“ไบเดน” โชว์ใบยื่นภาษีรายได้ปีก่อน

วอชิงตัน 30 ก.ย.- นายโจ ไบเดน ตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงประธานาธิบดีสหรัฐ เปิดเผยแบบแสดงรายการภาษี (tax return) ปี 2562 ไม่กี่ชั่วโมงก่อนการโต้วาทีหรือดีเบตนัดแรกกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันเมื่อคืนวันอังคารตามเวลาสหรัฐ


ในแบบดังกล่าว ไบเดนวัย 77 ปี และนางจิล ไบเดน ภรรยาวัย 69 ปีที่เป็นอาจารย์ มีรายได้ที่ต้องเสียภาษีรวม 944,737 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 29.92 ล้านบาท) ชำระภาษีไป 346,204 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 10.96 ล้านบาท) เมื่อหักค่าลดหย่อนต่าง ๆ แล้วเป็นการชำระเกิน 46,858 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.48 ล้านบาท) ไบเดนและภรรยามีรายได้จากวิทยาลัยชุมชนนอร์เทิร์นเวอร์จิเนียและมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย และรายได้จากการกล่าวปาฐกถาและเขียนหนังสือ โดยในปีภาษีนั้นได้บริจาคเงินให้แก่การกุศล 14,700 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 465,539 บาท) ไบเดนดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิก (ส.ว.) รัฐเดลาแวร์ 6 สมัยตั้งแต่ปี 2516-2552 ก่อนมาเป็นรองประธานาธิบดีในรัฐบาลบารัค โอบามา รายได้ขณะเป็น ส.ว.ถือว่าอยู่ในกลุ่ม ส.ว.รายได้น้อยที่สุด แต่ช่วงสองปีหลังพ้นตำแหน่งรองประธานาธิบดีเขามีรายได้ 15.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 494 ล้านบาท) ส่วนใหญ่มาจากการกล่าวปาฐกถาและเขียนหนังสือ

ด้านนางคามาลา แฮร์ริส วัย 55 ปี ผู้สมัครคู่ชิงรองประธานาธิบดีสหรัฐของไบเดนเปิดเผยแบบแสดงรายการภาษีปีก่อนเช่นกัน เธอและนายดักลาส เอมฮอฟฟ์ สามีวัย 55 ปีที่เป็นทนายความ มีรายได้ที่ต้องเสียภาษีรวม 3,018,127 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 95.58 ล้านบาท) ชำระภาษีไป 754,809 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 23.90 ล้านบาท) ต้องชำระเพิ่ม 432,205 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 13.69 ล้านบาท)


ส่วนประธานาธิบดีทรัมป์ วัย 74 ปี ไม่เปิดเผยแบบแสดงรายการภาษีมาตั้งแต่ปี 2558 หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาสหรัฐว่า ทรัมป์จ่ายภาษีปีละ 750 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 23,750 บาท) ในปี 2559 และ 2560 และไม่จ่ายภาษีเลยเป็นเวลา 10 ปีในช่วง 15 ปีก่อนหน้านั้น โดยอ้างว่าขาดทุนจากการทำธุรกิจ นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการโต้แย้งกับกรมสรรพากรมาร่วมทศวรรษเรื่องความชอบธรรมในการขอคืนภาษีไปแล้ว (tax refund) 72.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,309 ล้านบาท) หากไม่ชอบธรรมเขาอาจต้องชำระคืนกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 3,167 ล้านบาท).- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลั่นมหาดไทยพร้อมสับสวิตช์ หาก สมช.สั่งหยุดจ่ายไฟ

“อนุทิน” ลั่นมหาดไทยพร้อมสับสวิตช์ หาก สมช. สั่งหยุดจ่ายไฟ ชี้หากเพื่อนบ้านทำผิดกระทบความมั่นคง เตรียมหาแหล่งพลังงานใหม่ มอง กฟภ. ทำเกินหน้าที่ร่วมลงพื้นที่ บอกเป็นหน่วยงานรับปฏิบัติ

นายกฯ​ เปิดงาน Amazing Thailand Grand Tourismand Sports Year 2025

นายกฯ​ ขอการท่องเที่ยวปีนี้ปังๆ ร่วมเปิดงาน Amazing Thailand Grand Tourismand Sports Year 2025 ย้ำรัฐบาลหวังจีดีพีเติบโตจากการท่องเที่ยว มอบผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด จัดกิจกรรมดึงนักท่องเที่ยวทั้งปี ปลุกคนไทยช่วยแชร์ข่าวจริง หลังถูกบิดเบือน​ “สรวงศ์” ตั้งเป้าการท่องเที่ยว 35 ล้านคน

เร่งล่าหนุ่มบุกเดี่ยวชิงทองกว่า 100 บาท ในห้างดังย่านลำลูกกา

ตำรวจเร่งล่าคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ร้านทองในห้างดัง ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี กวาดทองในถาดกว่า 100 บาท หลบหนีลอยนวล

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]