TNA News-Now-Next: เบื้องลึก-เบื้องหลังทรัมป์ส่งกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิไปวอชิงตัน ดีซี

Trump says 800 DC National Guard troops to be deployed in Washington, D.C. to quell crime

วอชิงตัน 13 ส.ค.-  ว่ากันว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ต้องการส่งกำลังทหารเข้าประจำการบนผืนแผ่นดินสหรัฐฯ มานานแล้ว เพียงแต่ที่ผ่านมา กำลังหาทางและโอกาสเหมาะ ๆ ที่จะทำเช่นนั้น


จนเมื่อวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา เขาได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความปลอดภัยสาธารณะ พร้อมสั่งประจำการกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ หรือ National Guard จำนวน 800 นายในกรุงวอชิงตัน ดีซี และควบคุมสำนักตำรวจของกรุงวอชิงตัน ดีซี ให้มาอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลกลาง อาศัยอำนาจตามกฏหมายปกครองตนเองของเขตปกครองโคลัมเบีย เพื่อต่อสู้กับสิ่งที่เขาเรียกว่าเป็น “คลื่นแห่งความไร้กฎหมาย” และว่าในตอนนี้ กรุงวอชิงตัน ดีซี กำลังถูกยึดครองโดย “กลุ่มอาชญากรที่ก่อความรุนแรงและกระหายเลือด” ถือเป็นอีกครั้ง ที่ทรัมป์ส่งกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิไปประจำการบนดินแดนของสหรัฐฯเอง หลังจากเคยส่งกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ 2,000 นาย ไปช่วยควบคุมการชุมนุมประท้วงและเหตุความไม่สงบที่เป็นผลจากการปราบปรามผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฏหมาย ที่เทศมณฑลลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

National Guards members deployed in California June 2025
กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิประจำการที่ลอสแอนเจลิส มิ.ย.68

ทรัมป์อ้างว่า ปัญหาอาชญากรรมในกรุงวอชิงตัน ดีซี ถือว่ารุนแรงและน่าเป็นห่วงจนหยุดไม่อยู่ แม้จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่าง ๆ ในกรุงวอชิงตัน ดีซี จะชี้ว่า สถิติอาชญากรรมรุนแรงในพื้นที่ลดลงต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีเพียงปี 2023 ที่คดีอาชญากรรมกระโดดพุ่งขึ้น ส่วนปีนี้ คดีอาชญากรรมรุนแรงลดลงถึงร้อยละ 26 เมื่อเทียบกับปี 2024 ที่ผ่านมา ถือว่าอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 30 ปี และที่แน่ ๆ คือต่ำที่สุดในรอบ 6 ปีหลัง หรือในช่วงท้ายของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรกของทรัมป์ด้วยซ้ำ


แม้จะไม่ได้หมายความว่า กรุงวอชิงตัน ดีซี ปลอดภัยจากคดีอาชญากรรมรุนแรง หรือน่ากลัวน้อยกว่าเมื่อเทียบกับเมืองอื่น ๆ แต่หมายความว่า สถานการณ์ต่าง ๆ เริ่มกลับมาเข้ารูปเข้ารอยและดีขึ้นมาก โดยที่ไม่มีต้องการหน่วยงานของรัฐบาลกลางมาแทรกแซง

รู้จักกฎหมาย Home Rule Act ปี 1973 และกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ

