สหรัฐ 23 ม.ค.-ทันทีที่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ทำตามสัญญาที่ได้ประกาศไว้ ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง จนชนะใจชาวอเมริกัน ส่วนใหญ่ในประเทศนั่นคือการทบทวน ข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ หรือนาฟต้า ที่ได้ลงนามร่วมกับแคนาดาและเม็กซิโกเสียใหม่ หลังเขายืนกรานมาโดยตลอดว่า ข้อตกลงฉบับนี้เลวร้ายที่สุดส่งผลให้คนอเมริกันต้องตกงานจำนวนมาก
ทรัมป์ กล่าวตั้งแต่หลังพิธีสาบานตน รับตำแหน่งเมื่อปลายสัปดาห์ก่อนว่างานสำคัญอันดับแรกของเขา คือการเตรียมการเจรจาครั้งใหม่ กับผู้นำแคนาดาและเม็กซิโก เพื่อรื้อข้อตกลงนาฟต้าและยังจะมีการคุยกัน เรื่องมาตรการควบคุมพรมแดนการบริหารจัดการผู้อพยพ ซึ่งเป็นหนึ่งในวาระแห่งชาติที่เขาพูดบ่อยๆในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ย้ำว่าการเจรจานาฟต้ารอบใหม่จะเป็นการเจรจา เพื่อรักษาผลประโยชน์ในระดับไตรภาคี
โดยก่อนหน้านั้น เขาได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีเอ็นริเก้ เปญา เนียโต้ ผู้นำเม็กซิโก กับนายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด ผู้นำแคนาดา โดยผู้นำเม็กซิโก มีกำหนดเดินทางเยือนกรุงวอชิงตันอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 มกราคมนี้ ขณะที่ในส่วนของนายทรูโด แม้ยังไม่มีกำหนดการแน่ชัดในตอนนี้ แต่รัฐบาลแคนาดายืนยันว่า จะเยือนสหรัฐในอนาคตอันใกล้นี้ ทั้งนี้ข้อตกลงการค้านาฟต้าที่ เป็นการลงนามระหว่างสหรัฐ แคนาดา และเม็กซิโก มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2537 ซึ่งผู้นำสหรัฐในเวลานั้นคือประธานาธิบดีบิล คลินตัน มีเป้าหมายสำคัญคือการกำหนดเขตตลาดเดียวสำหรับ 3 ประเทศ
อย่างไรก็ตามข้อตกลงดังกล่าวจุดประเด็นให้เป็นที่วิจารณ์อย่างหนัก ในสหรัฐตลอดมาว่าส่งผลดีกับสหรัฐจริงหรือไม่ โดยนายทรัมป์มองว่านาฟต้า ส่งผลให้เกิด การหลั่งไหลของแรงงานอเมริกันจำนวนมหาศาลออกนอกประเทศ และสหรัฐเสียเปรียบการค้าให้กับแคนาดา และเม็กซิโกมากกว่า ส่วนข้อตกลงความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์แปซิฟิก หรือTPP ที่นายทรัมป์ประกาศจะฉีกทิ้งตั้งแต่ยังไม่ก่อตัวขึ้น เป็นรูปเป็นร่าง ซึ่งสร้างความหวาดหวั่นให้ประเทศญี่ปุ่นและอีกหลายชาติในเอเชีย ที่สนับสนุนและต้องการเข้าร่วม TPP
โดยมีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น เตรียมเดินทางไปพบหารือเรื่องนี้กับนายทรัมป์ ที่กรุงวอชิงตัน รวมถึงพูดคุยประเด็นอื่นๆ ที่นายทรัมป์เคยประกาศนโยบายจะทอดทิ้งพันธมิตรเก่าในเอเชียอย่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ โดยคาดว่านายอาเบะจะเป็นผู้นำเอเชียคนแรกที่ได้พบหารือกับนายทรัมป์ เหมือนเมื่อครั้งที่เขาได้พบกับนายทรัมป์ อย่างไม่เป็นทางการมาแล้วครั้งหนึ่ง ที่นครนิวยอร์ก หลังทรัมป์ชนะเลือกตั้งใหม่ๆ ขณะที่นายกรัฐมนตรีหญิงอังกฤษ นางเทเรซ่า เมย์ ก็มีกำหนดเข้าพบหารือกับนายทรัมป์เรื่องเบร็กซิทในเร็วๆนี้เช่นกัน .-สำนักข่าวไทย