อังกฤษ 30 เม.ย.- อังกฤษมีการปรับการนับจำนวนผู้เสียชีวิตใหม่ทำให้ยอดรวมพุ่งขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ของยุโรป ขณะที่ผู้นำสเปนยอมรับความผิดพลาดของรัฐบาลในการควบคุมโรค
สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในอังกฤษยังไม่มีแนวโน้มว่าจะคลี่คลาย นายโดมินิก ร้าบ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ แถลงว่ายอดผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มเป็นกว่า 26,000 คนแล้ว แซงหน้าสเปนและฝรั่งเศสขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ของยุโรปรองจากอิตาลี ซึ่งมีผู้เสียชีวิตแล้วเกือบ 28,000 คน โดยเมื่อวานนี้ อังกฤษมีผู้เสียชีวิตเพิ่มถึง 795 คน และมีการนับรวมผู้เสียชีวิตตามบ้านพักคนชราและผู้ที่เสียชีวิตนอกโรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคมจนถึงวันที่ 28 เมษายนเข้าไปด้วย ซึ่งมีจำนวนกว่า 3,800 คน
ที่ผ่านมาอังกฤษจะรายงานยอดผู้เสียชีวิตประจำวันเฉพาะผู้เสียชีวิตในโรงพยาบาลเท่านั้น ส่วนผู้เสียชีวิตตามบ้านพักคนชราและที่อื่นๆ จะรายงานเป็นรายสัปดาห์แยกต่างหาก นายร้าบ กล่าวด้วยว่าเวลานี้ทางการกำลังเพิ่มการตรวจหาผู้ติดเชื้อให้ครอบคลุมทุกคนที่ต้องออกไปทำงานนอกบ้านและผู้ที่มีอาการป่วย รวมทั้งผู้ที่อายุเกิน 65 ปีตลอดจนเจ้าหน้าที่และคนชราตามบ้านพัก
ส่วนที่สเปนซึ่งเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากเป็นอันดับ 1 ของยุโรปและเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐ ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อติดเชื้อสะสมเกือบ 240,000 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 24,000 คน
นายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชส แถลงต่อรัฐสภาว่าขอแสดงความรับผิดชอบต่อความผิดพลาดของรัฐบาลในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าการตรวจหาผู้ติดเชื้อเป็นไปอย่างล่าช้า อย่างไรก็ดี แม้ว่าเวลานี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายลงแล้ว สเปนยังมีผู้ติดเชื้อรายใหม่วันละหลายพันคน และมีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน แต่รัฐบาลสเปนก็เตรียมผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์แล้ว.-สำนักข่าวไทย