TNA News-Now-Next: เบื้องลึก-เบื้องหลังทรัมป์ส่งกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิไปวอชิงตัน ดีซี

Trump says 800 DC National Guard troops to be deployed in Washington, D.C. to quell crime

วอชิงตัน 13 ส.ค.-  ว่ากันว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ต้องการส่งกำลังทหารเข้าประจำการบนผืนแผ่นดินสหรัฐฯ มานานแล้ว เพียงแต่ที่ผ่านมา กำลังหาทางและโอกาสเหมาะ ๆ ที่จะทำเช่นนั้น


จนเมื่อวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา เขาได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความปลอดภัยสาธารณะ พร้อมสั่งประจำการกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ หรือ National Guard จำนวน 800 นายในกรุงวอชิงตัน ดีซี และควบคุมสำนักตำรวจของกรุงวอชิงตัน ดีซี ให้มาอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลกลาง อาศัยอำนาจตามกฏหมายปกครองตนเองของเขตปกครองโคลัมเบีย เพื่อต่อสู้กับสิ่งที่เขาเรียกว่าเป็น “คลื่นแห่งความไร้กฎหมาย” และว่าในตอนนี้ กรุงวอชิงตัน ดีซี กำลังถูกยึดครองโดย “กลุ่มอาชญากรที่ก่อความรุนแรงและกระหายเลือด” ถือเป็นอีกครั้ง ที่ทรัมป์ส่งกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิไปประจำการบนดินแดนของสหรัฐฯเอง หลังจากเคยส่งกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ 2,000 นาย ไปช่วยควบคุมการชุมนุมประท้วงและเหตุความไม่สงบที่เป็นผลจากการปราบปรามผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฏหมาย ที่เทศมณฑลลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

National Guards members deployed in California June 2025
กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิประจำการที่ลอสแอนเจลิส มิ.ย.68

ทรัมป์อ้างว่า ปัญหาอาชญากรรมในกรุงวอชิงตัน ดีซี ถือว่ารุนแรงและน่าเป็นห่วงจนหยุดไม่อยู่ แม้จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่าง ๆ ในกรุงวอชิงตัน ดีซี จะชี้ว่า สถิติอาชญากรรมรุนแรงในพื้นที่ลดลงต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีเพียงปี 2023 ที่คดีอาชญากรรมกระโดดพุ่งขึ้น ส่วนปีนี้ คดีอาชญากรรมรุนแรงลดลงถึงร้อยละ 26 เมื่อเทียบกับปี 2024 ที่ผ่านมา ถือว่าอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 30 ปี และที่แน่ ๆ คือต่ำที่สุดในรอบ 6 ปีหลัง หรือในช่วงท้ายของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรกของทรัมป์ด้วยซ้ำ


แม้จะไม่ได้หมายความว่า กรุงวอชิงตัน ดีซี ปลอดภัยจากคดีอาชญากรรมรุนแรง หรือน่ากลัวน้อยกว่าเมื่อเทียบกับเมืองอื่น ๆ แต่หมายความว่า สถานการณ์ต่าง ๆ เริ่มกลับมาเข้ารูปเข้ารอยและดีขึ้นมาก โดยที่ไม่มีต้องการหน่วยงานของรัฐบาลกลางมาแทรกแซง

รู้จักกฎหมาย Home Rule Act ปี 1973 และกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ

การที่ทรัมป์นำตำรวจของกรุงวอชิงตัน ดีซี มาอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลกลางนั้น อ้างอำนาจตามมาตรา 740 ของกฎหมาย Home Rule Act ปี 1973 ซึ่งเป็นกฎหมายเก่าแก่ที่จัดตั้งรัฐบาลท้องถิ่นของวอชิงตัน ดีซี อันเป็นเขตปกครองพิเศษที่ไม่ได้เป็นเหมือนรัฐทั้ง 50 รัฐที่อยู่ภายใต้รัฐบาลกลาง ที่ให้อำนาจปกครองตนเองในระดับหนึ่ง มาตรา 740 ดังกล่าว ให้อำนาจประธานาธิบดีสั่งให้นายกเทศมนตรีของเขต ซึ่งปัจจุบันคือนาง มิวเรียล บาวเซอร์ เป็นนายกเทศมนตรี ส่งมอบอำนาจควบคุมกรมตำรวจนครบาลชั่วคราว หากประธานาธิบดีเห็นว่ามี “สถานการณ์ฉุกเฉินพิเศษ” เกิดขึ้น อำนาจควบคุมฉุกเฉินนี้มีกำหนดสิ้นสุดภายในสูงสุด 30 วัน เว้นแต่สภาคองเกรสจะออกกฎหมายอนุญาตให้ขยายเวลาได้ ขณะที่ทรัมป์ประกาศว่า เขาตั้งใจที่จะขยายเวลาการเข้าควบคุมของรัฐบาลกลางตามมาตรา 740 ของกฎหมาย Home Rule Act ออกไปเกินกว่าช่วงเวลา 48 ชั่วโมงแรก และจะแจ้งให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องทราบอย่างเป็นทางการ เป็นไปได้ว่าอาจขยายเวลาได้สูงสุดถึง 30 วันตามที่กฎหมายกำหนด


