ย่างกุ้ง 17 มี.ค. – ประชาชนที่อาศัยอยู่ในนครย่างกุ้ง อดีตเมืองหลวงของเมียนมา ซึ่งเป็นพื้นที่จัดการประท้วงต่อต้านรัฐประหาร พากันเดินทางด้วยรถบรรทุกและจักรยานยนต์เพื่อออกจากเมือง ในขณะที่กองกำลังความมั่นคงของเมียนมายังคงเมินเสียงเรียกร้องของประชาคมโลกให้ใช้ความอดกลั้น โดยยังคงใช้อาวุธร้ายแรงกับผู้ชุมนุมต่อต้านการยึดอำนาจ
ประชาชนในนครย่างกุ้ง ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เดินทางเข้ามาทำงานจากต่างพื้นที่ เดินทางด้วยรถบรรทุกและรถยนต์ ในขณะที่การจราจรติดขัดอย่างหนัก ยานพาหนะเคลี่อนตัวได้อย่างช้า ๆ ตั้งแต่ตอนเช้าวันอังคาร บางครอบครัวหอบของใช้ที่บรรจุอยู่ในกระเป๋าผ้าใบและพาลูก ๆ ขึ้นรถสามล้อเครื่องไปด้วยกัน การอพยพออกจากนครย่างกุ้งครั้งใหญ่นี้เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลทหารเมียนมาประกาศใช้กฎอัยการศึกในเขตไลง์ตายาและเมืองอีก 5 แห่งที่อยู่รอบ ๆ ซึ่งมีประชากรรวมกันแล้วประมาณ 2 ล้านคน การประท้วงในเมียนมาเกิดขึ้นทั่วประเทศนับตั้งแต่กองทัพก่อรัฐประหารรัฐบาลพลเรือนของนางอองซาน ซูจี เมื่อต้นเดือนที่แล้ส ประชาชนหลายแสนคนออกไปเดินขบวนตามท้องถนนและเรียกร้องประชาธิปไตย เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารเมียนมาใช้แก๊สน้ำตา กระสุนยางและกระสุนจริงเพื่อสลายการชุมนุมที่เกิดขึ้นรายวัน พร้อมกันนั้นยังปิดกั้นอินเทอร์เน็ตในเวลากลางคืนเพื่อขัดขวางการเตรียมการเคลื่อนไหวของผู้ประท้วง นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐกล่าววานนี้ ประณามรัฐบาลทหารเมียนมา ที่ใช้อาวุธร้ายแรงกับผู้ประท้วง โดยกล่าวหา ปราบปรามผู้ประท้วงอย่างโหดร้าย แม้ว่าจะมีการใช้อาวุธร้ายแรง แต่ผู้ประท้วงยังคงรวมตัวชุมนุมอย่างต่อเนื่องแม้จำนวนจะน้อยลงก็ตาม.-สำนักข่าวไทย