เอลซัลวาดอร์ 1 มิ.ย.- อะแมนดา พายุหมุนเขตร้อนของมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออกลูกแรกประจำปีนี้คร่าชีวิตคนไปแล้ว 14 คน เมื่อพัดถล่มเอลซัลวาดอร์และกัวเตมาลาในอเมริกากลางเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้น้ำท่วมและไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง
ประธานาธิบดีเอลซัลวาดอร์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน 15 วันเพื่อรับมือกับความเสียหายจากพายุ ทางการแจ้งว่า พบผู้เสียชีวิตแล้ว 14 คน คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะมากกว่านี้ ผู้เสียชีวิตราวครึ่งหนึ่งอยู่ในกรุงซานซัลวาดอร์ คนในเมืองหลวงประมาณ 4,200 คนต้องอาศัยในที่พักพิงของรัฐบาล เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินใหม่ซ้ำเติมสถานการณ์ฉุกเฉินอยู่แล้วจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบาด เนื่องจากพายุอะแมนดาโค่นต้นไม้ล้ม เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ดินถล่ม ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง บ้านเรือนเสียหายประมาณ 200 หลัง บางพื้นที่ต้องให้ทหารเข้าไปกู้ภัยพร้อมกับเจ้าหน้าที่ฉุกเฉิน เพราะน้ำท่วมสูง ทางการเตือนว่า มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดดินถล่มเพิ่มเติมอีกหลายจุด สร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินได้ เอลซัลวาดอร์มีประชากร 6.6 ล้านคน สภาพภูมิประเทศเกือบร้อยละ 90 เสี่ยงอุทกภัยและดินถล่มสูง
ส่วนที่กัวเตมาลา เจ้าหน้าที่เผยว่าถนนหลายสายถูกตัดขาดเพราะดินถล่มและน้ำท่วม แต่ยังไม่มีการอพยพประชาชน และยังไม่มีผู้เสียชีวิต พร้อมกับเตือนว่าแม้พายุอ่อนกำลังลงเป็นดีเปรสชันแล้ว แต่จะมีฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้แม่น้ำเอ่อล้น เสี่ยงเกิดน้ำท่วมริมฝั่งและดินถลมได้.- สำนักข่าวไทย