Muriel Bowser Mayor of the District of Columbia
นายกเทศมนตรีวอชิงตัน ดีซี

ทรัมป์เคยขู่ที่จะออกคำสั่งนี้มาแล้วครั้งหนึ่งในปี 2020 ช่วงที่เกิดการเดินขบวนประท้วงของผู้คนทั่วสหรัฐฯ จากกรณี จอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำถูกตำรวจผิวขาวสังหารระหว่างควบคุมตัว แต่ก็ไม่ทันได้ออกคำสั่ง จนมาประสบความสำเร็จเอาในสมัยที่สองของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี และแสดงให้เห็นว่า ทรัมป์มองเห็นลู่ทางที่จะใช้ประโยชน์จาก “อำนาจประธานาธิบดีและอำนาจส่วนกลาง” เข้ามาจัดการสิ่งที่เขาเห็นว่า เป็น “ปัญหาความวุ่นวายในประเทศ”

Exterior of DC National Guard building
ที่ตั้งกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ วอชิงตัน ดีซี

อย่างกรณีสั่งการกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิลงพื้นที่ ทั้งในลอสแอนเจลิสเมื่อไม่กี่เดือนก่อน และในกรุงวอชิงตัน ดีซี รอบนี้ โดยปกติแล้ว กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิของแต่ละรัฐจะอยู่ภายใต้การบัญชาการของผู้ว่าการรัฐนั้น ๆ ยกเว้น กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิของกรุงวอชิงตัน ดีซี ที่ถูกโอนเข้าสังกัดรัฐบาลกลางจะอยู่ภายใต้การควบคุมของประธานาธิบดีโดยตรงเสมอ แม้ปกติแล้ว กฎหมายที่เรียกว่า Posse Comitatus Act ซึ่งห้ามไม่ให้ทหารภายใต้การบัญชาการของรัฐบาลกลาง รวมถึงกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิที่ถูกโอนสังกัดแล้ว ทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายในประเทศ

Members of National Guard walking 2
สมาชิกกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิเข้าที่ตั้งกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ วอชิงตัน ดีซี

อย่างไรก็ตาม ยังมีกฎหมายอีกฉบับหนึ่งที่เรียกว่า Insurrection Act ซึ่งมอบอำนาจให้ประธานาธิบดีสามารถใช้กองกำลังทหาร รวมถึงกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิที่ถูกโอนสังกัดแล้ว เข้าไปทำหน้าที่รักษากฎหมายในประเทศได้ หากประธานาธิบดีเห็นว่า มีความวุ่นวายหรือการกบฏที่ทำให้ไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้ตามปกติ

กฎหมายนี้เคยถูกใช้มาแล้วหลายครั้งในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ เช่น ในสมัยประธานาธิบดีดไวต์ ดี ไอเซนฮาวร์ ใช้กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิเพื่อบังคับใช้การเลิกการแบ่งแยกสีผิวในโรงเรียน ที่เมืองลิตเติลร็อก รัฐอาร์คันซอ ในปี 1957 และถูกใช้ครั้งล่าสุดในปี 1992 ในช่วงเหตุจลาจลที่ลอสแอนเจลิสหลังจากกรณีตำรวจทำร้ายร่างกาย ร็อดนีย์ คิง ชายผิวดำ

หลังสงครามเวียดนาม กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิถูกปฏิรูปผ่านนโยบาย Total Force ในปี 1973 ทำให้เป็นกำลังสำคัญของกองทัพสหรัฐฯ โดยเฉพาะหลังเหตุการณ์ 9/11 ที่ร้อยละ 40 ของทหารในอิรักและอัฟกานิสถานมาจากกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ อย่างไรก็ตาม การใช้กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิในประเทศ โดยเฉพาะการคุมประท้วง กลับสร้างความกังวล เนื่องจากกฎหมาย Posse Comitatus Act ห้ามทหารรัฐบาลกลาง รวมถึงกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิที่ถูกโอนจากรัฐ ทำหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย เว้นแต่จะใช้กฎหมาย Insurrection Act 1807 ซึ่งให้อำนาจประธานาธิบดีส่งทหารปราบจลาจลหรือกบฏ