การที่ทรัมป์นำตำรวจของกรุงวอชิงตัน ดีซี มาอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลกลางนั้น อ้างอำนาจตามมาตรา 740 ของกฎหมาย Home Rule Act ปี 1973 ซึ่งเป็นกฎหมายเก่าแก่ที่จัดตั้งรัฐบาลท้องถิ่นของวอชิงตัน ดีซี อันเป็นเขตปกครองพิเศษที่ไม่ได้เป็นเหมือนรัฐทั้ง 50 รัฐที่อยู่ภายใต้รัฐบาลกลาง ที่ให้อำนาจปกครองตนเองในระดับหนึ่ง มาตรา 740 ดังกล่าว ให้อำนาจประธานาธิบดีสั่งให้นายกเทศมนตรีของเขต ซึ่งปัจจุบันคือนาง มิวเรียล บาวเซอร์ เป็นนายกเทศมนตรี ส่งมอบอำนาจควบคุมกรมตำรวจนครบาลชั่วคราว หากประธานาธิบดีเห็นว่ามี “สถานการณ์ฉุกเฉินพิเศษ” เกิดขึ้น อำนาจควบคุมฉุกเฉินนี้มีกำหนดสิ้นสุดภายในสูงสุด 30 วัน เว้นแต่สภาคองเกรสจะออกกฎหมายอนุญาตให้ขยายเวลาได้ ขณะที่ทรัมป์ประกาศว่า เขาตั้งใจที่จะขยายเวลาการเข้าควบคุมของรัฐบาลกลางตามมาตรา 740 ของกฎหมาย Home Rule Act ออกไปเกินกว่าช่วงเวลา 48 ชั่วโมงแรก และจะแจ้งให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องทราบอย่างเป็นทางการ เป็นไปได้ว่าอาจขยายเวลาได้สูงสุดถึง 30 วันตามที่กฎหมายกำหนด


Muriel Bowser Mayor of the District of Columbia
นายกเทศมนตรีวอชิงตัน ดีซี

ทรัมป์เคยขู่ที่จะออกคำสั่งนี้มาแล้วครั้งหนึ่งในปี 2020 ช่วงที่เกิดการเดินขบวนประท้วงของผู้คนทั่วสหรัฐฯ จากกรณี จอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำถูกตำรวจผิวขาวสังหารระหว่างควบคุมตัว แต่ก็ไม่ทันได้ออกคำสั่ง จนมาประสบความสำเร็จเอาในสมัยที่สองของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี และแสดงให้เห็นว่า ทรัมป์มองเห็นลู่ทางที่จะใช้ประโยชน์จาก “อำนาจประธานาธิบดีและอำนาจส่วนกลาง” เข้ามาจัดการสิ่งที่เขาเห็นว่า เป็น “ปัญหาความวุ่นวายในประเทศ”

Exterior of DC National Guard building
ที่ตั้งกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ วอชิงตัน ดีซี

อย่างกรณีสั่งการกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิลงพื้นที่ ทั้งในลอสแอนเจลิสเมื่อไม่กี่เดือนก่อน และในกรุงวอชิงตัน ดีซี รอบนี้ โดยปกติแล้ว กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิของแต่ละรัฐจะอยู่ภายใต้การบัญชาการของผู้ว่าการรัฐนั้น ๆ ยกเว้น กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิของกรุงวอชิงตัน ดีซี ที่ถูกโอนเข้าสังกัดรัฐบาลกลางจะอยู่ภายใต้การควบคุมของประธานาธิบดีโดยตรงเสมอ แม้ปกติแล้ว กฎหมายที่เรียกว่า Posse Comitatus Act ซึ่งห้ามไม่ให้ทหารภายใต้การบัญชาการของรัฐบาลกลาง รวมถึงกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิที่ถูกโอนสังกัดแล้ว ทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายในประเทศ

Members of National Guard walking 2
สมาชิกกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิเข้าที่ตั้งกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ วอชิงตัน ดีซี

อย่างไรก็ตาม ยังมีกฎหมายอีกฉบับหนึ่งที่เรียกว่า Insurrection Act ซึ่งมอบอำนาจให้ประธานาธิบดีสามารถใช้กองกำลังทหาร รวมถึงกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิที่ถูกโอนสังกัดแล้ว เข้าไปทำหน้าที่รักษากฎหมายในประเทศได้ หากประธานาธิบดีเห็นว่า มีความวุ่นวายหรือการกบฏที่ทำให้ไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้ตามปกติ

กฎหมายนี้เคยถูกใช้มาแล้วหลายครั้งในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ เช่น ในสมัยประธานาธิบดีดไวต์ ดี ไอเซนฮาวร์ ใช้กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิเพื่อบังคับใช้การเลิกการแบ่งแยกสีผิวในโรงเรียน ที่เมืองลิตเติลร็อก รัฐอาร์คันซอ ในปี 1957 และถูกใช้ครั้งล่าสุดในปี 1992 ในช่วงเหตุจลาจลที่ลอสแอนเจลิสหลังจากกรณีตำรวจทำร้ายร่างกาย ร็อดนีย์ คิง ชายผิวดำ

