สหรัฐ 30 ม.ค.-ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ไม่สนเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั้งจากผู้ประท้วงในประเทศและนานาชาติ กรณีลงนามคำสั่งห้ามชาวมุสลิมจาก 7 ชาติเข้าประเทศ ระบุต้องคัดกรองเข้มงวดเพื่อให้สหรัฐปลอดภัยจากการก่อการร้าย
หลังประธานาธิบดีทรัมป์ของลงนามคำสั่งฝ่ายบริหาร ห้ามผู้ลี้ภัยชาวซีเรียเข้าสหรัฐจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ให้ระงับโครงการด้านผู้ลี้ภัยนาน 120 วัน และห้ามพลเมืองจาก 7 ประเทศมุสลิม รวมทั้งอิรักและอิหร่านเข้าสหรัฐชั่วคราวนาน 90 วัน อ้างเพื่อป้องกันพวกก่อการร้ายเข้าสหรัฐ จนเกิดความวุ่นวาย มีการประท้วงต่อต้านขึ้นในสนามบินหลายแห่งทั่วสหรัฐ ผู้คนจำนวนมากทั้งถูกกักตัวแม้โดยสารเครื่องบินมาถึงสหรัฐแล้ว และมีเอกสารถูกต้องทั้งวีซ่าและใบอนุญาตของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อีกทั้งยังมีผู้ถูกห้ามขึ้นเครื่องบินเข้าสหรัฐจากสนามบินในหลายประเทศทั่วโลก ทำให้ผู้เดือดร้อนยื่นฟ้องศาลสหรัฐ กระทั่งมีคำตัดสินฉุกเฉินคุ้มครองและให้ระงับการเนรเทศผู้ถือวีซ่าถูกต้องชั่วคราว
ล่าสุดนายทรัมป์ทวีตข้อความในทวิตเตอร์ยืนยันสหรัฐจำเป็นต้องมีมาตรการตรวจสอบที่เข้มข้น และต้องทำตอนนี้เลย ขณะที่หัวหน้าเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเผยว่ามีเพียง 109 คนเท่านั้น จากผู้เดินทางทั้งหมด 325,000 คนที่ถูกควบคุมตัวในสหรัฐ สำหรับเรื่องนี้ไม่เพียงแต่เหล่าผู้นำโลกที่แสดงท่าทีต่อต้าน ยังมีอัยการสูงสุดจาก 16 รัฐทั่วสหรัฐเห็นว่าคำสั่งฝ่ายบริหารนี้ขัดรัฐธรรมนูญ และแกนนำพรรครีพับลิกันบางคน รวมทั้ง ส.ว.จอห์น แม็คเคน ที่ออกมาตั้งคำถามและเห็นว่าเป็นกระบวนการที่สับสนมาก และอาจถูกกองกำลังรัฐอิสลาม หรือไอเอส ฉวยเอาไปใช้โฆษณาชวนเชื่อได้.-สำนักข่าวไทย