USMC guards outside a building in LA in June 2025 blurred
นาวิกโยธินสหรัฐประจำการที่ลอสแอนเจลิส มิ.ย.68

หลายฝ่ายมองว่า สถานการณ์ความวุ่นวายทั้งการประท้วงในลอสแอนเจลิสเมื่อไม่กี่เดือนก่อน และปัญหาอาชญากรรมในกรุงวอชิงตัน ดีซี ยังห่างไกลจากสิ่งที่ทรัมป์อ้างว่าเป็นเหตุจลาจล หรือภัยคุกคามร้ายแรง ที่เจ้าหน้าที่หน่วยงานท้องถิ่นไม่อาจรับมือได้จนต้องมีกองกำลังจากรัฐบาลกลางมาดูแล

แน่นอนว่า ความเคลื่อนไหวของทรัมป์ทำให้ชาวอเมริกันจำนวนไม่น้อยไม่สบายใจอย่างยิ่ง เพราะคำสั่งของทรัมป์ไม่ได้มาจากการร้องขอของผู้ว่าการรัฐ ตำรวจในพื้นที่ หรือเป็นไปตามเสียงเรียกร้องของชาวอเมริกันทั่วไป แต่มาจากความต้องการส่วนตัวของทรัมป์ล้วน ๆ เป็นที่สังเกตด้วยว่า ตอนเกิดเหตุประท้วงใหญ่ในลอสแอนเจลิสเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทรัมป์ไม่เพียงสั่งกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิลงพื้นที่เท่านั้น แต่ยังสั่งให้ส่งนาวิกโยธินอีกกว่า 800 นายเข้าประจำการด้วย แม้ภารกิจหลักของนาวิกโยธินจะมีเพียงแค่ปกป้องและดูแลความปลอดภัยทรัพย์สินของรัฐบาลในพื้นที่ แต่มันก็สะท้อนภาพของการใช้กำลังทหารเข้าปราบปรามเหตุความวุ่นวาย แทนที่จะเป็นหน้าที่ของตำรวจท้องที่

Final Thoughts: ทรัมป์อาจไม่หยุดแค่ วอชิงตัน ดีซี?

เหนือสิ่งอื่นใด ความเคลื่อนไหวของทรัมป์รอบนี้ สะท้อนที่สิ่งที่เขาตั้งใจดำเนินการมาโดยตลอด เกี่ยวกับมาตรการปราบปรามปัญหาอาชญากรรมและสถานการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นทั่วอเมริกาที่เขามองว่า หลายต่อหลายครั้ง เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายท้องถิ่นไม่สามารถรับมือและดูแลให้เกิดความสงบเรียบร้อยได้ โดยเฉพาะพื้นที่ปกครองท้องถิ่นที่ฝ่ายพรรคเดโมแครตครอบครองตำแหน่งบริหารอยู่ ทรัมป์จึงเล็งเห็นการใช้กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิและเจ้าหน้าที่หน่วยอื่น ๆ จากส่วนกลาง เข้ามาจัดการแทน ดังจะเห็นได้จากการส่งกองกำลังไปควบคุมการประท้วงในลอสแอนเจลิส รวมถึงขู่ว่า จะทำเช่นเดียวกันนี้กับเมืองใหญ่อื่น ๆ อาทิ นิวยอร์ก และชิคาโก หากเขาเห็นว่าผู้นำท้องถิ่นอ่อนแอ ไม่สามารถจัดการปัญหาความวุ่นวายหรือความไม่สงบได้อย่างเป็นรูปธรรม

หลายฝ่ายยังมองว่า ทรัมป์พยายามจะสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายให้เกิดขึ้น เพื่อขยายการใช้อำนาจประธานาธิบดี โดยเฉพาะการใช้อำนาจในเมืองและพื้นที่ที่พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากอย่าง กรุงวอชิงตัน ดีซี ก็ถือว่าเป็นฐานเสียงของพรรคเดโมแครต การเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปีที่แล้ว มีผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งลงคะแนนเสียงให้ทรัมป์ แค่ 6% เท่านั้น ส่วนเมืองที่มีปัญหาก่อนหน้านี้อย่างลอสแอนเจลิสและเมืองอื่น ๆ ที่ทรัมป์เอ่ยชื่อว่าจะพุ่งเป้าจัดการ ทั้งนิวยอร์กและชิคาโก ก็ล้วนเป็นเขตอิทธิพลสำคัญของเดโมแครตเช่นกัน