Rodney King signs on his books
รอดนีย์ คิง

หลังสงครามเวียดนาม กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิถูกปฏิรูปผ่านนโยบาย Total Force ในปี 1973 ทำให้เป็นกำลังสำคัญของกองทัพสหรัฐฯ โดยเฉพาะหลังเหตุการณ์ 9/11 ที่ร้อยละ 40 ของทหารในอิรักและอัฟกานิสถานมาจากกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ อย่างไรก็ตาม การใช้กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิในประเทศ โดยเฉพาะการคุมประท้วง กลับสร้างความกังวล เนื่องจากกฎหมาย Posse Comitatus Act ห้ามทหารรัฐบาลกลาง รวมถึงกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิที่ถูกโอนจากรัฐ ทำหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย เว้นแต่จะใช้กฎหมาย Insurrection Act 1807 ซึ่งให้อำนาจประธานาธิบดีส่งทหารปราบจลาจลหรือกบฏ

หลายฝ่ายมองว่า สถานการณ์ความวุ่นวายทั้งการประท้วงในลอสแอนเจลิสเมื่อไม่กี่เดือนก่อน และปัญหาอาชญากรรมในกรุงวอชิงตัน ดีซี ยังห่างไกลจากสิ่งที่ทรัมป์อ้างว่าเป็นเหตุจลาจล หรือภัยคุกคามร้ายแรง ที่เจ้าหน้าที่หน่วยงานท้องถิ่นไม่อาจรับมือได้จนต้องมีกองกำลังจากรัฐบาลกลางมาดูแล

USMC guards outside a building in LA in June 2025 blurred
นาวิกโยธินสหรัฐประจำการที่ลอสแอนเจลิส มิ.ย.68

แน่นอนว่า ความเคลื่อนไหวของทรัมป์ทำให้ชาวอเมริกันจำนวนไม่น้อยไม่สบายใจอย่างยิ่ง เพราะคำสั่งของทรัมป์ไม่ได้มาจากการร้องขอของผู้ว่าการรัฐ ตำรวจในพื้นที่ หรือเป็นไปตามเสียงเรียกร้องของชาวอเมริกันทั่วไป แต่มาจากความต้องการส่วนตัวของทรัมป์ล้วน ๆ เป็นที่สังเกตด้วยว่า ตอนเกิดเหตุประท้วงใหญ่ในลอสแอนเจลิสเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทรัมป์ไม่เพียงสั่งกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิลงพื้นที่เท่านั้น แต่ยังสั่งให้ส่งนาวิกโยธินอีกกว่า 800 นายเข้าประจำการด้วย แม้ภารกิจหลักของนาวิกโยธินจะมีเพียงแค่ปกป้องและดูแลความปลอดภัยทรัพย์สินของรัฐบาลในพื้นที่ แต่มันก็สะท้อนภาพของการใช้กำลังทหารเข้าปราบปรามเหตุความวุ่นวาย แทนที่จะเป็นหน้าที่ของตำรวจท้องที่

Final Thoughts: ทรัมป์อาจไม่หยุดแค่ วอชิงตัน ดีซี?

เหนือสิ่งอื่นใด ความเคลื่อนไหวของทรัมป์รอบนี้ สะท้อนที่สิ่งที่เขาตั้งใจดำเนินการมาโดยตลอด เกี่ยวกับมาตรการปราบปรามปัญหาอาชญากรรมและสถานการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นทั่วอเมริกาที่เขามองว่า หลายต่อหลายครั้ง เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายท้องถิ่นไม่สามารถรับมือและดูแลให้เกิดความสงบเรียบร้อยได้ โดยเฉพาะพื้นที่ปกครองท้องถิ่นที่ฝ่ายพรรคเดโมแครตครอบครองตำแหน่งบริหารอยู่ ทรัมป์จึงเล็งเห็นการใช้กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิและเจ้าหน้าที่หน่วยอื่น ๆ จากส่วนกลาง เข้ามาจัดการแทน ดังจะเห็นได้จากการส่งกองกำลังไปควบคุมการประท้วงในลอสแอนเจลิส รวมถึงขู่ว่า จะทำเช่นเดียวกันนี้กับเมืองใหญ่อื่น ๆ อาทิ นิวยอร์ก และชิคาโก หากเขาเห็นว่าผู้นำท้องถิ่นอ่อนแอ ไม่สามารถจัดการปัญหาความวุ่นวายหรือความไม่สงบได้อย่างเป็นรูปธรรม

