เนปิดอว์ 23 พ.ย.-รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติที่เป็นรัฐบาลเงาของเมียนมาและจัดตั้งขึ้นโดยกลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา เผยวันนี้ว่า สามารถระดมเงินได้สูงถึง 6.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (208 ล้านบาท) ในวันแรกของการเปิดขายพันธบัตรเป็นครั้งแรก ซึ่งถือเป็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่เพื่อหาเงินทุนในการต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา
รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ ซึ่งเกิดขึ้นจากการวมตัวกันของกลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตย กองกำลังกลุ่มชาติพันธ์ในเมียนมา และกลุ่มรัฐบาลพลเรือนที่ถูกยึดอำนาจ ระบุว่า ได้เปิดขายพันธบัตรมูลค่าหน่วยละ 100 ดอลลาร์สหรัฐ (3,300 บาท) 500 ดอลลาร์สหรัฐ (16,500 บาท) 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ (33,000 บาท) และ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ (165,000 บาท) ให้แก่ชาวเมียนมาส่วนใหญ่ที่อยู่ในต่างประเทศเมื่อวันจันทร์ โดยมีอายุ 2 ปี แม้พันธบัตรดังกล่าวจะไม่มีดอกเบี้ยให้แก่ผู้ซื้อ แต่ก็ทำยอดขายได้สูงถึง 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (99 ล้านบาท) ภายใน 3 ชั่วโมงแรก และเพิ่มขึ้นเป็น 6.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปิดการขายในวันแรก ทั้งนี้ รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติตั้งเป้าระดมเงินทุนให้ได้ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (33,000 ล้านบาท) แต่ไม่ได้เปิดเผยว่าจะนำเงินดังกล่าวไปใช้อย่างไร
ชาวเมียนมาไม่เผยนาม วัย 27 ปี เผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า เธอตัดสินใจซื้อพันธบัตรหน่วยละ 500 ดอลลาร์สหรัฐ โดยไม่คิดว่าจะได้เงินคืนแม้ครบกำหนด 2 ปี เธอมองว่าชาวเมียนมาช่วยกันซื้อพันธบัตรดังกล่าว เพราะต้องการมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงประเทศ ขณะที่โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมายังไม่ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ในทันที ก่อนหน้านี้ รัฐบาลทหารเมียนมาเคยระบุว่า รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายและเป็นกลุ่มก่อการร้าย.-สำนักข่าวไทย