ความตึงเครียดทางการทูตระหว่างสหรัฐและเม็กซิโกทวีความรุนแรง

วอชิงตัน 27 ม.ค. – ความบาดหมางทางการทูตระหว่างสหรัฐและเม็กซิโกเริ่มขยายวงกว้างมากขึ้นเมื่อวานนี้ เมื่อรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐเสนอเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกเพื่อนำเงินมาสนับสนุนการสร้างกำแพงระหว่างสองประเทศในขณะที่ประธานาธิบดีเม็กซิโกยกเลิกการเดินทางเยือนสหรัฐ

ประธานาธิบดีทรัมป์มีกำหนดจะต้อนรับประธานาธิบดีเอนรีเก เปญา เนียโตของเม็กซิโก ที่ทำเนียบขาวในวันอังคารหน้า แต่ประธาธิบดีทรัมป์ทวีตข้อความในทวิตเตอร์ของเขาเมื่อตอนเช้าวันพฤหัสบดีว่า หากเม็กซิโก ไม่ประสงค์จะจ่ายค่าก่อสร้างกำแพงกั้นระหว่างสหรัฐและเม็กซิโก ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งแล้ว ก็น่าจะยกเลิกแผนการเดินทางมาเยือนสหรัฐของเม็กซิโก ในขณะที่ทางด้านเประธานาธิบดีเปญา เนียโต ที่กำลังโดนกดดันจากในประทเศให้ยกเลิกการเยือนสหรัฐ ก็ทวีตข้อความในเวลาต่อมาว่า เขาได้แจ้งกับทางทำเนียบขาวแล้วว่า จะไม่เดินทางเข้าร่วมการหารือกับประธานาธิบดีสหรัฐในสัปดาห์หน้า ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์ได้กล่าวหลังจากนั้นว่า การยกเลิกการเยือนเป็นการเห็นพ้องต้องกันของทั้งสองฝ่าย ทางโฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า การติดต่อระหว่างสองประเทศยังคงดำเนินต่อไปไม่เปลี่ยนแปลงและหวังว่าจะมีกำหนดการเยือนในอนาคตต่อไป ก่อนหน้านี้ ทางทำเนียบขาวนำเสนอที่จะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกร้อยละ 20 เพื่อนำเงินมาใช้ในการก่อสร้างกำแพง แต่แถลงย้ำในเวลาต่อมาว่า เป็นเพียงแค่แนวคิดหนึ่งในหลาย ๆ แนวทางท่านั้น.-สำนักข่าวไทย