สหรัฐ 13 ธ.ค.-ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีคนใหม่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มสั่นสะเทือนหลังกระทรวงต่างประเทศจีน แสดงความกังวลอย่างมากต่อมุมมองด้านลบของนายทรัมป์ต่อนโยบายจีนเดียว ที่จีนยึดมั่นมาตลอดว่าไต้หวันเป็นเพียงจังหวัดหนึ่งของจีน โดยจีนเตือนสหรัฐว่าความสัมพันธ์ระหว่าง 2 อภิมหาอำนาจโลกอาจถึงขั้นยุติ หากนายทรัมป์ละทิ้งหลักการดังกล่าว
ก่อนหน้านั้น นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนกล่าวถึงท่าที ของนายทรัมป์ ต่อนโยบายจีนเดียวว่าเป็นความเคลื่อนไหว ที่รัฐบาลจีน จับตาอย่างใกล้ชิด ก่อนหน้านั้นนายทรัมป์ ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์ว่า เขารู้ดีว่าสหรัฐยึดมั่นนโยบายจีนเดียวมาตลอด 37 ปี ที่ผ่านมา แต่เขาไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดจึงต้องยึดถือหลักการนี้มากมายถึงเพียงนั้น ทั้งๆที่มีมิติของความร่วมมืออื่นๆอีกมากมาย ที่ควรให้ ความสำคัญมากกว่า
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า นายทรัมป์ได้เลื่อนการจัดแถลงข่าว เรื่องแผนการวางมือจากอาณาจักรธุรกิจของเขาออกไปจากวันพฤหัสที่ 15 ธค.นี้ ไปเป็นเดือนมกราคมปีหน้า ก่อนหน้านั้นทรัมป์ประกาศว่า เขาจะแถลงรายละเอียดเรื่องแผนการวางมือจากธุรกิจที่มีอยู่ทั่วโลก เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาความขัดแย้งด้านผลประโยชน์ หลังขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายกล่าวว่า การขายหุ้นที่ทรัมป์ถืออยู่ในบริษัททั่วโลก เป็นหนทางเดียวที่จะทำให้นายทรัมป์ หลีกเลี่ยงความขัดแย้งด้านผลประโยชน์ได้ ส่วน ทรัมป์ออร์แกไนเซชั่น ซึ่งเป็นบริษัทของทรัมป์ ประกาศหลังจากทรัมป์ชนะเลือกตั้งว่ากำลังปรับโครงสร้างทางธุรกิจ เพื่อโอนอำนาจบริหารไปยังลูกๆทั้ง 3 คนของทรัมป์ คือโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์, อีวังก้า ทรัมป์ และเอริค ทรัมป์.-สำนักข่าวไทย