คงเป็นอีกครั้ง ที่ชาวอเมริกันต้องเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนบนแผ่นดินอเมริกา จากอำนาจล้นเหลือของทรัมป์.-815-.สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สภาถกงบฯ 69 วันแรก “พิชัย” แจงหั่นงบ 8,920 ล้าน

รัฐสภา 13 ส.ค. – ที่ประชุมสภาฯ เริ่มถกงบฯ 69 วันแรกแล้ว “พิชัย” แจงรายงาน กมธ. เหตุหั่นงบ 8,920 ล้านบาท เพราะไม่สอดคล้องภาาวะปัจจุบัน-การเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย ในการประชุมสภาฯ เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท วาระสอง ซึ่งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาแล้วเสร็จเป็นวันแรก โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2569 ว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้พิจารณาร่างงบประมาณ 69 เรียบร้อยแล้ว โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ให้ความสำคัญกับการดำเนินภารกิจเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคแห่งชาติ เป้าหมายพัฒนาที่ยั่งยืน รวมทั้งแผนปฏิบัติราชการของกระทรวง โดยพิจารณาตามความจำเป็นและภารกิจของหน่วยรับงบประมาณ และแผนพัฒนาพื้นที่ตามความต้องการของประชาชน […]

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“มาริษ” เมินกัมพูชาร้องยูเอ็น เย้ยไม่มีการถกเรื่องนี้

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 13 ส.ค.- “มาริษ” เมินกัมพูชาร้องยูเอ็นอ้างไทยละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เย้ยไม่มีการถกเรื่องนี้ เชื่อยูเอ็นเข้าใจ เผยคุยมิตรประเทศ บอก พฤติกรรมเขมรวางทุ่นระเบิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เร่งประชุมร่วมรัฐภาคี-หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมเก็บหลักฐานให้คณะทำงานดูข้อมูลจริงจากพื้นที่ ขอช่วยผลักดันเขมรร่วมวงเก็บกู้ทุ่นระเบิด-ทำตามอนุสัญญาออตตาวา นายมาริษ เสงี่ยมพงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาส่งจดหมายร้องเลขาฯ UN และ UNSC อ้างไทยละเมิดอธิปไตยและข้อตกลงหยุดยิงว่า เป็นการกล่าวอ้าง ซึ่งตนยังไม่เห็นหลักฐานที่ชัดเจน ของกัมพูชาว่าเราละเมิดตรงไหน ในขณะที่ทางกัมพูชาเองใช้วิธีที่ไม่จริงใจต่อความพยายามในการแก้ไขปัญหา ตามกรอบข้อตกลงหยุดยิงที่ได้ทำร่วมกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการยั่วยุด้วยสงครามข่าวสาร ไม่ว่าจะเป็นการใช้ โอกาสในการมาฝังลูกระเบิดสังหารบุคคลในดินแดนของประเทศไทย ในขณะที่ประเทศไทยมีหลักฐานที่ชัดเจน ที่ชี้ให้เห็นว่ากัมพูชาไม่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาให้เป็นไปตามความตกลงหยุดยิงระหว่างกัน อย่างไรก็ตามการที่กัมพูชาส่งหนังสือไปถึงยูเอ็น ทางฝ่ายยูเอ็นก็ไม่ได้มีการเปิดประชุมเพื่อพิจารณาในเรื่องนี้ ในขณะเดียวกัน ไทยก็ได้มีหนังสือชี้แจง เลขาธิการสหประชาชาติไปในทุกโอกาส และทุกกรณีที่มีการขัดแย้งเกิดขึ้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวด้วยว่า ในเรื่องของอนุสัญญาออตตาวา ทางกระทรวงการต่างประเทศได้มีหนังสือผลักดันในเรื่องนี้ไปถึง ทูต ญี่ปุ่น ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก และเจนีวา ในฐานะที่เป็นประธานของรัฐภาคีอนุสัญญาออตาวา 3 ฉบับและอีกหนึ่งฉบับก็กำลังจะส่งตามไป เพื่อกดดันหรือผลักดันให้รัฐภาคี ดำเนินตามมาตรการ อนุสัญญาออตตาวาโดยเร็ว ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบขอข้อมูลหลักฐาน ที่ชัดเจนซึ่งตรงนี้รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศ และกองทัพได้ร่วมมือกันอย่างดี และสนับสนุน […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณอีสาน-ตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคอีสาน ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะบริเวณ จ.จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดจันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาว เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาว และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง […]