัฐที่มั่นคง ต้องมาช่วยประชาชนที่อ่อนแอด้วย
“ตอนนี้รัฐกำลังปล่อยให้เขาตาย ตายไปแล้ว 3 ล้านชีวิต รอจะตายอีก 10 ล้านชีวิต วันนี้พรรคกล้าจึงเสนอรัฐบาลว่า เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องเร่งด่วน รอคอยไม่ได้ ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า ถ้าเราไม่ทำอะไร ภายในสิ้นปี จาก 3 ล้านกว่า ตัวเลข NPL จะพุ่งขึ้นไปเป็น 6 ล้าน 7 ล้าน ได้โดยง่าย” นายกรณ์ กล่าว
ส่วนกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย นายกรณ์ กล่าวว่า คำสั่งศาลที่ออกมา สะท้อนความเป็นนิติรัฐ มองว่าสามารถลดแรงกดดันทางการเมือง ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ก็เพิ่มขึ้น หวังว่ารัฐบาลจะมีสมาธิใช้เวลาที่เหลือ ใช้อำนาจที่มีในมือช่วยเหลือประชาชน
“พูดตามตรง คงไม่ได้คาดหวังมาก เพราะคือรัฐบาลเดิม และรัฐบาลเหลือเวลาอีกครึ่งปี แต่ตราบใดที่อำนาจอยู่ในมือ ก็มีความหวังว่าจะช่วยแก้ปัญหาให้ประชาชน ขอรัฐบาลอย่าเสียสมาธิในการทำงาน ตอนนี้ต้องเดินหน้าทำงานต่อไป เพราะถ้าไม่ช่วยตอนนี้ หลังจากนี้ก็จะช่วยไม่ทัน” นายกรณ์ กล่าว .-สำนักข่าวไทย