หลายฝ่ายยังมองว่า ทรัมป์พยายามจะสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายให้เกิดขึ้น เพื่อขยายการใช้อำนาจประธานาธิบดี โดยเฉพาะการใช้อำนาจในเมืองและพื้นที่ที่พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากอย่าง กรุงวอชิงตัน ดีซี ก็ถือว่าเป็นฐานเสียงของพรรคเดโมแครต การเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปีที่แล้ว มีผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งลงคะแนนเสียงให้ทรัมป์ แค่ 6% เท่านั้น ส่วนเมืองที่มีปัญหาก่อนหน้านี้อย่างลอสแอนเจลิสและเมืองอื่น ๆ ที่ทรัมป์เอ่ยชื่อว่าจะพุ่งเป้าจัดการ ทั้งนิวยอร์กและชิคาโก ก็ล้วนเป็นเขตอิทธิพลสำคัญของเดโมแครตเช่นกัน

คงเป็นอีกครั้ง ที่ชาวอเมริกันต้องเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนบนแผ่นดินอเมริกา จากอำนาจล้นเหลือของทรัมป์.-815-.สำนักข่าวไทย

แหล่งข้อมูล
https://edition.cnn.com/2025/08/11/politics/washington-dc-troops-trump
https://www.aljazeera.com/news/2025/8/12/why-is-trump-sending-us-national-guard-to-washington-dc
https://www.nytimes.com/2025/08/11/us/politics/trump-military-washington.html

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. แต่งตั้งนายพล 250 ตำแหน่ง

1 ก.ย. – เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. บัญชีแต่งตั้งนายพลตำรวจ 250 ตำแหน่ง “บิ๊กเต่า” แห้ว “นพศิลป์” ได้ขึ้น พล.ต.ท. เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม 2568 ที่ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (รองประธาน ก.ตร.) เป็นประธานการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 8/2568 วาระแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ระดับผู้บังคับการ (ผบก.) ถึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ประจำปี 2568 โดยแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น และโยกย้ายสับเปลี่ยน กว่า 250 ตำแหน่ง ทั้งนี้ ก.ตร.ครบองค์ประชุม ขาดเพียงนายภูมิธรรม […]

“บิ๊กเต่า” ยอมรับมีอดีต ผอ.พศ.-ตลกดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทนอดีตพระอลงกต

กรุงเทพฯ 1 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” ยอมรับมีอดีต ผอ.พศ.-ตลกชื่อดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทน “อดีตพระอลงกต” ส่วน “สมปอง” ยังอยู่ในข่ายถูกดำเนินคดี แม้อ้างว่าเป็นการยืมเงินและคืนไปบางส่วนแล้ว ขณะที่วง “พิงค์แพนเตอร์” ประสานเข้าพบตำรวจเร็วๆ นี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนคดี “อลงกตการละคร” ระบุว่า คดีมีความคืบหน้าไปพอสมควร และมีตัวละครที่สามารถดำเนินคดีได้หลายคน แต่ตำรวจต้องการพยานหลักฐานมาประกอบข้อมูลตรงนี้ให้ชัดเจนมากขึ้นก่อน ซึ่งตอนนี้พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามทยอยเรียกสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องมากขึ้นเรื่อย ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบขยายผลเส้นทางการเงินและทรัพย์สิน โดยเฉพาะประเด็นที่มีคนใกล้ชิด อักษรย่อ นางสาว ว. ถือครองโฉนดที่ดินมูลค่ารวม 140 ล้านบาทนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่าตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบบุคคลเกี่ยวข้องทั้งหมด โดยในจำนวนนั้นยอมรับว่ามีอดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และตลกชื่อดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทน “อดีตพระอลงกต” ด้วย โดยทั้งคู่มีพฤติกรรมคล้ายๆ กัน คือ เข้าไปหาผลประโยชน์ และไม่ใช่เพียงผลประโยชน์จากเงินวัดก้อนเดียว แต่หาผลประโยชน์จากกลุ่มเครือข่ายด้วย ซึ่งมีมูลค่าเงินจำนวนมาก และทางอดีตพระอลงกต ก็มองว่าตนเองถูกรังแก ถูกโกงเงินไป ทั้งเรื่องคอนเสิร์ต เรื่องที่ดิน และถือครองทรัพย์สินแทน […]

พรรคกล้าธรรม ออกแถลงการณ์โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ

พรรคกล้าธรรม 30 ส.ค.-พรรคกล้าธรรม ออกแถลงการณ์ โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ ชี้ปล่อยให้ประเทศเกิดสุญญากาศไม่ได้ เผยภูมิใจไทยรับข้อเสนอ แก้ กม.ต้องไม่กระทบสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อเวลา 15.55 น. พรรคกล้าธรรม (กธ.) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากความเป็นนายกรัฐมนตรี จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งทำให้คณะรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ และจะต้องมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ต่อไปว่า คณะกรรมการบริหารพรรค ร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ได้ร่วมกันพิจารณารับฟังความคิดเห็นของสมาชิกพรรคทุกท่าน เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินการของพรรค รวมถึงพิจารณาข้อเสนอของพรรคภูมิใจไทย โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า พรรคกล้าธรรม จะลงมติในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สนับสนุนให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 เนื่องด้วยสถานการณ์ของประเทศไทยขณะนี้ จำเป็นที่จะต้องมีฝ่ายบริหารมาขับเคลื่อนและแก้ปัญหาให้กับประชาชนในทุกด้าน ทั้ง ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ ปัญหาเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศ ปัญหาสังคมด้านต่าง ๆ อย่างเร่งด่วน โดยไม่สามารถประวิงเวลาไปได้อีก พรรคกล้าธรรม ได้แสดงจุดยืนของพรรคให้กับพรรคภูมิใจไทยทราบ คือ 1.พรรคกล้าธรรม ยึดถือ […]

“เดชอิศม์” ปิดประตูจับมือ “ภูมิใจไทย” ตั้งรัฐบาล

พรรคประชาธิปัตย์ 31 ส.ค.- “เดชอิศม์” ปิดประตูจับมือ “ภูมิใจไทย” ตั้งรัฐบาล กร้าว ถ้าหนุนก็ไม่เหลือความเป็นคน บอก รัฐประหาร 100 ครั้ง ก็ไม่เลวร้ายเท่าฮั้ว สว. ยกอำนาจให้คนเดียวชี้ขาดประเทศ ย้ำคดีเขากระโดง ต้องเอาผิดให้เด็ดขาด บอก 2-3 เดือน ก็ยุบสภาได้ ไม่ต้องรอ 4 เดือน นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุภายหลังการเจรจากับพรรคประชาชน ที่พรรคร่วมรัฐบาลรับเงื่อนไขทั้งหมดของพรรคประชาชน ว่า จริงๆ เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย กับพรรคประชาชน ตนไปเป็นเพื่อนเขา ส่วนประเด็นเป็นเรื่องของทั้งสองพรรคต้องคุยกัน เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้รับเงื่อนไขทั้งหมดใช่หรือไม่ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ปฏิบัติตามเงื่อนไขของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด ส่วนจะนำข้อหารือระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชน เข้าสู่ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ด้วยหรือไม่ นายเดชอิศม์ ยอมรับว่า อาจอยู่ในวาระอื่นๆ เนื่องจากมีวาระสำคัญอยู่แล้ว เมื่อถามว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับข้อเสนอของพรรคประชาชนและและข้อเสนอเพิ่มเติมของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายเดชอิศม์ ยืนยันว่า […]

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมย่านการค้า อ.หล่มสัก ลดลงต่อเนื่อง สัญจรได้แล้ว

