โจฮันเนสเบิร์ก 1 ก.พ.- อุตสาหกรรมสัตว์ปีกในแอฟริกาใต้โทษสหภาพยุโรป (อียู) ว่า เป็นสาเหตุที่ทำให้ใกล้ล้มละลายเพราะทุ่มตลาดด้วยการส่งไก่ราคาถูกเข้าประเทศ ขณะที่อียูโต้กลับว่าเป็นการโยนความผิด เพราะส่งออกไก่ไปแอฟริกาใต้น้อยเกินกว่าจะก่อปัญหาได้
พนักงานและผู้บริหารธุรกิจสัตว์ปีกในแอฟริกาใต้จะเดินขบวนไปยังสำนักงานอียูในกรุงพริทอเรียวันนี้ โดยอ้างว่า มีคนตกงานแล้ว 4,000-5,000 คน เสี่ยงตกงานอีก 110,000 คน ยังไม่รวมคนงานธุรกิจอาหารสัตว์อีก 20,000 คน อาร์ซีแอลฟูดส์ บริษัทผู้ผลิตสัตว์ปีกใหญ่ที่สุดของแอฟริกาใต้ปลดคนงานไปแล้ว 1,350 คน หรือ 1 ใน 5 ของทั้งหมดเมื่อเดือนก่อน และกำลังขายฟาร์ม 15 แห่งจากที่มีอยู่ 25 แห่ง ผู้บริหารบริษัทระบุว่า ธุรกิจสัตว์ปีกมีปัญหาตั้งแต่อียูเริ่มส่งออกสัตว์ปีกเข้ามามากขึ้นในลักษณะของการทุ่มตลาด บริษัทไม่เพียงแบกรับภาระทางการเงินในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แต่ยังขาดทุนหนักและใกล้ล้มละลายหากไม่ลดขนาดธุรกิจลง อุตสาหกรรมสัตว์ปีกแอฟริกาใต้กล่าวหาอียูว่า ทุ่มตลาดด้วยการส่งออกน่องไก่ราคาต่ำกว่าทุนเพราะตลาดยุโรปชอบรับประทานเนื้อส่วนหน้าอกมากกว่า ด้านเลขาธิการพรรคเอเอ็นซี ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลเสนอให้รัฐบาลเข้าแทรกแซงด้วยการซื้อฟาร์มที่ใกล้จะปิดตัวและหาตลาดใหม่ ๆ ให้แก่ผู้ผลิตในประเทศ
ขณะเดียวกันเอกอัครราชทูตอียูประจำแอฟริกาใต้ชี้แจงว่า เมื่อใดก็ตามที่ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนมีปัญหา ข้อตกลงการค้ามักตกเป็นแพะรับบาปอยู่เสมอ การคิดว่านโยบายการค้าของอียูเป็นสาเหตุให้อุตสาหกรรมสัตว์ปีกแอฟริกาใต้มีปัญหาเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง เพราะสัดส่วนไก่และน่องไก่ที่อียูส่งออกมาแอฟริกาใต้เมื่อเทียบกับการบริโภคในแอฟริกาใต้มีไม่ถึงร้อยละ 7 และร้อยละ 14 ตามลำดับ ปัจจุบันอียูเป็นคู่ค้าใหญ่ที่สุดของแอฟริกาใต้ และเพิ่งบังคับใช้ข้อตกลงความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างกันเมื่อปีก่อน.-สำนักข่าวไทย