20 มี.ค. – รัสเซียยังโหมโจมตียูเครนในหลายแนวรบ โดยเฉพาะเมืองมาริอูโปล เมืองยุทธศาสตร์ทางตะวันออก และเมืองมิโคไลอีฟ ทางตอนใต้ และตรึงกำลังล้อมกรอบกรุงเคียฟ ผู้นำยูเครนระบุการที่รัสเซียเข้ายึดเมืองมาริอูโปล เป็นความน่ากลัวที่จะถูกจดจำไปชั่วลูกชั่วหลานอีกหลายร้อยปี
สถานการณ์การสู้รบในยูเครน เมื่อปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครนเข้าสู่วันที่ 25 โดยการสู้รบตลอดวันที่ผ่านมา รัสเซียเน้นไปที่การโจมตีเมืองมาริอูโปล เมืองท่าสำคัญทางตะวันออก
นายกเทศมนตรีเมืองมาริอูโปลเผยว่า มีการยิงต่อสู้กันอย่างดุเดือดของทหารรัสเซียกับยูเครน บริเวณใจกลางเมือง โรงเรียนแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่หลบภัยของชาวบ้านกว่า 400 คน ถูกโจมตีเสียหาย ยังไม่ทราบชะตากรรมของผู้หลบภัย การสู้รบยังเป็นอุปสรรคต่อปฏิบัติการค้นหาช่วยเหลือผู้อาจยังติดอยู่ใต้ซากชั้นใต้ดินอาคารโรงละครที่ถูกรัสเซียยิงจรวดโจมตีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
สภาท้องถิ่นของเมืองมาริอูโปลเผยด้วยว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวเมืองมาริอูโปลหลายพันคนถูกส่งตัวไปยังดินแดนของรัสเซีย ส่วนสำนักข่าวหลายสำนักของรัสเซียรายงานว่า รถบัสหลายคันนำตัวประชาชนที่รัสเซียเรียกว่าผู้อพยพออกจากเมืองท่าทางยุทธศาสตร์ริมฝั่งทะเลอะซอฟ ไปยังรัสเซีย
ทั้งนี้ ประชาชนราว 400,000 คน ติดค้างอยู่ในเมืองมาริอูโปลมาเป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์ ต้องหลบภัยจากการทิ้งระเบิดโจมตีอย่างหนักจากกองทัพรัสเซียที่ทำให้ไฟฟ้า เครื่องทำความร้อน และน้ำประปา ถูกตัดขาด
ส่วนเมืองมิโคไลอีฟ ทางภาคใต้ รัสเซียเปิดฉากโจมตีทางอากาศตลอดทั้งวัน หลังจากเพิ่งโจมตีฐานทัพของยูเครนในเมืองมิโคไลอีฟ ซึ่งมีรายงานว่ามีทหารยูเครนกำลังนอนพักผ่อนจากการสู้รบราว 200 นาย พบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 50 คน แต่ไม่มีรายละเอียดแน่ชัดว่าเป็นทหารกี่นาย หรือพลเรือนเสียชีวิตด้วยหรือไม่ ขณะที่ทหารยูเครนในเมืองมิโคไลอีฟพยายามต้านทหารรัสเซียไม่ให้รุกคืบเข้าดินแดนฝั่งตะวันตก ตามแนวชายฝั่งทะเลดำของยูเครนได้โดยง่าย
ด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซีย เผยว่ากองทัพรัสเซียยิงขีปนาวุธร่อนคาลิเบอร์ ที่ยิงจากเรือรบที่อยู่ในทะลดำและทะเลแคสเปียน โจมตีโรงงานในเมืองนีซินของยูเครน ที่เป็นสถานที่ซ่อมยานยนต์หุ้มเกราะที่ได้รับความเสียหายจากการสู้รบ นอกจากนั้นยังปล่อยขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง หรือไฮเปอร์โซนิก ทำลายคลังเก็บน้ำมันที่ใช้ในกองทัพยูเครนได้ และยังโจมศูนย์เตรียมการด้านกองทัพ ซึ่งเป็นฐานที่ตั้งของกองกำลังต่างชาติที่เดินทางมาช่วยยูเครนรบกับรัสเซียด้วย
สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอชซีอาร์ เผยข้อมูลรวบรวมจนถึงวันศุกร์ที่ผ่านมา พบมีพลเรือนเสียชีวิตจากการสู้รบในยูเครน 847คน รวมทั้งเด็ก 64 คน มีผู้อพยพหนีภัยสงครามออกจากยูเครนนับตั้งแต่กองกำลังรัสเซียเปิดฉากบุกรุกรานเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แล้วมากกว่า 3.3 ล้านคน ขณะที่คาดว่าอีกเกือบ 6.5 ล้านคน กลายเป็นผู้พลัดถิ่นอยู่ในยูเครน
ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี้ ของยูเครน กล่าวปราศรัยออกอากาศในช่วงดึกคืนวันเสาร์ว่า การยึดเมืองมาริอูโปลของรัสเซียจะถูกจากรึกในประวัติศาสตร์ว่าเป็นการกระทำที่เป็นอาชญากรรมสงคราม การกระทำต่อเมืองที่สงบสุขแห่งนี้ เป็นความน่ากลัวที่จะถูกจดจำและกล่าวขานไปชั่วลูกชั่วหลานเป็นเวลาหลายศตวรรษต่อจากนี้ไป
อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่าการเจรจาสันติภาพกับรัสเซียยังถือว่ามีความจำเป็นแม้ว่าจะไม่ง่าย ขณะเดียวกันผู้นำยูเครนยังเรียกร้องให้ธนาคารในสวิตเซอร์แลนด์อายัดทรัพย์สินของมหาเศรษฐีรัสเซียที่ทรงอิทธิพลทางการเมือง โดยกล่าวหาว่าพวกเขามีส่วนช่วยก่อสงคราม และยังตำหนิธุรกิจต่างๆ ของสวิตเซอร์แลนด์ที่ยังดำเนินกิจการในรัสเซีย ผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ด้วย แต่บริษัทยืนยันว่าปฏิบัติตามมาตรการคว่ำบาตรทุกอย่าง รวมถึงหยุดนำเข้าและส่งออกอาหารที่ไม่จำเป็นต่อรัสเซีย
ด้านนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย เผยว่า รัฐบาลรัสเซียคาดหวังว่าปฏิบัติการทางทหารในยูเครนจะยุติลงด้วยการลงนามข้อตกลงที่ครอบคลุมในเรื่องความมั่นคง รวมทั้งสถานะความเป็นกลางของยูเครน และการแก้ไขกฎหมายด้านต่างๆ รวมทั้งการศึกษาเพื่อเอื้อต่อประชาชนที่พูดภาษารัสเซียในยูเครน
นายลาฟรอฟยังระบุถึงความสัมพันธ์ของรัสเซียกับจีนในสถานการณ์ปัจจุบันว่า มีแต่กระชับแน่นแฟ้นมากขึ้น หลังสหรัฐพยายามกดดันจีนไม่ให้การสนับสนุนด้านอาวุธและเศรษฐกิจกับรัสเซีย ซึ่งถูกนานาชาติคว่ำบาตร เพื่อกดดันให้ยุติการบุกโจมตียูเครน โดยฝ่ายจีนยืนยันสนับสนุนแนวทางสันติยุติปัญหาขัดแย้ง.-สำนักข่าวไทย