2 ก.ย. – น้ำท่วมย่านการค้าในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ลดลงต่อเนื่อง ถนนหลายสายรถสัญจรได้แล้ว ขณะที่ จ.พิษณุโลก น้ำทะลักกัดเซาะถนนขาด ไหลท่วมบ้านเรือน ส่วน จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าหลาก-ดินโคลนถล่ม เสียชีวิต 1 ราย ระดับน้ำที่ท่วมบ้านเรือน ร้านค้าตามชุมชน และย่านการค้าในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ลดลง จากที่เคยท่วมสูงเกือบ 1 เมตร ลดเหลือ 20-30 เซนติเมตร รวมทั้งบริเวณแยกหอนาฬิกา ซึ่งน้ำท่วมลดลงแต่ยังมีน้ำไหลผ่านอยู่บ้าง และมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ถนนหลายสายรถยนต์สามารถสัญจรไปมาได้แล้ว แต่ถนนบางสายยังปิดการจราจร ป้องกันรถที่วิ่งผ่านทำให้น้ำทะลักเข้าร้านค้า เจ้าของร้านค้าบางส่วนเริ่มสำรวจความเสียหายของข้าวของเครื่องใช้ รวมทั้งสินค้าต่างๆ ที่ถูกน้ำท่วม หลังแม่น้ำป่าสักที่ไหลผ่าน อ.หล่มสัก ลดลงต่ำกว่าพนังกั้นน้ำราวครึ่งเมตรแล้ว หากไม่มีฝนตกหรือมวลน้ำทางตอนเหนือเติมลงมา คาดว่าน้ำที่ท่วมในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก รวมทั้งบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรใน ต.ตาลเดี่ยว ที่อยู่ทางตอนใต้ จะลดลงเรื่อยๆ และเข้าสู่ภาวะปกติในเร็วๆ นี้ น้ำทะลักตัดถนนขาด ไหลท่วมบ้านเรือนที่ จ.พิษณุโลก น้ำจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ที่หลากลงคลองเนินกุ่ม กัดเซาะถนนบ้านเหนือ ต.เนินกุ่ม […]

ปชน.เสียงแตก! โยน กก.บห.ชี้ขาด 3 ก.ย. โหวตใครนั่งนายกฯ

พรรคประชาชน 2 ก.ย. – ปชน.เสียงแตก! นัด 3 ก.ย. ให้ กก.บห.ชี้ขาด ดัน “อนุทิน” หรือไม่ โหวตเลือกใคร “ปกรณ์วุฒิ” ออกโรงสยบ ยันยังไม่มีมติวันนี้ เป็นเพียงขั้นตอนฟังความเห็น แจงไม่ได้เปลี่ยนตัว “เท้ง” แถลง แต่เพราะเจ้าตัวอยากคุย สส.ต่อ “ไอติม” จี้ “เพื่อไทย” รีบยุบสภา นาฬิกาเดินอยู่ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) และนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน ลงมาให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม สส.ของพรรค ถึงทิศทางการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยนายปกรณ์วุฒิ กล่าวยืนยันว่า วันนี้ไม่มีมติ เป็นการรับฟังความเห็น สส. ฟังทุกองคาพยพของพรรค ล่าสุดวานนี้พรรคส่งข้อความให้สมาชิกพรรคทั่วประเทศราว 1 แสนคน ให้ความเห็นต่อการเลือกนายกฯ ณ ตอนนี้มีสมาชิกจำนวนมากให้ความเห็นมาแล้ว ในการประชุมวันนี้ เนื่องจากเมื่อวานมี […]

เพื่อไทยดันเต็มที่ “ชัยเกษม” แคนดิเดตนายกฯ คนสุดท้าย

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ขอบคุณ สส. เพื่อไทย ที่ยังอยู่กับพรรค พร้อมให้กำลังใจ บอกการต่อสู้ตั้งรัฐบาลยังเดินหน้าต่อ ด้านโฆษก เผยที่ประชุม ดัน “ชัยเกษม” แคนดิเดตนายกฯ คนสุดท้ายเต็มที่ ไม่มียกมือหนุนคนอื่น การประชุม สส. ประจำสัปดาห์ของพรรคเพื่อไทย วันนี้ (2 ก.ย.) โดยมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เข้าร่วมประชุมกับ สส. พรรคด้วย ซึ่งในครั้งนี้มีนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย มาร่วมประชุมด้วย ภายหลังใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า วันนี้มีสมาชิกเข้าร่วมประชุมเยอะมาก ซึ่งสัปดาห์นี้จะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (สส.) 3 วัน ซึ่งวันในวันพุธที่ 3 ก.ย. จะประชุมพิจารณากฎหมายร่วมกัน ส่วนวันพฤหัสบดีที่ 4 ก.ย. จะเป็นการรายงานหน่วยงานต่าง ๆ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]