“อิวานา” ภรรยาคนแรกของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ถึงแก่กรรม

วอชิงตัน 15 ก.ค. – อิวานา ทรัมป์ ภรรยาคนแรกของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งมีส่วนช่วยนายทรัมป์ในการสร้างอาณาจักร์อธุรกิจสังหาริมทรัพย์ รวมถึง ทรัมป์ ทาวเวอร์ ในนครนิวยอร์ค ถึงแก่กรรมแล้วเมื่อวานนี้ ขณะอายุได้ 73 ปี


อิวานา ทรัมป์ ภรรยาคนแรกของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ

นายทรัมป์ แถลงเรื่องนี้ผ่านแพลทฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ “ทรูธ โซเชียล” ว่า เขาเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ต้องแจ้งให้ทราบว่า อิวานา เสียชีวิตแล้วที่บ้านพักของเธอในนครนิวยอร์ค ของสหรัฐ ทั้งสองแต่งงานกันในปี 1977 และหย่าขาดจากกันในปี 1992 โดยมีลูกด้วยกัน 3 คน คือ โดนัลด์ จูเนียร์ อิวานกา และ เอริก อีวานา โดย อิวานา เติบโตในประเทศเช็กโกสโลวาเกีย ที่ปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ในสหรัฐ ทั้งนี้นายทรัมป์ และครอบครัว ไม่ได้ระบุถึงสาเหตุการเสียชีวิตของอิวานา แต่โฆษกตำรวจกล่าวว่า เธอถูกพบเสียชีวิตบริเวณบันไดภายในอพาร์ทเมนท์ของเธอ หนังสือพิมพ์นิวยอร์คไทมส์ รายงานอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายที่ระบุว่า ดูเหมือนจะเป็นอุบัติเหตุ เธออาจจะตกบันใดเสียชีวิต อิวานา มีชื่อเดิมว่า อิวานา มารี เซลนิกโควา เกิดที่เมืองในอดีตประเทศเช็กโกสโลวาเกีย ที่ปัจจุบันนี้คือสาธารณรัฐเช็ก เธอเป็นนักกีฬาทีมชาติในการแข่งขันสกี ก่อนจะมาเป็นนางแบบ ต่อมาเธอมาเดินแบบในสหรัฐในปี 1976 และพบกับนายทรัมป์ และแต่งงานกันในอีก 9 เดือนถัดมา เธอมีบทบาทสำคัญในการสร้างอาณาจักรธุรกิจของนายทรัมป์ จนประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะการพัฒนาโครงการทรัมป์ ทาวเวอร์ ซึ่งเป็นอาคารที่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญในนครนิวยอร์ค หลังจากหย่ากันแล้ว อิวานกา ยังคงให้การสนับสนุนนายทรัมป์ และยังติดต่อกันสม่ำเสมอ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย