สโมสร ทบ. 26 ส.ค.- “ชัชชาติ” ชูการเมืองแบบใหม่ต้องอาศัยยุทธศาสตร์ เข้าถึงคนทุกกลุ่ม ปลุกคนทำงานการเมือง – กกต. มีหน้าที่สร้างความเชื่อมั่นระบอบประชาธิปไตย
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยสถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง จัดให้มีงานสัมมนานำเสนอยุทธศาสตร์ของนักศึกษาหลักสูตรการพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง รุ่นที่ 12 (พตส.12) เรื่อง “ยุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนาการเมือง” โดยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ปาฐกถานำ เรื่อง “จากเล็กสู่ใหญ่ : มองการเมืองและประเทศไทยแบบ 360 องศา” ระบุว่าจุดเริ่มต้นของตนเริ่มคนเดียว เมื่อปี 2562 เชื่อว่าทุกคนสามารถเข้าสู่การเลือกตั้งได้ ไม่ว่ามีพรรค หรือไม่มีพรรค แต่ถ้ามีคอนเซ็ป มีไอเดียความตั้งใจก็สามารถเอาชนะในการเลือกตั้งได้ สิ่งสำคัญคือต้องมียุทธศาสตร์ ซึ่งต้องเริ่มตั้งแต่การหาความรู้ หาแนวร่วม จากคนทุกช่วงวัย นอกจากนั้นจะต้องหาผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้หลายๆ ด้านเข้ามา เพราะเราไม่สามารถมีความรู้ความเชี่ยวชาญในทุกเรื่องได้ จึงต้องหาแนวร่วม อย่าหาจุดต่างแต่ต้องหาจุดร่วม
ทั้งนี้ข้อดีของการที่เป็นผู้สมัครอิสระ ก็ทำให้หาแนวร่วมง่ายขึ้น เพราะคนมองว่าการร่วมกับพรรคการเมืองเป็นเรื่องที่น่ากลัว ทั้งนี้แนวคิดคือให้สงสัยในสิ่งที่เรารู้ ว่ามีอะไรต้องอัปเดตให้ทันสมัยหรือไม่ และให้ยำเกรงว่าสิ่งที่เราไม่รู้ มีมากกว่าสิ่งที่เรารู้
นายชัชชาติ กล่าวอีกว่าการเมืองแบบใหม่ ต้องมีการทำโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์ม หากอยากสื่อสารให้เข้าถึงคนทุกช่วงวัย ต้องมีทุกช่องทาง อย่างเฟซบุ๊ก คือคนมีอายุ ส่วนอินสตาแกรมและทวิตเตอร์ คือคนรุ่นใหม่ หรือเด็กจบใหม่ และ Tiktok จะเป็นกลุ่มเด็ก ที่สามารถเจาะกลุ่มเด็ก 8 ขวบ เพื่อไปบอกพ่อแม่ให้ลงคะแนนเสียงได้เช่นกัน
“ผมคิดว่าการได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม. ได้คะแนนเสียงมาจากการหาเสียงในโซเชียลมีเดียกว่า 20% ถือเป็นการเมืองรูปแบบใหม่ เพราะการทำงานการเมืองต้องหาวิธีการสื่อสาร แม้เราจะทำงานหนักหรือมียุทธศาสตร์ที่ดี แต่สื่อสารไม่ได้ก็ไม่มีประโยชน์ การเมืองสมัยใหม่ต้องเข้าถึงคนมากขึ้น ขณะเดียวกันจะต้องเปิดเผยข้อมูลจะทำให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบมากขึ้น” นายชัชชาติ กล่าว
ผู้ว่าฯ กทม. ยังกล่าวด้วยว่า ยังใช้แพลตฟอร์ม Traffy Fondue (ทราฟฟี่ฟองดูว์) เป็นการเปลี่ยนจากราชการ โดยใช้แพลตฟอร์มที่ช่วยแก้ปัญหาประชาชนได้เร็วขึ้น และสามารถประสานการทำงานกับหน่วยงานอื่นๆ ใน กทม.ได้รวดเร็ว อนาคตอาจจะใช้เป็นแพลตฟอร์มเชื่อมทั้งประเทศได้เลย นายชัชชาติ กล่าวอีกว่าเชื่อเรื่องทำจากเล็กไปใหญ่ แม้งาน กทม.จะถือเป็นงานเล็ก แต่งานเราไม่ได้มีแค่นี้ เราสร้างความมั่นใจ ความเชื่อมั่นให้กับระบอบประชาธิปไตย ว่าเป็นระบอบที่ทรงพลังที่จะสามารถเลือกคนที่ดี และให้คำตอบกับประเทศ เพราะที่ผ่านมาคนหมดหวังกับระบอบประชาธิปไตย หมดหวังกับระบอบเลือกตั้ง ดังนั้นหน้าที่เราจึงต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับระบอบ เพื่อให้โปร่งใส มีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ได้ ขณะที่หน้าที่ของ กกต. ไม่ใช่แค่จัดเลือกตั้ง แต่ต้องสร้างความเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย และสร้างความโปร่งใสได้ เพื่อให้คนรุ่นใหม่ไม่ได้รู้สึกว่านักการเมืองน่ารังเกียจ นั่นคือการสร้างระบบจากฐานรากว่าประชาธิปไตยมีความหมาย และสร้างคำตอบให้ประเทศได้.- สำนักข่าวไทย