เจ้าพ่อสื่อฮ่องกงไม่เกี่ยวข่าวลูกไบเดนกับจีน

ฮ่องกง 31 ต.ค.- นายจิมมี ไหล่ เจ้าของธุรกิจสื่อรายใหญ่ในฮ่องกงออกตัวว่า ไม่เกี่ยวข้องกับรายงานข่าวที่กล่าวหาว่า บุตรชายนายโจ ไบเดน ตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงประธานาธิบดีสหรัฐเกี่ยวโยงกับการทำธุรกิจในจีน แต่ยอมรับว่าเงินของบริษัทเขาเคยถูกนำไปใช้สนับสนุนเรื่องนี้


ฮันเตอร์ ไบเดนและโจ ไบเดน

นายไหล่หรือไหล่ จี๋เย็งวัย 71 ปี สัญชาติอังกฤษ เป็นนักเคลื่อนไหวประชาธิปไตยในฮ่องกงและนักวิจารณ์จีนตัวยง เขาทวีตว่า เสียใจที่แอปเปิลเดลี หนังสือพิมพ์ในเครือธุรกิจของเขาถูกพาดพิงในบทความของเอ็นบีซี (NBC) สถานีออกอากาศกระจายเสียงของสหรัฐที่ระบุว่า เอกสารหนา 64 หน้าที่ส่งต่อในอินเทอร์เน็ตเรื่องนายฮันเตอร์ ไบเดน วัย 50 ปี บุตรชายคนที่สองของนายไบเดนมีความสัมพันธ์กับพรรคคอมมิวนิสต์จีนและทำธุรกิจในจีนมีความน่าสงสัยเรื่องผู้เขียนและแหล่งข่าวนิรนาม เพราะนายคริสโตเฟอร์ บัลดิง ผู้ร่วมเขียนเอกสารลับนี้อ้างว่าได้รับมอบหมายจากแอปเปิลเดลี่

มาร์ก ไซมอน ผู้บริหารของเน็กซ์มีเดีย

นายไหล่ยืนยันว่า แอปเปิลเดลีไม่ได้มอบหมาย แต่ยอมรับว่านายมาร์ก ไซมอน ผู้บริหารของเน็กซ์มีเดีย บริษัทของเขาเคยนำเงินบริษัทไปจ่ายเป็นค่างานวิจัย แต่เป็นยอดเงินเพียง 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 310,907 ล้านบาท) จึงไม่ต้องขอให้เขาอนุมัติ อย่างไรก็ดี เขาคิดว่าหลายคนคงไม่เชื่อว่าเขาไม่รู้เรื่อง ขณะนี้ชื่อเสียงของเขาเสียหายไปแล้ว ด้านนายไซมอนโพสต์แจ้งว่า ได้ลาออกแล้วจากเรื่องที่เกิดขึ้น และขอโทษที่ทำให้นายไหล่เสียหายในเรื่องที่ไม่รู้เรื่องด้วยเลย ขณะเดียวกันแอปเปิลเดลีแถลงว่า บทความสองเรื่องที่ตีพิมพ์เมื่อไม่นานมานี้ว่า นายฮันเตอร์ ไบเดนให้นักธุรกิจชาวไต้หวันเป็นคนกลางช่วยติดต่อธุรกิจในจีนแผ่นดินใหญ่นานกว่าทศวรรษ เขียนขึ้นโดยผู้สื่อข่าวของแอปเปิลเดลีในไต้หวัน และไม่มีความเกี่ยวข้องกับเอกสาร 64 หน้าแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กู้ภัยตึก สตง.ถล่ม

นายกรัฐมนตรี เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กู้ภัย ค้นหาผู้สูญหายเหตุตึก สตง.ถล่ม พร้อมสอบถามถึงอุปสรรคในการทำงานและความต้องการเพิ่มเติม

ปรับวิธีรายงานยอดผู้เสียชีวิต ให้นิติเวชยืนยันก่อน

รองผู้ว่าฯ กทม. เผยยอดผู้เสียชีวิตเหตุตึกถล่ม ที่ผ่านการพิสูจน์อัตลักษณ์แล้ว อยู่ที่ 16 ราย และอยู่ระหว่างการค้นหาอีก 78 ราย พร้อมแจงปรับวิธีรายงานยอดผู้เสียชีวิต ให้นิติเวชยืนยันก่อน

นายกฯ วางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะ เนื่องในวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์

นายกรัฐมนตรี วางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เนื่องในวันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ พุทธศักราช 2568 ณ ปฐมบรมราชานุสรณ์ สะพานพระพุทธยอดฟ้า